อาหารยอดฮิต…คิดให้มากก่อนกิน

คนส่วนใหญ่รู้ว่า อาหารที่เราจะพูดถึงต่อไปนี้เป็นเมนูยอดนิยม และหลายคนก็กินกันอยู่เป็นประจำ แต่ไม่รู้จะมีสักกี่คนที่ตระหนักว่า ถ้ามองในแง่โภชนาการอาหารเหล่านั้นไม่มีประโยชน์ แถมยังมีโทษอีกต่างหากถ้ากินไม่เป็น หรือกระหน่ำกินติดต่อกันเป็นอาหารหลัก เรามีเหตุผลของการเกิดโทษภัยในอาหารยอดฮิตเหล่านั้นจากเว็บไซต์ fitnea.com มาเสนอ เพื่อการพิจารณาในการกินครั้งต่อๆ ไป

1. นักเก็ตไก่
อาหารฟาสต์ฟูดยอดนิยมที่กินสะดวกและหาได้ทั่วไป แต่ถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยง เพราะมีปริมาณเกลือสูง รวมถึงสารกันบูดและไขมันในปริมาณเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ

2. เฟรนช์ฟรายด์ (มันฝรั่งทอด)
ของว่างที่อุดมไปด้วยแคลอรี่ การกินเป็นประจำอาจก่อให้เกิดโรคเบาหวานและควบคุมน้ำหนักได้ยาก สารอาหารที่เป็นประโยชน์มีน้อยมาก แม้จะส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดน้อย ถ้าอยากกินจริงๆ แนะนำให้ใช้การอบแทนการทอด

3. ขนมขบเคี้ยวชนิดทอด
ขนมประเภทนี้ล้วนใส่เกลือในสัดส่วนเกินพอดี นั่นหมายถึงปริมาณแคลอรี และสารกันบูดในระดับที่ทำลายสุขภาพ อีกทั้งให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและใยอาหารต่ำ อันจะส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง

4. โซดา
แม้จะมีแคลอรีเท่ากับศูนย์ แต่ก็ไม่ได้ให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ใดๆ ยิ่งกว่านั้นโซดาในท้องตลาดยังใส่ส่วนผสมแต่งรสแต่งกลิ่น เช่น น้ำเชื่อมฟรุกโตส (ไซรัป) ที่ทำจากข้าวโพด ให้โทษมากกว่าน้ำตาล เพราะมันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไปเพิ่มระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดที่มีส่วนทำลายเซลล์ในตับ นอกจากนี้ยังทำให้อ้วน ช่วยกระจายเชื้อแบคทีเรียและมะเร็ง โดยไปเพิ่มปริมาณกรดในร่างกาย

5. ฮอตด็อกและเนื้อแปรรูป
กระบวนการผลิตในท้องตลาดใช้สารสังเคราะห์ปริมาณสูง รวมถึงผงชูรส เกลือ และบรรจุภัณฑ์ราคาถูก ที่สำคัญ ในขั้นตอนการแยกเนื้อและไขมันต้องผลิตภายใต้ความร้อนและความดันที่สูงมาก สารอาหารที่มีประโยชน์จึงสูญเสียออกไปแทบไม่เหลือ

6. แฮมเบอร์เกอร์
เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคเบาหวาน จากการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่รับประทานแฮมเบอร์เกอร์ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ มีแนวโน้มเป็นเบาหวานมากกว่าคนที่ไม่ทาน ส่วนผู้ชายก็น่าจะเสี่ยงไม่แพ้กัน

7. ซีเรียลผสมน้ำตาล
อาหารเช้าที่หลายบ้านมีไว้คู่ครัว ทราบหรือไม่ว่าแต่ละกล่องเพิ่มปริมาณน้ำตาลเข้าไปในระดับเสี่ยงเป็นเบาหวาน แม้คุณสมบัติเส้นใยสูงจะช่วยป้องกันเบาหวาน แต่ซีเรียลเหล่านี้ก็มีไฟเบอร์อันเป็นประโยชน์ในสัดส่วนที่ต่ำมาก ถ้าอยากกินจริงๆ ให้มองหาซีเรียลที่ข้างกล่องระบุว่ามีไฟเบอร์ประมาณ 5 กรัม และเลี่ยงชนิดที่มีน้ำตาลสูง

8. มันฝรั่งทอดชนิดแผ่น
อุดมไปด้วยไขมันและแคลอรี ที่สำคัญเค็มมาก ทั้งหมดนี้แทคทีมกันทำร้ายสุขภาพอย่างแน่นอน ทางที่ดีควรกินให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อหนีจากปริมาณไขมันและแคลอรี่ที่เกินต้องการ ก่อนจะเกิดการสะสมจนน้ำหนักพุ่งกระฉูด ซึ่งจะนำไปสู่โรคอ้วนและปัญหาสุขภาพอีกสารพัด

9. กราโนลา บาร์
หรืออาหารเช้าชนิดอัดแท่ง ที่ประกอบด้วยน้ำนมใส่ผลไม้แห้ง ผลไม้เปลือกแข็ง ข้าว ฯลฯ หลายคนอาจจะเห็นว่าเป็นอาหารสุขภาพ แต่ความจริงแล้วกราโนลา บาร์ มีปริมาณน้ำตาลไซรัปข้าวโพดสูง แม้บางยี่ห้อจะโฆษณาว่ามีส่วนผสมของน้ำผึ้งแท้ แต่สารให้ความหวานส่วนใหญ่มาจากน้ำตาลไซรัปข้าวโพด ที่อุดมไปด้วยโซเดียมและไขมันที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

10. คุกกี้ แครกเกอร์ เค้ก และ มัฟฟินสำเร็จรูป
ขนมเหล่านี้จัดอยู่ในหมวดเดียวกันของร้านสะดวกซื้อ และมีผลต่อสุขภาพใกล้เคียงกัน นอกเหนือจากปริมาณน้ำตาลและเกลือที่สูงมาก ยังประกอบไปด้วยไขมันทรานส์ ซึ่งผู้ผลิตนิยมใช้เพราะราคาถูกกว่าไขมันที่มีประโยชน์ชนิดอื่น และยังช่วยยืดวันหมดอายุ ทำให้หน้าตาขนมดูดีอยู่ได้นาน

11. ชาเย็นสำเร็จรูป
มักจะทำมาจากชาราคาถูก นอกจากไม่มีประโยชน์ใดๆ ต่อร่างกาย ยังเต็มไปด้วยกลิ่นสีสังเคราะห์ น้ำตาลไซรัปข้าวโพด และน้ำตาลชนิดอื่น

12. มาการีน (เนยเทียม)
ข้อเสียประการสำคัญคืออุดมไปด้วยไขมันทรานส์ที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น โรคอ้วน และโรคอื่นที่จะตามมาอีกมากมาย นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยอนุมูลอิสระ สารกันบูด สารอีมัลซิฟายเออร์-ป้องกันการแยกตัวของน้ำและน้ำมัน และเฮกเซน-สารป้องกันการละลาย ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

13. ข้าวโพดคั่วจากไมโครเวฟ
เมนูที่ไร้คุณค่าทางสารอาหารมากที่สุดเมนูหนึ่ง เนื่องจากข้าวโพดชนิดนี้ล้วนผ่านการตัดต่อทางพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) ยังไม่รวมสารกันบูดและเกลือที่ใส่ลงไปไม่ยั้ง ยิ่งกว่านั้นยังมีไดอะซิติล-สารที่อยู่ในเนยหรือน้ำมันที่ใช้ในการเพิ่มรสและกลิ่น ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดหลอดลมอักเสบ หลอดลมถูกทำลาย หรือมีอีกชื่อว่า Popcorn Lung

ชั่งใจดูเองเถิด ว่าระหว่างความโก้เก๋ทันสมัยและความอร่อยลิ้น กับความเสียหายต่อสุขภาพอย่างมหาศาลนั้น คุณจะเลือกเอาอย่างไหน