"เซ็กซ์ทอย" กับเสรีภาพในการออกัสซั่มด้วยตนเองอย่างปลอดภัย
“เซ็กซ์ทอยไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์เพิ่มความสุขทางเพศ แต่ทางการแพทย์สามารถใช้เพื่อบำบัดบุคลิกภาพและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้”
แพทย์หญิงชัญวลี ศรีสุโข โฆษกแพทยสภา และกรรมการแพทยสภา (ประจำปี 2562-2564) เคยให้สัมภาษณ์ไว้ (ที่มา : https://theprototype.pim.ac.th/2018/07/02/sextoy/) ถึงกรณี ‘เซ็กซ์ทอย’ ในมุมมองทางการแพทย์ ซึ่งไม่ได้มองเฉพาะประโยชน์แต่เพียงด้านส่งเสริมความสุขสมทางเพศเท่านั้น แต่ยังนำมาใช้แก้ปัญหาเรื่องบุคลิกภาพ รวมไปถึงเติมเต็มความสุขทางเพศให้ผู้มีความผิดปกติทางร่างกาย หรือผู้เป็นโรคติดต่อทางเพศ อีกทั้งยังมองว่าช่วยลดปัญหาการคุกคามทางเพศ และท้องไม่พร้อมได้
แต่ในแง่กฎหมาย ยังอยู่ในหมวดหมู่วัตถุลามกเป็นของต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติศุลกากรพุทธศักราช 2560 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 ที่ว่าด้วยเรื่องการนำเข้า เผยแพร่ ประกอบการค้าหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งลามกอนาจารดังกล่าว ซึ่งจะต้องระวางโทษจำคุกสูงสุดไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ...โทษหนักพอๆ กับขับรถโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส
ทั้งสองมุมนี้ต่างขัดแย้งกัน ‘เซ็กซ์ทอย’ ในวันนี้จึงยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าเป็น ‘ผู้ร้าย’ หรือ ‘พ่อพระ’ แต่ที่แน่ๆ วงการใต้ดินมีจำหน่ายและถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายมายาวนาน
ถึงเวลาหรือยังที่สังคมไทยจะเปิดรับ ‘เซ็กซ์ทอยส์’ ให้เป็น ‘อุปกรณ์ทางการแพทย์’ ตรงนี้คงต้องรอไปอีกสักระยะ เช่นเดียวกับที่เรารอให้ความจริงว่า ‘กัญชา’ เป็น ‘ยารักษาโรค’ ปรากฏ
แต่กับวันนี้ วันที่เราค้นหาคำว่า ‘เซ็กซ์ทอย’ บนกูเกิ้ล แล้วได้ผลลัพธ์ที่ค้นพบประมาณ 291,000 รายการ ในเวลา 0.39 วินาที ลองมาฟังเสียงของคน Gen X อย่าง ‘พลอย-พลอยระวี จันทรา’ นางแบบสาวหุ่นเซ็กซี่ที่กล้าบอกอย่างมั่นใจว่า
“อยากให้เซ็กซ์ทอยถูกกฎหมาย และมีมาตรฐาน อย.”
จากข่าวที่บริษัทขนส่งนำเซ็กซ์ทอยของลูกค้าผู้หญิงมาโพส์ลงโซเชียล เราได้ดูข่าวนี้แล้วเรารู้สึกยังไง?
จริงๆ ในเรื่องเซ็กซ์ทอยเราว่ามันก็ปกตินะ มันไม่ได้มีอันตรายกับใคร เหมือนของใช้ทั่วไปสักชิ้นหนึ่ง จริงๆ ทุกคนใช้ก็ไม่ได้ดูแปลกอะไร ถามว่าอายไหมที่จะบอกคนทั่วไป? ก็อายที่จะต้องเปิดเผย แต่อย่างในวงเพื่อนเราพี่เราที่สนิทกันจริงๆ เวลาวันเกิดก็จะซื้อให้เป็นของขวัญด้วยซ้ำ จริงๆ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย
ในสังคมปัจจุบัน มันเป็นเรื่องผิดบาปไหมที่คนจะใช้เซ็กซ์ทอยกัน?
เราว่าไม่ผิดอะไรเลย จริงๆ เซ็กซ์ทอยส่วนใหญ่ผู้ชายยังชอบซื้อเลย อาจจะซื้อให้แฟน ใช้กับแฟน หรือซื้อให้ของขวัญวันเกิดเพื่อน เราว่าปกตินะ
ในฐานะผู้หญิงรุ่นใหม่ เรามีสิทธิเข้าถึงและครอบครองมากแค่ไหน?
ปกติเลยนะ อย่างเพื่อนเรามีเซ็กซ์ทอย 19 อัน แต่ละอันมีชื่อด้วยนะ (หัวเราะ) อันนี้ประสบการณ์ตรงจากเพื่อน เราก็ถามว่าทำไมมีเยอะจัง เขาก็บอกว่าบางอันแบตหมด บางอันร้อน บางอันพัง ก็ฮาดี ไม่ได้รู้สึกอะไร
ทุกคนครอบครองได้ปกติ ไม่ใช่เรื่องแปลก แค่มีไว้ใช้ค่ะ แก้ปัญหาอะไรได้เหรอ? ลดความเหงามั้งคะ (หัวเราะ) ดีกว่าไปเสี่ยงกับผู้ชายทั่วไปเพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาไปอยู่กับใครอะไรยังไง ขนาดเป็นแฟนกันคบกันยังเสี่ยงเลย คนเหงาและคนโสดอยู่คนเดียวก็ใช้ได้เป็นเรื่องปกติ
ในความรู้สึกเรามันขัดต่อความเป็นกุลสตรีไทยไหม?
ขัดไหม? ไม่ขัดนะ จริงๆ ผู้หญิงทุกคนต้องการมีครอบครัวอยู่แล้ว แล้วในเรื่องเพศตรงข้ามของทุกคนเนี่ย เขาก็ต้องมีเพศสัมพันธ์อยู่แล้ว ซึ่งเซ็กซ์ทอยเราก็ไม่ได้เล่นให้ใครเห็นหรือว่าลงโซเชียล มีติดไว้ไม่ได้เสียหายอะไรเลย สำหรับเราไม่ขัดต่อความเป็นกุลสตรี มันเป็นเหมือนของใช้ชิ้นหนึ่ง
บางคนกล่าวหาว่า คนใช้เซ็กซ์ทอยมีความวิปริตในรสนิยมทางเพศ คิดกับคำพูดนี้ยังไง?
วิปริตเหรอ? อาจจะมีส่วนนิดนึงที่ต้องใช้อะไรช่วย
ผิดไหมที่ผู้หญิงยุคใหม่จะเปิดโอกาสให้เซ็กซ์ทอยเข้ามาในชีวิตตัวเอง?
ไม่ผิด เรามองว่าช่วยลดการข่มขืน หรือฆาตกรรมได้ดีด้วยซ้ำ ดีกว่าไปกระทำต่อเยาวชน
ถ้าวันหนึ่งแฟนของเราถือเซ็กซ์ทอยเข้ามาในห้องนอน สิ่งแรกที่เราจะพูดคือ?
ซื้อมาทำไม! เคยใช้แล้ว (หัวเราะ) ชีวิตจริงเราไม่เคยมีเลยนะ เพิ่งรู้จักเมื่อสองปีที่แล้ว แต่มันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเพื่อนพี่เราก็ใช้เป็นเรื่องปกติ แต่ส่วนตัวจริงๆ ไม่เคยใช้ ไม่มี (หัวเราะ)
อยากให้ผู้เกี่ยวข้องดูแลเรื่องนี้ยังไง?
อยากทำให้ถูกกฎหมาย (หัวเราะ) ถ้าพูดกันจริงๆ มันไม่เป็นอะไรที่ผิดนะ ญี่ปุ่นเขาก็มีช็อปขายกันเยอะแยะ เราก็มีช็อปขายได้ ช่วยลดอาชญากรรมได้เยอะ เป็นอะไรทีดี ศีลธรรมก็ส่วนหนึ่ง แต่นี่ก็เป็นการแก้ปัญหาอีกแบบหนึ่ง สมมุติถ้าออกกฎหมายได้ข้อหนึ่ง เราก็อยากให้ครอบรองได้ ไม่จำกัดจำนวน(หัวเราะ) มันเหมือนกับเรามีรถหรูเยอะๆ ต้องเสียภาษีใช่ไหม? แต่สำหรับเซ็กซ์ทอยไม่ต้องเสียภาษีก็ได้นะ อยากให้ถูกกฎหมาย และมี อย. (หัวเราะ)
อยากฝากอะไรถึงหนุ่มสาวรุ่นใหม่เกี่ยวกับเซ็กซ์ทอยบ้าง?
อยากให้มองว่ามันเป็นเรื่องปกติ เพราะมันใช้ผ่อนคลาย เป็นเหมือนของใช้เราชิ้นหนึ่ง ที่คนคนหนึ่งจะมีติดตัวไว้ จริงๆ ไม่ได้มีอะไรที่น่าเกลียดน่าอายเลย เพราะมันก็ช่วยลดอาชญากรรม ฆาตกรรม ทารุณกรรมในเด็กและเยาวชนด้วย