สุขไม่ง้อใคร ชีวิตง่ายๆ ของ "ซันนี่"
รู้กันดีว่าอาชีพ "ดารา-นักแสดง" เก่าไปใหม่มาอยู่เสมอ
เมื่อยังอยู่ในช่วงขาขึ้น หลายคนจึงกอบโกยเต็มที่ ด้วยไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร
แต่คงไม่ใช่กับ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ที่ 9 ปีในวงการ ถ้าไม่นับพวกงานเล็กงานน้อย งานหลักๆ กลับมีเพียงหนัง 6 เรื่อง และซีรีส์-ซิทคอมอีก 4 เท่านั้น
"ไม่รู้ว่าน้อยหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกว่าชอบมันหมดเลย" นักแสดงเชื้อสายไทย-สิงคโปร์-ฝรั่งเศส วัย 33 ปี บอกยิ้มๆ
พร้อมบอกถึงเหตุที่เป็นเช่นนั้น คือ การเลือกทำงานตามความรู้สึก
"เหมือนถ้าเปรียบเทียบง่ายๆ คนทั่วไปจะคบแฟนรู้สึกยังไง ผมไม่มีอย่างอื่นเลย ผมชอบผมก็คบเขา
"แต่หลังๆ มีเพิ่มขึ้นมา เมื่อก่อนเราเห็นดราฟแรกจะรู้ได้เลยว่าไม่ชอบมัน แต่หลังๆ มันมีคนที่เจตนาดีจริงๆ เราจะรู้สึกได้ แล้วหลังจากนี้เราช่วยมันไปด้วยกัน แก้มันไปด้วยกัน"
กระนั้นที่ปฏิเสธไปก็มีไม่น้อย ซึ่ง "เสียใจนะ"
"ผมอยากแสดงเลยตื่นเต้นมากเวลามีคนส่งบทมา ผมจะนั่งอ่านด้วยความตั้งใจเราก็จะผิดหวังเพราะเราไม่ชอบมัน
"ผมเกลียดการต้องไปเอาเปรียบใคร เราทำงานนี้ไม่ดีหรือไม่เก่ง เราจะไม่พยายามยัดตัวเองเข้าไป พี่เอาผมดิ ผมทำยังงู้นยังงี้ ผมอยากให้คนที่เขาจ้างงาน ต่อให้เราไปยืนพูดคุยเฉยๆ ก็อยากให้เขาได้งานที่ดี"
ขณะเดียวกัน "รู้สึกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การใช้ชีวิตและทำสิ่งที่เราชอบ"
ต่อให้ทำสิ่งนั้นแล้วจะไม่โด่งดัง หรือร่ำรวยเท่าทำอย่างอื่นก็ตาม
"มันแล้วแต่ว่าเรากล้าเสี่ยงกับมันแค่ไหน" ซันนี่ว่า
"ผมกล้าลุย ผมยอมไม่มีกิน ยอมจน หรือยอมอะไรก็ได้ คือชอบมีเซ้นส์ตลอดเวลาว่าเราไม่ตายหรอก ถ้าเราจะเป็นคนแบบไหน ถ้ามีความสุข ถ้าซื่อสัตย์กับสิ่งที่ทำ
"ปัจจัยภายนอกเป็นสิ่งที่คนอื่นพูดมา คนเราถ้าขยันหรืออยากทำอะไรไม่ตายหรอก" คนพูดบอกซ้ำ
ก่อนจะย้ำว่าไม่ใช่รวยล้นฟ้า ไม่ได้มีครบทุกอย่าง รวมถึงไม่ได้ "ติสท์" อย่างหลายคนนิยามทั้งที่ไม่เข้าข่าย แต่แค่ "เข้าใจตัวเองว่าอยากได้อะไรบ้าง มีสิ่งอะไรที่เห็นว่าไม่จำเป็น
"อย่างรถตอนนี้ก็ไม่จำเป็นสำหรับชีวิตผม หลายอย่างที่คนเขาบอกต้องมีกันแล้วมานั่งคิดว่าไม่จำเป็น ผมก็เลยอยู่ได้โดยไม่ได้คิดว่าขาดอะไรเลย"
โดยความคิดนี้เขาเพิ่งได้ติดตัวมาช่วงเรียนปี 1 คณะนิเทศศาสตร์ ม.อัสสัมชัญ แล้วที่บ้านมีปัญหาโดนโกง
"เวลามีเรื่องร้ายๆ ผมเลยสูญเสียศรัทธา รู้สึกว่าหลังจากนี้จะไม่พึ่งใคร จะทำทุกอย่างด้วยตัวเองตลอด แล้วจะถามตัวเองตลอดว่าผมรู้สึกอย่างนี้จริงๆ เหรอ
"เมื่อก่อนชอบมีเรื่องอะไรเข้ามาแล้วเราเสียใจ ฟูมฟาย ก็มานั่งคิดว่าเราจะมานั่งเสียใจ ฟูมฟายทำไมว่ะ เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เหรอ รู้สึกเสียใจจริงๆ เปล่าที่สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับชีวิต มันไม่ได้ขนาดนั้นนี่หว่า หลังจากนั้นผมเลยแยกแยะออกว่าอันไหนเราต้องการบ้าง อันไหนเราไม่ต้องการ เราแค่ฟังคนอื่นมา"
และจากครั้งนั้นแม้ยังเชื่อมั่นในความดี ความถูกต้อง แต่เขาก็เลิกนับถือศาสนาใดๆ โดยไม่ได้ลบหลู่แล้วหันมาพึ่งตัวเอง
ไม่ใช่เพราะหมดความไว้ใจใครต่อใคร แต่ "ถ้าผมไม่จมน้ำจริงๆ ผมขอสู้ด้วยตัวเองก่อน ผมจะไม่ไปพึ่งเขาเลย ผมรู้สึกว่ามันเป็นการเดือดร้อนคนอื่นเป็นการที่เราต้องสู้ด้วยตัวเองสิ"
โชคดีที่หลังจากนั้นไม่นานได้เจอและทำในสิ่งที่รักอย่างการแสดง
"ผ่านมาแล้ว9 ปี ยังรู้สึกเหมือนเดิมเหมือนวันแรกที่ยังกระตือรือร้น มีแพสชั่นกับมัน นี่เป็นสิ่งเดียวในชีวิต"
สิ่งเดียวที่รู้สึกว่าทำไปได้เรื่อยๆ โดยไม่จำเป็นต้องมุ่งกอบโกยแค่ช่วงใดช่วงหนึ่ง
"คนบางคนถ้าเขาทำช่วงหนึ่งเพื่อหาเวลาไปเที่ยว แสดงว่าสิ่งที่ทำอยู่เขาไม่ได้รักขนาดนั้น เขาทำเพื่อเลี้ยงชีพ ผมไม่เคยคิดจะเลิกอาชีพผมเลยถ้าผมรักมัน ผมไม่เคยอยากหยุดเลยเพราะผมอยากทำ ผมเลยไม่ได้คิดว่าต้องหาเวลาพักเพราะว่ามันมีความสุขพอๆ กับผมไปเที่ยว
"ผมมีความสุขกับทั้งอาชีพของผม
"หรือไม่ว่าเจอมุมเศร้า มุมเครียดผมเอ็นจอย มันไม่ได้มาง่ายๆ นะมุมอะไรแบบนี้ เอ็นจอยกับทุกความรู้สึกไม่อยากหนีมัน"
พร้อมย้ำ "จริงๆ ชีวิตมันไม่ได้ยากนะ จะทำให้มันยากทำไม"
อย่างไรก็ตาม นอกจากงานบันเทิงที่มีซีรีส์สุดโรแมนติกอย่าง STAY ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ ซึ่งจะออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 20.00 น. ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ทีวี เริ่ม 14 ก.พ. นี้ และซีรีส์ฮาล้อเลียนละครน้ำเน่า น้ำตากามเทพ แล้ว
เขายังมีธุรกิจเสื้อผ้า "Raven and the ForeignerCE" ที่ทำร่วมกับเพื่อน แล้วฝากขายที่ร้านในจตุจักรและในโซเชียลเน็ตเวิร์ก
ส่วนเรื่องความรักที่มักโดนจับตา หนุ่มหล่อบอก "ทุกความสัมพันธ์ถ้าไม่นับเกี่ยวกับพ่อแม่ มันมีการหมดอายุ ผมรู้สึกอย่างนั้น
"เพราะผู้หญิงกับผู้ชาย เราโดนสร้างมาให้ไม่เหมือนกัน แล้วอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่เราอยากอยู่ด้วยกัน มันคือโทรศัพท์คนละระบบกันอยู่ด้วยกันไม่ได้"
ซึ่ง "ถ้าผมเจอคนคนหนึ่งอย่างในบทหนัง รู้สึกว่ารักเขาจริงๆ มันดีจริงๆ แล้วคิดว่าไม่แต่งงานกับเขาเนี่ยไม่ได้ ผมก็จะแต่ง ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาจะทิ้งผมไปอยู่ดีเพราะรู้สึกว่ามันคุ้มค่ากับสิ่งที่ทำลงไป
"แต่มันยังไม่เจอไง" ซันนี่ย้ำพลางขำ
ด้วยไม่ค่อยโฟกัสเรื่องนี้และยังไม่พร้อมดูแลใครในฐานะ "แฟน" ฐานะที่มาพร้อมความคาดหวังสูงลิ่บ ดังนั้น ข่าวกับสาวๆ ไม่ว่าจะ แยม-มทิรา ตันติประสุต หรือล่าสุด ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร นางเอกคู่ขวัญหนัง 300 ล้าน จึงเป็นแค่ข่าว
และพระเอกดังก็ไม่ได้ซีเรียสว่าจะเจอตัวจริงเมื่อไหร่
ในเมื่อทุกวันนี้มีความสุขดีกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว