"Love Unlimited" นิยามจากคู่รักหลากสไตล์
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
หากถ้อยคำประพันธ์แสนคลาสสิกในหนังสือ "หิ่งห้อย (Fireflies)" ของ "รพินทรนาถ ฐากูร" มหากวีคุรุเทพชาวอินเดีย ที่บันทึกไว้ว่า "รักคือความเร้นลับอันมิรู้จบ เพราะหาอื่นใดมาอธิบายมิได้ รักยังคงเป็นความลับแม้เมื่อเอ่ยถึง ผู้มีรักเท่านั้นจึงรู้แท้ว่าตนเป็นที่รัก" คือความจริงแห่งความรู้สึกนึกรัก ก็คงไม่แปลกนัก ถ้ารูปแบบความรักของคนบนโลก จะมีแนวทางมากมายหลากหลายรูปทรงจนแทบไม่ซ้ำกัน
เห็นได้จากการมีคู่รักต่างวงการสาขาอาชีพอย่าง "เดวิด-วิกตอเรีย เบ็กแฮม" ที่อยู่ยงคงกระพันมานานกว่า 16 ปี เช่นเดียวกับคู่ของนักดนตรีระดับตำนาน "เซอร์เอลตัน จอห์น" ที่เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายอังกฤษกับ "เดวิด เฟอร์นิช" ชายหนุ่มที่คบหาดูใจกันมานาน ไปจนถึงคู่รักโลกตะลึงกับช่วงวัยอันแตกต่างไม่น่าลงตัวแบบ "จาง มู่อี่" นักร้องหนุ่มชาวจีนวัย 25 กับ "อาคามา มิกิ" นางแบบลูกครึ่งจีน-แคนาดาวัย 13
เมื่อความรักไม่มีข้อจำกัดใดใช้ผูกมัดได้เช่นตัวอย่างข้างต้น "ประชาชาติธุรกิจ" จึงได้พูดคุยกับตัวแทนคู่รักหลากสไตล์ มานำเสนอให้ได้ศึกษาเรียนรู้ความแตกต่างของมุมมองวิธีคิด เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเทศกาลแห่งความรัก "วาเลนไทน์"
คู่รักโบราณ "ซูซี่-วิทย์"
ภาพลักษณ์ บทสัมภาษณ์ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ที่คนทั่วไปเห็นผ่านสื่อ ทำให้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่นิยามถึงความรักระหว่างสาวไฮโซ "ซูซี่-หทัยเทพ ธีระธาดา" และสามีรุ่นน้องสุดหล่อ "วิทย์-ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล" ว่า "หวานจนเลี่ยน" แต่ทั้งคู่ก็ไม่สนกระแสซุบซิบที่มีมานาน กลับร่วมกันสร้างเส้นทางรักของตนให้ใครหลายคนแอบตาร้อน
"ความสวีตที่เห็นในจอ ชีวิตจริงก็เป็นแบบนั้นนะ แต่ชีวิตเราก็ยังมีมุมอื่น ๆ ด้วย ไม่ค่อยมีใครรู้หรอกว่าคุณวิทย์แคร์ความรู้สึกพี่มาก เวลาพี่ไม่สบายใจคุณวิทย์จะทุ่มเวลาให้กับพี่ตลอด อย่างล่าสุด สุนัขของเราเพิ่งตายไปหนึ่งตัว พี่เสียใจมาก คุณวิทย์รู้ว่าพี่ชอบธรรมะ เขาก็เอาเรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติมาปลอบพี่ หรือเวลาพี่ถือศีล 8 ซึ่งพี่จริงจังมากจะไม่นอนบนเตียงเลย คุณวิทย์ก็ลงมานอนที่พื้นเป็นเพื่อนกัน พร้อม ๆ กับอ่านหนังสือธรรมะกล่อมพี่ไปด้วย" ซูซี่-หทัยเทพ เอ่ยถึงความรักระหว่างเธอและสามี
เธอบอกว่าแม้สามีจะมีอายุน้อยกว่าถึง 25 ปี แต่ด้วยที่ตัวเธอมีลูกชาย 2 คน ทำให้เธอทันความคิดของคนหนุ่ม ประกอบกับรสนิยมที่ไม่ต่างกัน ดูหนัง ฟังเพลงสไตล์เดียวกัน จึงทำให้อยู่ด้วยกันได้ ทั้งนี้เธอยังแซวสามีตนเองว่า สงสัยที่มาหลงรักเธอเพราะเขาชอบเพลงโบราณ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็โบราณแค่ในเรื่องของอายุ ส่วนร่างกายและความคิดของ "ซูซี่-หทัยเทพ" ยังคงแซ่บ สดชื่นอยู่ตลอดเวลา
"ซูซี่-หทัยเทพ" บอกว่าสิ่งที่ทำให้มัดใจสามีได้อยู่หมัด คือ การสร้างคุณค่าในตัวเอง รักตัวเองให้มาก ถ้าผู้หญิงทำตัวมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี รับรองว่าผู้ชายจะต้องมาวิ่งตามเป็นเงา และวิธีนี้ใช้ได้ผลกับทุกคน ไม่ใช่แค่สำหรับคู่เธอ
ก่อนจะตบท้ายด้วยประโยคที่ทำให้ขาเมาท์ซึ่งชอบตั้งเงื่อนไขให้ความรักด้วยเรื่องเพศ เรื่องวัย เรื่องกายภาพทั้งหลาย ต้องหยุดปากว่า
"ทุกวันนี้พี่กับคุณวิทย์อยู่ด้วยกันเพราะความผูกพัน การอยู่ด้วยความดีที่มีต่อกันมันสร้างความผูกพันที่ลึกซึ้ง"
คู่รัก "พอร์ช-อาม"
ย้อนกลับไปเมื่อต้นปีที่แล้ว กระแสฮือฮาในโลกโซเชียลถูกจุดขึ้นจากคลิปวิดีโอเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานของคู่รักชายรักชายคู่หนึ่ง จนทำให้ชื่อ "พอร์ช อภิวัฒน์" และ "อาม สัพพัญญู" หรือที่ชาวไซเบอร์ติดแฮชแท็กถึงพวกเขาว่า "พอร์ชอาม" คู่รักในคลิปดังกล่าวตกอยู่ในกระแสความสนใจของผู้คนที่ไม่หยุดแค่โลกออนไลน์ ทั้งรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ ละคร หนังสือ แมกาซีน ต่างต้องการให้ทั้งคู่ไปถ่ายทอดเรื่องราวแห่งความรัก
"คลิปนั้นมันเกิดจากเพื่อนเราอยากแชร์โมเมนต์แห่งความสุขไปให้เพื่อนที่ไม่ได้อยู่ร่วมสถานการณ์นั้นแต่พอคนอื่นๆ เห็นก็เลยเป็นเรื่องราวขึ้นมาครับ แต่สถานการณ์หลังจากนั้น เราไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน ก็ตกใจมาก และคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนดัง บวกกับกลัวกระแสลบที่จะพุ่งไปหาคนรอบตัวเรา เราจึงปฏิเสธทุกสื่อที่เข้ามา นี่เป็นครั้งแรกที่เราพูดเรื่องความรักผ่านสื่อ"
"ตอนนั้นผมคบกับอามมาเกือบ 6 ปีแล้ว เมื่อผมรู้สึกพร้อมและมั่นใจว่าอามคือคนที่ใช่ที่จะมาเป็นคู่ชีวิต ผมก็ไปปรึกษาและเตี๊ยมกับเจ้าสาวซึ่งเป็นเพื่อนอาม และเป็นรุ่นน้องผม ว่าจะขอใช้เวลาหลังงานแต่งของเขา ขออามแต่งงาน ทุกคนในคลิป
รู้เรื่องหมด ยกเว้นอาม" พอร์ช-อาม ผลัดกันเล่าถึงช่วงเวลาสำคัญของชีวิต
แม้ "พอร์ช-อาม" จะมีอายุห่างกันถึง 11 ปี แต่นั่นก็ไม่เป็นอุปสรรคของความรัก
พอร์ชเล่าถึงวิธีสลายช่องว่างระหว่างวัยให้ฟังว่า "เราผลัดกันเป็นเด็ก เป็นผู้ใหญ่ เติมเต็มให้กัน พื้นฐานความสนใจส่วนใหญ่ของเราคล้ายกันมาก ชอบเดินทาง ชอบถ่ายภาพ ชอบดูมหรสพ เราคุยกันเข้าใจ คุยกันรู้เรื่อง แต่แน่นอนไม่มีใครเหมือนกันทั้งหมด"
"อามมาคบกับพี่พอร์ชต้องปรับตัว พี่พอร์ชก็ต้องปรับ แต่เรายินดีที่จะปรับเพื่อกันและกัน เราตกลงกันตั้งแต่แรกว่าห้ามทะเลาะกันข้ามวัน เราทั้งคู่เชื่อเหมือนกันว่า เวลาของคนสองคนที่จะมาเจอกันมันไม่มาก จะมาเสียเวลาให้กับความหมางเมินกันทำไม รีบทิ้งเวลาแห่งความทุกข์ไปใช้ช่วงเวลาแห่งความสุข จับมือกันก้าวไปข้างหน้าดีกว่า" อามเสริม
ในสังคมไทยเรื่องการยอมรับในคู่รักเพศเดียวกันอาจยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สำหรับ "พอร์ช-อาม" ทั้งคู่เห็นว่าเท่าที่เป็นอยู่ก็ถือว่าโอเคมากแล้ว
"คู่ของเราโชคดีที่คนรอบตัวเรารักเรา ไม่ว่าเราจะทำอะไร พวกเขายินดีซัพพอร์ตเรา ในขณะที่คนอื่น ๆ อย่างในโซเชียล ส่วนใหญ่เขาก็แสดงความยินดีกับเรา สำหรับคนแบบที่ต่อว่าแรง ๆ ก็มีบ้างครับ ซึ่งเราไปเปลี่ยนความคิดเขาไม่ได้ แต่เราสามารถแสดงให้เขาเห็นได้ว่า เราก็เป็นคนปกติในสังคมคู่หนึ่ง ผมก็เป็นผู้ชายทั่วไป แฟนผมแค่ผมสั้นเท่านั้นเอง (หัวเราะ) ผมไม่ได้คิดว่าทุกคนจะต้องยอมรับนะ แต่อยากให้สังคมมองว่ามันก็คือ "ความปกติ" เราไม่ได้ต้องการความพิเศษแต่ก็ไม่อยากด้อยไปกว่าคู่รักอื่น ๆ" พอร์ชกล่าว
"พอร์ช-อาม" แลกแหวนอันเปรียบเหมือนการแต่งงานของทั้งคู่ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยไม่ได้มีทะเบียนสมรส ซึ่งทั้งคู่ต่างบอกว่า แม้กระดาษใบเดียวไม่ส่งผลต่อความรัก แต่ก็อยากได้
"ผมว่าควรมีนะ เพราะการที่ผมใช้ชีวิตกับอาม ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน หากมีทะเบียนสมรส เราก็จะเป็นบุคคลเดียวกันทางนิตินัย อย่างเรามีธุรกิจด้วยกัน อนาคตจะซื้อบ้าน จะทำธุรกรรมต่าง ๆ กระดาษใบนั้นจะเอื้อต่อเราในด้านกฎหมาย"
การมีครอบครัวที่สมบูรณ์ คนส่วนใหญ่มักตีความไปที่ภาพความพร้อมหน้าพร้อมตาของพ่อ แม่ ลูก แต่สำหรับคู่รักชายรักชายอย่าง "พอร์ช-อาม" ทั้งคู่ได้วางแผนเติมเต็มความมั่นคงในชีวิตด้วยรูปแบบของตนเอง
"เรามีลูกเป็นธุรกิจร้านขนมครับ ชื่อร้าน Par Avion เราชอบขนมหวานเหมือนกันเลยลงตัวที่ธุรกิจนี้ ตอนนี้ขายออนไลน์อยู่ครับ แต่ก็กำลังมอง ๆ ว่าจะเปิดเป็นร้านแบบจริงจัง ปัจจุบันเราก็ดูแลร้านของเราไป ในอนาคตร้านก็จะมาเลี้ยงเราตอนแก่"
ชีวิตรักของทั้งคู่อาจฟังดูราบรื่น ลงตัวไปหมด ถ้าอามไม่เบรกขึ้นมาก่อนว่า "เป็นปกติของคู่รักที่มักเหมือนลิ้นกับฟัน ทุกวันนี้ก็ยังทะเลาะกัน คู่เราไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องยิบย่อยบางเรื่องด้วยซ้ำ เพราะจริง ๆ อามรู้สึกว่าทุกวันคือวันพิเศษของเรา แค่ออกมากินข้าวนอกบ้านก็เหมือนได้มาเดตกัน"
"หากเอาเวลา 7 ปีมาย่อย มันมีเรื่องราวให้เราทำความรู้จักกันในแง่มุมใหม่ ๆ เช่น บ้านเราเคยน้ำท่วม พอน้ำลดก็ต้องมานั่งเก็บบ้านเน่า ๆ ด้วยกัน หรือเคยมีช่วงเวลาแบบรักระยะไกลเป็นปี เพราะอามไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก ซึ่งช่วงเวลาแบบนั้นทำให้เราคิดถึงกัน ความรักของเราเลยยังเฟรชอยู่ตลอดเวลา และผมเชื่อว่า ไม่ว่าจะอีกกี่ปีเราทั้งคู่ก็พร้อมที่จะเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน"
คู่รักข้ามรุ่น
ส่วนคู่รักข้ามรุ่น"อาหลอง"ฉลอง ภักดีวิจิตร ผู้กำกับละครชื่อดังวัย 83 ที่เพิ่งเข้าประตูวิวาห์เป็นเจ้าบ่าวหมาด ๆ กับเจ้าสาววัย 38 "เล็ก-พิมพ์สุภัค อินทรีย์" นักธุรกิจชาวศรีสะเกษ ที่รู้จักกันในงานวันเกิดของพี่สาวฝ่ายหญิง แล้วคบหากันมา 5 เดือนก่อนจะตกลงปลงใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน และจัดวิวาห์สายฟ้าแลบสร้างความฮือฮาเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
แม้ช่วงแรกจะมีกระแสวิจารณ์ในเรื่องอายุที่ห่างกันมากรวมทั้งเกือบจะมีการเปิดศึกในบ้านกันแล้วเพราะลูกชาย กัญจ์ ภักดีวิจิตร ลูกชายของอาหลองโพสต์ข้อความเชิงไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของคุณพ่อ แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น พ่อ-ลูกก็เคลียร์เข้าใจ เพราะอาหลองและภรรยาจะตั้งต้นครอบครัวใหม่ด้วยตนเอง
ในเดือนแห่งความรักนี้ หลังจากแต่งงานใช้ชีวิตด้วยกันมาประมาณสองเดือน อาหลองบอกว่าความรักเป็นไปตามธรรมชาติ
"ความรักของผมมีหลายรูปแบบ ทั้งความรักพ่อแม่ ความรักพี่น้อง ความรักหนุ่มสาว ความรักสามีภรรยา เมื่อพูดถึงวาเลนไทน์จะนึกถึงความรักครองคู่มากกว่า
สำหรับความรักชีวิตคู่ของผมตอนนี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามธรรมชาติเหมือนเดิม มันอยู่ที่ความรักของเราทั้งสอง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความรักความเข้าใจซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมอยู่กันมีความสุข ทำงานด้วยกัน ใช้ชีวิตธรรมดา เขาดูแลผมอย่างดี เข้าอกเข้าใจกัน ให้ความอบอุ่น ให้กำลังใจให้ทำงานก้าวหน้า พัฒนางาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ความรักของเราไม่ได้นึกถึงอายุ ทั้งสองฝ่ายเรารักกันมาก อยู่ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน อายุต่างกันไม่มีปัญหาครับ
"นิยาม รักแท้คือการให้อภัย"