Ermenegildo Zegna XXX คอลเลคชั่นประจำฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน 2020
คอลเลคชั่นประจำฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน 2020 ของ Ermenegildo Zegna XXX ที่นำเอาผ้าที่เหลือใช้จากกระบวนการผลิตของแบรนด์กลับมาสร้างสรรค์ใหม่เป็นเสื้อผ้าที่โดดเด่นทั้งแนวคิดและการตัดเย็บ
อาคารอุตสาหกรรมอันยิ่งใหญ่แต่ดูรกร้างและสิ้นหวัง คือสถานที่จัดแสดงโชว์คอลเลคชั่นประจำฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน 2020 ของ แอร์เมเนจิลโด เซนญ่า (Ermenegildo Zegna XXX) ในครั้งนี้ รันเวย์ที่ทำเป็นทางดินถูกสร้างขึ้นภายใต้ห้องเพดานสูงกว้างใหญ่และ โอ่โถง ซึ่งครั้งหนึ่งคือ Area Falck โรงงานเหล็กซึ่งสร้างขึ้นในปี 1903 และปิดตัวลงในปี 1995 ซึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองสูงสุดราวกับเป็นอนุสาวรีย์แห่งความทันสมัยก่อนจะค่อยๆ เสื่อมถอยลงจนกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่ถูกทอดทิ้งและไร้ประโยชน์ในเมืองใหญ่อย่างฟลอเรนซ์ แต่อีกไม่นานพื้นที่ที่ไร้ค่าแห่งนี้ก็จะถูกชุบชีวิตใหม่ขึ้นอีกครั้งด้วยการสร้างให้เป็นศูนย์กลางแห่งสุขภาพทางด้านมะเร็งและระบบประสาท พร้อมด้วยพื้นที่สีเขียว และสิ่งปลูกสร้างสำหรับพักอาศัย กลับเข้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งของเมืองอีกครั้ง ด้วยความหมายใหม่ เปลี่ยนจากสิ่งที่ไร้ประโยชน์ให้กลายเป็นโอกาสอันมหาศาล เช่นเดียวกันกับปรัชญาที่ Zegna นำมาใช้กับทรัพยากรสิ่งทอ โดย มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างผ้าชนิดใหม่จากสิ่งที่มีอยู่เดิม และด้วยแนวคิดเดียวกันนี้ Zegna ยังได้นำไปใช้กับงานตัดเย็บแบบใหม่สำหรับโลกสมัยใหม่ ภายใต้คำว่า #UseTheExisting ใช้ในสิ่งที่มีอยู่
การใช้ในสิ่งที่มีอยู่ของ Zegna นี้ก็คือการนำเอาสิ่งที่เหลือจากการผลิตกลับมาเป็นวัสดุในการผลิตใหม่ ซึ่งร้อยละ 20 ของเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นนี้ทำมาจากไนลอนและผ้าขนสัตว์ที่ผลิตมาจากกระบวนการรีไซเคิลผ้าที่เหลือใช้จากกระบวนการผลิตของ Zegna เอง วูล 20 เปอร์เซ็นต์จะสูญเสียไปในขั้นตอนการปั่นด้าย อีก 20 เปอร์เซ็นต์ในขั้นตอนการทอผ้า และอีก 10 เปอร์เซ็นต์สุดท้ายในขั้นตอนการตัด โดยวูลและไนลอนที่เหลือจากกระบวนการผลิตในขั้นตอนต่างๆ จะถูกนำมาทำให้เกิดเป็นชิ้นงานใหม่ หรือนำมาผสมกับวัสดุใหม่อื่นๆ เพื่อสร้างสรรค์เนื้อผ้าใหม่ขึ้นมาจากสิ่งที่มีอยู่นั่นเอง
“มันเป็นหน้าที่ของเราในฐานะพลเมืองของโลกนี้ที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีความรับผิดชอบ” อเลสซานโดร ซาร์โตริ (Alessandro Sartori) อาร์ทิสติกไดเร็กเตอร์ของแบรนด์กล่าว “ผมต้องการทำสิ่งนี้โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ที่ผมมี นำมารังสรรค์เนื้อผ้า สู่เทคนิคในการ ตัดเย็บ ไปจนถึงการสื่อสารผ่านการจัดแสดงโชว์ ทุกอย่างเชื่อมโยงกันและทุกสิ่งล้วนสื่อถึงความคิดเดียวกัน เราไม่จำเป็นต้องสร้าง สิ่งใหม่ตั้งแต่ต้น แต่เราสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ และนำสิ่งที่มีอยู่เดิมมาสร้างเป็นสิ่งใหม่ได้ สร้างสรรค์เนื้อผ้าด้วยกระบวนการที่ก้าวหน้าล้ำสมัยจากเศษผ้าที่เหลือ นำเอาเทคนิคการตัดเย็บแต่ดั้งเดิมพัฒนาไปเป็นนวัตกรรมใหม่ในการตัดเย็บ เปลี่ยนสถานที่ที่ถูกทอดทิ้งรกร้างไร้ประโยชน์ให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความสร้างสรรค์”
กลิ่นอายของงานอินดัสเทรียลคือสิ่งที่เห็นได้จากเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นนี้ โดยนำเสนอผ่านชุดสูท ที่ประกอบไปด้วยเสื้อจั๊มป์เอว เสื้อเชิ้ต หรือโปโลเชิ้ต สวมใส่คู่กับกางเกงที่เข้าคู่กัน โดยหัวใจหลักในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าในคอลเลคชั่นนี้ยังคงเป็นการตัดเย็บในรูปแบบ งานเทเลอร์ แต่ได้ยกระดับรูปแบบของการตัดเย็บแบบดั้งเดิมให้เหมาะสมและสามารถเชื่อมโยงกับเจเนอเรชั่นใหม่ทั่วโลก รูปทรง ของเสื้อผ้ามีความประณีตเรียบง่าย เสื้อจั๊มป์เอวทรงกล่อง โค้ตหลากหลายแบบ เบลเซอร์สามกระดุม และแจ็คเก็ตเข้ารูปหนึ่งกระดุมมีดีเทลกระเป๋างานแพทช์เวิร์คสามมิติจับคู่สวมใส่กับกางเกงตัวเพรียวและนุ่มหรือกางเกงทรงหลวมตัวโคร่ง ดีเทลของกระเป๋าขนาด-ใหญ่ในแบบงานสไตล์สปอร์ตถูกนำมาใช้กับเสื้อผ้าสไตล์เทเลอร์ ในขณะเดียวกันรูปแบบการตัดเย็บในแบบงานเทเลอร์ก็จะถูกนำไปใช้กับเสื้อผ้าสไตล์สปอร์ต เป็นการผสมผสานเพื่อสร้างเสื้อผ้าที่มีการใช้งานได้หลากหลายแบบ ผ้านิตมีการถักเป็นแนวสี่เหลี่ยมเพื่อสร้างรูปแบบในการแต่งตัวที่ดูทันสมัย มีการใช้ผ้าวูลที่ดูหนักแน่นแต่ทว่าน้ำหนักเบา ผ้าไหมช่วยเสริมความโดดเด่นของรูปทรงและความบางเบาไร้น้ำหนักในการตัดเย็บ นอกจากนี้ทั้งรูปรอยของเนื้อผ้า ลายพิมพ์กราฟิก ลายทาง ยังช่วยให้เสื้อผ้ามีมิติ รวมไปถึงลวดลายเรขาคณิตที่ดูราวกับภาพวาดสีน้ำผ่านการมัดย้อม ช่วยให้ผ้าเดนิมดูโดดเด่นและลึกซึ้งมากขึ้น
จากแนวคิด #UseTheExisting ใช้ในสิ่งที่มีอยู่ เป็นดังพันธสัญญาที่ทำให้แบรนด์เลือกใช้ผ้าวูลมากขึ้นอีกด้วย รวมไปถึงผ้าที่เกิดจากเทคนิคในการสร้างสรรค์เนื้อผ้าที่พัฒนาขึ้นโดยนวัตกรรมและเทคโนโลยีของ Zegna เอง โดยเฉพาะสูทที่เรียกว่า Achill ซึ่งทำมาจากเศษวูลจากฟาร์ม Achill ของ Zegna และเศษผ้าที่เหลือจากกระบวนการตัดสูท นำมาผสมกันและทอขึ้นใหม่ ถือเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนสมบูรณ์ เครื่องประดับในคอลเลคชั่นนี้ได้รับการออกแบบในรูปแบบของการสร้างสรรค์เพื่อการใช้งาน เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเสื้อผ้า ทั้งรองเท้าบู๊ตหรือรองเท้าเดอร์บี้พื้นหนา รองเท้าสนีกเกอร์รุ่น Claudio กระเป๋าโน้ตบุ๊กและกระเป๋าใบเล็กในรูปทรงเรขาคณิต
กลิ่นอายของสไตล์อินดัสเทรียลที่ดูโก้หรูยังเห็นได้จากเฉดสีของเสื้อผ้า มีการเลือกใช้สีทั้งสีเทาซีเมนต์ สีเงินในแบบเหล็กหรือคาร์บอน สีดำด้าน สีเอิร์ธโทน สีสนิม สีฝุ่น สีแดงเปลวไฟ สีน้ำตาลของทราย สีทองด้าน สีนู้ดอ่อน สีฟ้าผืนน้ำ สีเขียวใบไม้ สีน้ำเงินอมเขียว และสีคอปเปอร์
อัลบั้มภาพ 40 ภาพ