อากาศหนาวแบบนี้ ดูแลผิวอย่างไร
ฤดูหนาวเช่นนี้ แถมยังมีเทศกาลวันหยุดรวมทั้งช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ผู้คนจึงนิยมท่องเที่ยวรับสายลมหนาวกัน ทำให้พบโรคผิวแห้งบ่อยขึ้น
สาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งมีหลายอย่าง
1. ผิวของแต่ละคนแตกต่างกัน จึงสามารถดูดซับน้ำไว้ได้ต่างกัน ดังนั้นบางคนจึงมีอาการผิวแห้งเกิดได้ง่ายกว่าคนอื่น หรือมีโรคทางกรรมพันธุ์ที่ทำให้ผิวแห้งและแตกดูคล้ายเกล็ดปลา เกล็ดงู
2. น้ำมันหล่อเลี้ยงผิวหนังผลิตโดยต่อมไขมัน มีหน้าที่ฉาบเคลือบผิวหนังเพื่อคงความชุ่มชื้นไว้ จะมีปริมาณและส่วนประกอบแตกต่างกันออกไป
3. ระดับความชื้นสัมพัทธ์ในบรรยากาศ เมื่อความชื้นสูงเกินร้อยละ 60 เซลล์ผิวหนังชั้นนอกสุดจะชุ่มชื้น หากระดับความชื้นต่ำกว่าร้อยละ 60 น้ำจะเริ่มระเหยออกจากเซลล์ผิวหนังทำให้ผิวเริ่มแห้ง ซึ่งขณะนี้มีอากาศหนาวเย็นและมีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ จึงทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งขึ้น
4. การอาบน้ำฟอกสบู่บ่อยครั้งเกินไป การอาบน้ำร้อนหรือนอนแช่ในอ่างอาบน้ำก็ ทำให้ผิวแห้ง เพราะไขมันที่เคลือบผิวหนังละลายออกไป ผิวจึงยิ่งแห้ง ยิ่งคันขึ้น
หลายคนเข้าใจผิดว่า ผิวคันเพราะสกปรก จึงยิ่งฟอกสบู่หรือใช้สบู่ยาขัดถูผิวหนังจนผิวอักเสบแดงและแตกเป็นร่อง
การดูแลรักษาปัญหาผิวแห้ง
1. ลดการอาบน้ำและฟอกสบู่ อาจเลือกฟอกสบู่เฉพาะบริเวณอับชื้น เช่น รักแร้ ส่วนบริเวณแขนขา ซึ่งเกิดผิวแห้งได้ง่ายให้งดฟอกสบู่
2. หากยังมีผิวแห้งก็ต้องใช้ครีมให้ความชุ่มชื้น ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือ น้ำและน้ำมัน ควรเลือกซื้อครีมที่มีราคายุติธรรม ต้องเข้าใจว่าครีมให้ความชุ่มชื้นช่วยแก้ไขปัญหาผิวแห้ง แต่ไม่อาจแก้ไขริ้วรอยเหี่ยวย่นที่เกิดจากความชราได้ ทั้งนี้เพราะรอยเหี่ยวย่นเหล่านี้อยู่ลึกในชั้นหนังแท้ ซึ่งครีมให้ความชุ่มชื้นไม่อาจซึมลงไปออกฤทธิ์ได้
3. ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งควรงดทายาแก้คัน ที่มีลักษณะเป็นแป้งน้ำเพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง และต้องไม่ใช้ยารักษาโรคเชื้อรามาทาเอง เพราะนอกจากจะไม่แก้ไขปัญหาผิวแห้งแล้ว ยังอาจทำให้โรคผิวแห้งกำเริบขึ้น
4. หน้าหนาวอากาศแห้ง ต้องระวังการใช้ครีมบางชนิด (เช่น กรดผลไม้ กรดวิตามินเอ) ครีมรักษาสิว (เบนซอยล์เพอร์ออกไซด์) โลชั่นทาสิว (กำมะถัน) เพราะทำให้ผิวแห้งระคายเคืองได้ง่าย อาจจำเป็นต้องทายาให้น้อยลง ลดการฟอกสบู่ใบหน้า และควรงดการใช้สบู่ที่มีเม็ดขัดถูใบหน้าด้วย
5. สวมเสื้อผ้าปกคลุมอย่างมิดชิด นอกจากจะลดปัญหาผิวแห้งได้แล้ว ยังป้องกันโรคหวัดอีกด้วย หน้าหนาวหลายคนจะมีผื่นแดงเป็นขุยที่ร่องจมูก แก้ม เหนือคิ้ว และแนวไรผม เรียกว่าโรคเซ็บเดิม ถ้าล้างหน้าฟอกสบู่บ่อยโรคนี้จะกำเริบ
บางคนมีรังแคของหนังศีรษะมาก ควรใช้แชมพูขจัดรังแคและครีมนวดผม อีกทั้งการสวมหมวกจะช่วยป้องกันหนังศีรษะแห้งและลดรังแคได้หากไปเที่ยวแล้วต้องอยู่กลางแจ้งต้องถูกแดดจัด ควรใช้ครีมกันแดดและสวมแว่นกันแดดเพื่อปกป้องนัยน์ตาด้วย
นิตยสารหมอชาวบ้าน เล่มที่: 356
คอลัมน์: ผิวสวย หน้าใส
นักเขียนหมอชาวบ้าน: นพ.ประวิตร พิศาลบุตร