ก้าวข้ามส่วนสูง 165 ซม. “ธันเดอร์ ขจรศักดิ์” นายแบบไทยในนิวยอร์ก
คุณเคยได้ยินประโยคนี้ไหมครับ “ยิ่งพบความชอบตัวเองยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะจะให้เราไปถึงฝันได้เร็ว” ซึ่งเป็นประโยคคลาสสิกที่อยู่ในใจใครหลายคน แต่หากความฝันของคุณมีข้อจำกัดเรื่องส่วนสูงล่ะ จะทำอย่างไร ?
ธันเดอร์-ขจรศักดิ์ สัตย์ซื่อ หนุ่มไทยที่ตกหลุมรักแฟชั่นมาตั้งแต่จำความได้ มีความฝันอยากเติบโตในวงการนี้ แต่ข้อจำกัดเรื่องความสูงก็เกือบทำให้ฝันสะดุด แต่ด้วยความพยายามและความเป็นตัวของตัวเอง ทำให้ในวันนี้เขาตามฝันสำเร็จได้เป็นนายแบบอิสระที่นิวยอร์ก พร้อมกับรับหน้าที่เป็น Content Creator ให้กับแบรนดฺ์กระเป๋าเป้ชื่อดัง
ตามฝันก่อนอย่าอยู่เฉยๆ รอมันวิ่งเข้ามา
หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ธันเดอร์ ตัดสินใจบินลัดฟ้า มาที่ชิคาโก ด้วยความหวังที่จะพัฒนาภาษาอังกฤษและนำพาตัวเองมาอยู่ในโลกแห่งแฟชั่นและศิลปะพร้อมตามฝันที่อยากเป็นนายแบบอาชีพซึ่งเขามีไอดอลเป็น Pharrell Williams
“ตอนเป็นวัยรุ่น เริ่มฟังเพลง Hip-Hop, R&B แล้วก็อยากแต่งตัวเท่ๆ บ้าง แต่ด้วยความตัวเล็ก และด้วยยุคตอนนั้นในไทยคือถ้าโย่มากๆ ก็ไม่เท่อีก ทีนี้ เห็น Pharrell Williams ครั้งแรก ในเอ็มวี Frontin แต่งสตรีทก็แบบ “เฮ้ย เท่วะ นี่แหละกู กูต้องโตมาแล้วเท่แบบนี้”
โอกาสบางครั้งมาในแบบไม่คาดฝัน
ในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ที่ชิคาโก ธันเดอร์ ได้โพสต์รูปตัวเองในอินสตาแกรม @thundersyefah ด้วยสไตล์การแต่งตัวที่โดดเด่น และสีผมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เขาได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์สินค้า และศิลปินหลายชีวิตในฐานะนายแบบหน้าใหม่ พร้อมได้งานประจำเป็น Content Creator อีกด้วย
“ลงรูปตัวเองเน้นแต่งตัวในอินสตาแกรม แล้วมีช่างภาพมาเห็นเลยชวนมาลองเป็นนายแบบ ผมก็ชอบเลยครับทีนี้ เอาใหญ่เลย รู้สึกว่าหล่อมาก แล้วก็ค่อยๆ ได้โอกาสถ่ายงานสร้างคอนเนกชั่นมาเรื่อยๆ จนเริ่มจริงจังก็ลองมาแคสงานที่นิวยอร์กช่วงแฟชั่นวีค เห็นความเป็นไปได้ที่จะรับโอกาสดีๆ เรียนจบย้ายมาเลยครับ ตายเอาดาบหน้าเดี๋ยวว่ากันอีกที”
หลังจากแน่วแน่แล้วว่าจะเติบโตในเส้นทางสายนี้ที่อเมริกา ธันเดอร์ เริ่มพัฒนาตัวเองทำ Photoshoot และ Styling ผ่านคอนเนกชั่นที่ได้มาจากการเป็นนายแบบ และเมื่อได้ทำในสิ่งที่ใจรัก ได้อยู่ในวงการที่วาดฝันไว้ที่ชิคาโกครบ 5 ปีธันเดอร์ตัดสินใจเดินทางมาใช้ชีวิตในก้าวต่อไปที่นิวยอร์ก เพื่อต่อยอดความฝันที่จะต้องเป็น “Fashion Icon”
ส่วนสูงคือปัญหา แต่มีฝันต้องพยายาม
ด้วยส่วนสูงเพียง 165 เซนติเมตร ทำให้ความฝันในการเป็นนายแบบของ ธันเดอร์ มีอุปสรรคในบางครั้ง ซึ่งแม้จะต้องถูกปฏิเสธงานเพียงเพราะส่วนสูง เขาก็ไม่ยอมแพ้ และพยายามนำเสนอจุดเด่นอื่นๆ ของตัวเอง เพื่อก้าวเดินในเส้นทางสายแฟชั่น โดยเน้นชูสไตล์การแต่งตัวกับทรงผม เพราะบางครั้งคนที่รูปร่างสูงโปร่งก็ใช่ว่าจะมีสไตล์เหมือนเขา
“ผมตัวเล็กคือเสียโอกาสเพราะมาตรฐานเชยๆ นี้มาทั้งชีวิตในหลายๆ เรื่อง จนบางทีมันก็สงสัยตัวเองว่าเลือกทางถูกไหม เพราะผมไม่เคยเห็นนายแบบตัวเล็กๆ แบบผมเลย คือเล็กก็ไม่เล็กเท่าผม แต่ไม่เป็นไรหรอก โลกค่อยๆ เปลี่ยน Diversity Movement กำลังมาในสายนี้ ไม่เคยเห็นก็พยายามเป็นคนช่วยบุกเบิกไปละกัน”
มุมมองแฟชั่นหลังจากได้รู้จักวงการนี้
จากการที่ได้มาทำงานในวงการแฟชั่นมากกว่า 5 ปี กับแบรนด์ Beats by Dre, 10 Deep, Schott NYC และ อื่นๆ ทำให้เขาค้นพบว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ของความสุข แฟชั่นสำหรับเขามันเป็นสิ่งที่สามารถจับต้องได้มากกว่าที่เคยคิด อะไรที่เขาเคยมองว่าเจ๋งมาก ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้มาเป็นส่วนร่วม วันนี้มันเป็นไปได้แล้ว
สำหรับหลายคนที่มองว่าเรื่องแฟชั่นเป็นเรื่องของคนรวย ธันเดอร์ มองว่า มีส่วนจริง เพราะคนรวยมีกำลังทรัพย์ที่เลือกสรรหรือมีเวลามาใส่ใจเรื่องพวกนี้ได้มากกว่า อย่างไรก็ดีหากใจรักและรสนิยมดีจริง ยังไงก็เชื่อว่าน่าจะหาทางมิกซ์แอนด์แมทช์ให้เท่ได้อยู่ดีในงบจำกัด เพราะถึงจะเป็นเรื่องของคนรวย แต่ก็เป็นเรื่องของคนใจรักที่ไม่รวยเช่นกัน
ด้านมุมมองที่มีต่อวงการแฟชั่นของประเทศไทย ธันเดอร์เห็นว่า "ยังต้องพัฒนาในเรื่องของ Representator อีกครับ ไม่ใช่แค่คนรูปร่างผอมสูง (โดยเฉพาะฝรั่ง) เท่านั้นที่อยากจะแต่งตัวรึเปล่า? อยากเห็นรันเวย์ไทย คูลๆ แซ่บๆ ที่มีคนหลายๆแบบครับ เช่น Takara Wong ก็เป็นตัวอย่างที่ดีในไทยนะผมว่า แต่ขอเห็นมากกว่านี้"
ที่นิวยอร์กการแข่งขันสูงแต่ขออยู่แบบมีความสุข
อย่างที่ทราบกันนิวยอร์ค คือ เมืองหลวงแห่งแฟชั่น หลายต่อหลายคนจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาที่นี่เพื่อตามฝัน ธันเดอร์ ก็คือหนึ่งในนั้นเขาจึงเข้าใจในเรื่องของการแข่งขัน
“ทุกคนก็มาที่นี่เพื่อต่อสู้หาโอกาสให้ตัวเองทั้งนั้นอ่ะครับ ทุกคนอยากให้วันของตัวเองมาถึงกันทั้งนั้น แต่ตัวผมไม่ฟาดฟันกับใครทั้งนั้น เวลาเห็นเพื่อนนายแบบได้งานดีๆ ผมจะรู้สึกดีใจมีแรงจูงใจมากๆ แบบ เฮ้ย เพื่อนทำได้ กูก็ทำได้วะ ไรงี้มากกว่า”
มีฝันทำให้พัฒนาตัวเอง
ธันเดอร์ บอกว่า การที่เรามีความฝันไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ ข้อดีของมันคือทำให้เราพัฒนาตัวเองมากๆ เราอยากได้มันมากเราก็ตั้งใจพัฒนาตัวเอง แล้วระหว่างทางที่จะไปถึงฝัน เราได้ทำอะไรสนุกๆ ที่เกี่ยวกับฝันของเราแน่นอน ทุกวันนี้ได้ถ่ายงานไปเรื่อยๆ เล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ดังอะไร ก็ถือว่าฝันเป็นจริงแล้ว แค่ทำต่อให้ดีขึ้นเรื่อยๆ แค่นั้นพอ
สุดท้ายสำหรับใครที่มีฝันแต่อาจจะถูกตีกรอบด้วยคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ธันเดอร์ บอกสั้นๆ ว่า “แค่ลงมือทำก็เป็นไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว”
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ