คำขอสุดท้ายของแม่ สู่การเปลี่ยนแปลงตัวเอง “ป๊อป ชัชกรณ์” 3 เดือนลดไป 17 กก.

เรื่องของน้ำหนักส่วนเกินเป็นปัญหาสำหรับหนุ่มๆ หลายคน บางคนรู้ทั้งรู้ว่าความอ้วนบางนำมาซึ่งโรคต่างๆ ได้ง่าย แถมยังส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวก็ยังไม่สามารถเอาชนะใจด้วยเองลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ยิ่งน้ำหนักตัวมากจะออกกำลังกายแบบไหน กินอย่างไร ?

วันนี้ Sanook! Men มีโอกาสพูดคุยกับ ป๊อป-ชัชกรณ์ หมุดเพ็ชร หนึ่งในผู้ร่วมโครงการคนแปลงร่าง Reality ที่ก่อนหน้านี้เขาน้ำหนักมากถึง 136 กก. เขาพยายามลดน้ำหนักมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนที่จะเริ่มใหม่อีกครั้งจนปัจจุบันลดน้ำหนักไปแล้ว 17 กก.

ป๊อป ชัชกรณ์

จำความได้แม่ซื้อทุกอย่างที่เราอยากกิน

แม่บอกว่าสมัยก่อนแม่ไม่ค่อยมีสตางค์เขาไม่ค่อยได้ทานของดีๆ พอมีลูกอยากกินอะไรเขาก็จะซื้อให้ เหมือนกับสรรหามาให้ เพราะเขาเคยผ่านความรู้สึกวัยเด็กมาเคยมีรถไอติมผ่านหน้าบ้านแล้วเขาไม่มีตังค์แม้แต่จะซื้อกิน ตั้งแต่เด็กต่อให้ไม่อ้วนก็จะเป็นคนที่รูปร่างอวบมาก ไม่เคยผอมเลย เราไม่มีความรู้เรื่องการกินด้วย เราอยากกินอะไรเราก็กิน เรามีความสุขกับการกิน

ความคิดอยากลดน้ำหนักมีมาตลอดแต่ทำไม่สำเร็จ

เท้าความเป็นสมันเรียนผมเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียนมาก่อน ซ้อมกีฬาหนักมาก ตอนนั้นเราไม่มีความรู้เรื่องโภชนาการอาหาร ซ้อมเสร็จเราก็กินตามใจปากเลย แต่ด้วยความที่มันซ้อมหนักและกินหนักมากมันก็เลยบาลานซ์กัน จนพอได้ขึ้นมัธยมฯ คือเลิกเป็นนักกีฬา มามุ่งเรียนอย่างเดียว เนื่องจากครบครัวอยากให้โฟกัสเรื่องเรียนเพื่อจะได้เข้ามหาวิทยาลัยดีๆ

ตอนนั้นไม่ได้ออกกำลังกายแต่กินยังเท่าเดิม มันก็เลยอ้วนขึ้นเรื่อยๆ จนถึงมหาวิทยาลัย ระหว่างนั้นคุณแม่จับไปลดน้ำหนักบ่อยมาก “ตอนนั้นมันมีหลายคำถามมากเลยนะ เราจะลกน้ำหนักไปทำไม เราจะผอมไปเพื่อ เราไม่ได้ห่วงภาพลักษณ์ เราไม่ได้ทำงานที่ต้องใช้รูปร่าง แค่ใช้ชีวิตไปปกติ”

ป๊อป ชัชกรณ์

สู่จุดเปลี่ยนแปลงตัวเอง

ย้อนกลับไปตอนที่คุณแม่จะมาเคร่งๆ คุณพ่อเสียด้วยโรคอ้วน คุณพ่อเป็นเบาหวาน มันเริ่มต้นด้วยเบาหวานก่อนแล้วไปความดัน คือต้องบายพาสหัวใจ จนวันที่คุณพ่อเสียคือไม่สามารถนอนราบได้แล้วต้องมานอนก้มที่โต๊ะ ก่อนไปโรงพยาบาล แม่พูดว่าเขาไม่รู้จะอยู่กับเราได้นานขนาดไหน เขาไม่เคยห่วงผมเรื่องการเรียน เรื่องอื่นๆ แต่เขาห่วงเรื่องเดียวคือเรื่องการใช้ชีวิต เพราะเขาไม่อยากให้ผมต้องเป็นแบบพ่อ อยากให้เราได้ใช้ชีวิตได้นานที่สุด มันยังมีหลายๆ อย่างที่เรายังเรียนรู้และทำได้ อยากให้เราดูแลรักษาสุขภาพจะได้ไม่ต้องทรมาน “จำพ่อได้ไหมตอนที่พ่อจะเสีย พ่อทรมานขนาดไหน”

เริ่มต้นลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี แต่ก็พังอีกครั้ง

จริงจังสุดๆ น้ำหนักมันพุ่งไปถึง 132 กก. แล้ว คือคุณแม่มาขอตอนนั้นแม่ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งอีก เขาพูดว่าเขาห่วงสุขภาพผมตลอด ตอนนั้นแม่บอกว่า อยากเห็นน้ำหนักสัก 80 ผมบอกว่าได้ ตอนนั้นแม่ซัพพอร์ตทุกอย่าง ผมได้ไปเจอเทรนเนอร์ นักเพราะกายคนหนึ่ง ผมก็เดินไปถามพี่เขาอยากออกกำลังกาย เขาก็บอกได้มาเทรนกับพี่ไหมก็เลยไปคุยกับแม่ ขอแม่ช่วยเรื่องนี้หน่อย จากนั้นก็ไปกินนอนที่ยิม จริงจังมาก แต่ด้วยความที่แม่ป่วยเป็นมะเร็งกระเพราะอาหาร ไม่ทันลดน้ำหนักสำเร็จท่านก็จากไป คราวนี้ผมปล่อยตัวจนกลับมาอ้วนอีกครั้ง

ป๊อป ชัชกรณ์

เวลาเยียวยาจนกลับมารักตัวเองอีกครั้ง หวังให้ครั้งนี้เป็นการลดน้ำหนักครั้งสุดท้าย

ผมเห็นประกาศรับสมัครโครงการ คนแปลงร่าง Reality ผมอยากลดน้ำหนักเพื่อแม่ ส่งใบสมัครไปผมก็ทำตามขั้นตอนจนท้ายที่สุดผมเป็นหนึ่งคนที่ได้เข้าร่วมรายการเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง นอกจากอยากลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี โดยได้คำแนะนำจากผู้รู้ในเรื่องของการออกกำลังกายและโภชนาการ

ผมคิดว่าผมอาจจะเป็นประกายเล็กๆ ให้หลายคนหันมาสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ในรายการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการกิน การออกกำลังกาย การคาร์ดิโอ ร่วมไปถึงการใช้ชีวิตหลังจากที่จบรายการออกมาแล้ว สิ่งเหล่านั้นมันก็จะไปถึงทัศนะคติสามารถดูแลตัวเองไปได้เรื่อยๆ

ด้านการออกกำลังกาย ตอนนี้ผมเวทเทรนนิ่งอาทิตย์ละ 3 วัน คาร์ดิโอ 6 วัน วันหนึ่งขั้นต่ำ 45 นาที โดยจะเพิ่มน้ำหนักไปเรื่อยๆ แต่ละอาทิตย์ อย่างคนน้ำหนักเยอะแบบผมจะมีปัญหาบาดเจ็บเขา ผมจึงเลือกปั่นจักรยานในยิมก่อน ต่อมาเป็นเครื่องคันโยก ผมจะไม่ขึ้นลู่เลย กับอีกอย่างหนึ่งคือว่ายน้ำ

อาหารการกินก็สำคัญ แต่อยากกินอะไรต้องได้กิน

คนเรารู้อยู่แล้วว่ากินอะไรอ้วนใช่ไหม เราต้องห้ามใจแล้วลดก่อน เลือกให้มากขึ้น พอเราเห็นผลลัพธ์ มนุษย์เราอยากให้มันดีขึ้นก็จะทำไปต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นคือ เริ่มต้นง่ายๆ ก่อน คนสมัยนี้อาจจะติดความรวดเร็วและได้ผลเร็วที่สุด แต่กับเรื่องการออกกำลังกายใช้ไม่ได้ มันต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป

สำหรับเมนูอาหาร ถ้าเป็นนอกบ้านผมจะเลือกกินเมนูสุขภาพเป็นหลัก แต่ถ้าอยากกินข้าวขาหมู  ผมจะสั่งไม่เอาหนัง ไม่ต้องราดน้ำ เรากินได้มันเป็นโปรตีน ไขมันมันก็มีอยู่แล้ว อย่าไปกลัวไขมันแค่นิดเดียวเอง เรากินไขมันมาทั้งชีวิติ แต่เราลดปริมาณลดมาแล้ว บางคนต้อง 100% ทำแบบนั้นทำได้ไม่นาน ส่วนถ้าอยู่บ้านส่วนใหญ่ผมจะทำอาหารกินเอง

ป๊อป ชัชกรณ์

เป้าหมายคือน้ำหนักตัว 2 หลัก

ตอนนี้ยังเลข 3 หลัก ผมจะมองเป้าหมายใกล้ๆ ก่อน ผมจะยังไม่มองเป้าหมายไกล ขั้นแรกอยากให้น้ำหนัก 2 หลักก่อน จากนั้นอาจจะเหลือสัก 80 ตามที่คุณแม่ขอไว้ เราลดน้ำหนักไปเรื่อยๆ ตอนนี้ไม่ได้โฟกัสเรื่องน้ำหนักแล้ว เราโฟกัสเรื่องสุขภาพเป็นหลักดีกว่า

สุดท้าย หนุ่มป๊อป บอกว่าปัญหาที่หลายๆ คนยังลดน้ำหนักไม่สำเร็จเกิดจากไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางของการลดน้ำหนักอยู่ตรงไหน หลายคนก็จะไปโฟกัสผล ขาดการวางแผนเลย ขาดความรู้ ออกกำลังกายไปสักพักหลายคนก็เลยเลือกหยุดเพราะไม่รู้จะไปยังไงต่อ เพราะฉะนั้น “เป้าหมายจึงสำคัญที่สุด”