6 ขั้นตอนลดความ ‘อ้วน ‘

6 ขั้นตอนลดความ ‘อ้วน ‘

6 ขั้นตอนลดความ ‘อ้วน ‘
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงนี้หายใจไม่ค่อยจะทั่วท้อง ไม่ใช่เพราะเครียดหรือไปทำอะไรไม่ดีไว้หรอกนะ แต่เป็นเพราะรอบเอวที่เพิ่มขึ้นมาน่ะสิ แหม ก็แค่ไปปาร์ตี้กับเพื่อนไม่กี่ครั้ง เผลอแป๊บเดียว รอบเอวล้ำหน้าไปซะไกลแล้ว หากใครที่กำลังเสียจริตอยู่อย่างนี้ อย่าเพิ่งวิตกกังวลไป 24/7 มีวิธีกำจัดไขมันส่วนเกินแบบง่ายๆ มาฝากกัน

7 วันแห่งการต่อสู้
สัปดาห์แรกถือว่าเป็นสัปดาห์ที่หินมากๆ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นลดน้ำหนัก เพราะจะรู้สึกหิวอยู่ตลอดเวลา เห็นอะไรก็เผลอที่จะหยิบใส่ปากไม่ได้

24/7 Guide : วิธีที่ดีที่สุดในการหยุดพฤติกรรมอันน่าเสี่ยงนี้ก็คือ ให้มุ่งความสนใจไปที่มื้อเช้า โดยพยายามกินมื้อเช้าให้เยอะเข้าไว้ เพราะนอกจากจะทำให้ท้องอิ่มได้นานแล้ว ยังช่วยให้แคลอรีกับร่างกายไปใช้อีกตั้ง 350 แคลอรี !

14 วันแห่งการหงุดหงิด
ระยะนี้คุณจะรู้สึกหงุดหงิดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะขยับตัวไปทำอะไร ก็พานจะอารมณ์เสียไปซะหมด ทั้งนี้เนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารของคุณ จากที่เคยกินอย่างลั้ลลา ไม่เกรงใจใคร กลับกลายเป็นว่า ไอ้นั่นก็กินไม่ได้ ไอ้นี่ก็แคลอรีเยอะ ทำให้เกิดความเครียดสะสม ตามมาด้วยความรู้สึกกดดัน จนทำให้รู้สึกหมดกำลังใจ หนักสุดอาจถึงขั้นหันหลังให้กับการไดเอ็ตไปตลอดชีวิตก็เป็นได้

24/7 Guide : วิธีที่จะรับมือกับพายุอารมณ์ในช่วงนี้ก็คือ ให้เบี่ยงเบนความสนใจด้วยการหันหน้าเข้าหาเพื่อนๆ พูดคุยปรึกษากันบ้าง ไม่แน่คุณอาจจะปิ๊งไอเดียเจ๋งๆ ที่จะนำมาใช้ในการลดน้ำหนักต่อไปก็ได้นะ

21 วันแห่งความอยาก
ช่วงนี้คุณจะรู้สึกอยากกินอาหารมากขึ้น เพราะอยู่ในช่วงที่มีประจำเดือนพอดี เห็นอะไรก็อยากไปซะหมด

24/7 Guide : ลองเปลี่ยนจากกินอาหารวันละ 3 มื้อ (เช้า กลางวัน เย็น) ไปเป็นแบ่งกินเป็นมื้อย่อยๆ ประมาณ 4-6 มื้อ วิธีนี้จะช่วยให้ระดับน้ำตาลคงที่ สามารถขจัดความเหนื่อยล้าและช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น

42 วัน น้ำหนักก็ยังไม่ลด
หลังจากผ่านไป 6 สัปดาห์ จะรู้สึกว่าร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้น มีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น แต่น้ำหนัก
ยังไม่ลดลง

24/7 Guide : ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่า ปกติกล้ามเนื้อจะมีน้ำหนักมากกว่าไขมันอยู่แล้ว เพราะ 70% ของกล้ามเนื้อเป็นน้ำ ในขณะที่ไขมันมีน้ำแค่ 20% เท่านั้นเอง ดังนั้นอย่าเพิ่งด่วนถอดใจไปซะก่อน ให้คอนตินิวลดน้ำหนักอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ยิ่งมีกล้ามเนื้อมากก็ยิ่งเผาผลาญแคลอรีได้มาก แต่ถ้าคุณเกิดหมดแรงฮึดขึ้นมาดื้อๆ ให้นำกางเกงยีนส์ตัวเก่งที่เคยใส่ไม่ได้มานานมาลองสวมดู หรืออาจจะส่องกระจกสำรวจดูตัวเองว่าไขมันตรงไหนลดไปบ้าง วิธีนี้จะช่วยเรียกกำลังใจกลับคืนมาได้เยอะ ไม่เชื่อลองสิ

ครึ่งปี น้ำหนักเริ่มคงที่
หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งปี คุณจะเริ่มรู้สึกว่าทำยังไงน้ำหนักก็ไม่ลดซักทีและเริ่มคงที่ ทั้งๆ ที่มันยังไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้เลย

24/7 Guide : เหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นได้ วิธีแก้ก็คือ ให้หยุดออกกำลังกายหนักๆ สัก 1 อาทิตย์ แล้วหันมาวิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆ แทน การเปลี่ยนแปลงแบบนี้จะเป็นการช็อกร่างกาย ช่วยให้น้ำหนักกลับมาลดลงได้อีก

ครบ 1 ปี เริ่มอวดดี
ตอนนี้คุณเริ่มชินต่อการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายเป็นประจำแล้ว แต่อย่าลืมว่า รอบๆ ตัวยังมีอาหารแคลอรีสูงรายล้อมทั้งนั้น หากเผลอใจให้อาหารเหล่านี้แม้เพียงนิด ก็อาจกลับมาอ้วนได้อีก แถมครั้งนี้อาจมากกว่าเดิมซะด้วย

24/7 Guide : ควรให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ กับตัวเองบ้าง หลังจากลดน้ำหนักครบ 1 ปี อย่างเช่น เข้าสปาขัดตัว หรือไปเที่ยวต่างจังหวัด แล้วค่อยกลับมากำหนดเป้าหมายใหม่ให้มากขึ้นกว่าเดิม คุณอาจตั้งเป้าไว้ว่า ซัมเมอร์นี้จะต้องใส่บิกินีตัวที่หมายตาไว้ให้ได้ ก็ดูเป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยนะ

Did You Know?
- รู้หรือไม่ว่า แอปเปิ้ล 1 ลูก จะช่วยลดความหิวได้ หากกิน 2-3 ผลต่อวัน จะช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้ เนื่องจากแอปเปิ้ลมีเพคตินช่วยลดความอยากอาหาร ลดน้ำหนัก และลดคอเลสเตอรอล

- น้ำมะนาวคั้นสดๆ 1 แก้ว ให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรี อีกทั้งยังมีวิตามินซีสูงมาก ช่วยป้องกันการเป็นหวัด ขับเสมหะ และแก้ไอได้ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook