จะรู้ได้อย่างไร ว่าเขาหรือเธอคนนี้คือคนที่ใช่ที่สุดสำหรับเรา

เมื่อเราเริ่มต้นเดทกับใครสักคน ช่วงเวลานับจากนั้นมักจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจได้เสมออย่างน่าประหลาด เพราะเป็นช่วงของการเรียนรู้ในลักษณะของอีกหนึ่งคนที่เราอยากเจอเขาตลอดเวลา ทุกอย่างแปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน

จนกระทั่งเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่จริงจังมากขึ้น เริ่มคิดถึงอนาคตของคุณทั้งคู่ เป็นธรรมดาที่คุณจะมีวาบความคิดหนึ่งขึ้นมาว่า “เขา/เธอ คือคนที่ใช่สำหรับเราจริง ๆ หรือเปล่า”, “นี่เราเจอคนที่คู่ควรสำหรับเราจริง ๆ แล้วใช่ไหม” เป็นธรรมดา ใครก็คิดแบบนี้กันทั้งนั้น

และคำถามต่อไปนี้ เป็นคำถามที่จะนำมาซึ่งคำตอบที่ค่อนข้างเคลียร์ใจ ทำให้เราตัดสินใจและเห็นภาพชัดมากขึ้น ว่าสำหรับอีกฝ่ายหนึ่งนั้น เราเหมาะสมกันดีมากพอแล้วหรือยัง…เขาคือคนที่ใช่จริง ๆ หรือเปล่า

กล้าแชร์และยอมรับค่านิยมของกันและกัน
คนเราจะอยู่ด้วยกันไม่จำเป็นต้องมองโลกในมุมมองเดียวกันหรือไม่จำเป็นต้องมีความเชื่อที่ตรงกัน ก็สามารถใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้ แต่อย่างน้อย ๆ ต้องมีความคิดที่มีคุณค่าแก่กันและกันเป็นพื้นฐาน อย่างน้อย ๆ ต้องเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายคิด จึงจะอยู่ร่วมกันในระยะยาวได้

เหนือสิ่งอื่นใดคือการที่ทั้งคู่ต่างเข้าใจในการดำเนินชีวิต เขา/เธอที่พบกันในวันนั้นอาจไม่เหมือนเดิมแล้วในอีก 10 ปีข้างหน้า มุมมองและค่านิยมเป็นเรื่องที่ค่อนข้างส่วนตัวและสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ประเด็นคือการรับรู้และทำความเข้าใจให้สอดคล้องกันระหว่างเดินทางร่วมกันเผชิญการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน เป็นเรื่องดีถ้าหากจะพูดคุยแลกเปลี่ยนกันถึงมุมมองและค่านิยม เพื่อให้แน่ใจมากขึ้นว่าคุณทั้งคู่จะอยู่ร่วมกันในระยะยาวได้หรือไม่

เคารพกันและกัน รับมือกับความขัดแย้งด้วยวิธีสร้างสรรค์
ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างคุณและเขาไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกหรือชี้วัดว่าความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่กำลังมีปัญหา วิธีการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านั้นต่างหากที่เป็นบททดสอบว่าคุณทั้งคู่จะไปกันได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่

แม้แต่คู่รักที่คบกันมาเป็นเวลานานก็ยังมีปัญหากันได้เป็นปกติ เพียงแต่ต้องเผชิญหน้าแก้ปัญหานั้นในจบโดยเร็ว ลดราวาศอก ทำความเข้าใจต่อกันและกัน และก้าวเดินต่อไปพร้อมกัน ในระหว่างที่ปัญหากำลังดำเนินอยู่ถ้าคุณยังรู้สึกปลอดภัย ถกเถียงกันด้วยเหตุผล ไม่ว่าร้ายกันจนเกินเรื่อง รับประกันได้เลยว่าคุณเจอคนที่ใช่สำหรับคุณแล้วล่ะ

ยอมรับในตัวตนของเขา
ถ้าคุณเจอคนที่ใช่ที่สุดแล้ว นั่นแปลว่าคุณไม่จำเป็นต้องพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้เขาชอบ หรือแม้กระทั่งคุณเองก็ไม่ได้ต้องการให้เขาเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้ แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยหรือไม่เคยทำในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ชอบ แต่การได้อยู่กับคนที่ใช่จริง ๆ ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่จะดำเนินไปอย่างราบรื่นเป็นธรรมชาติไม่กระอักกระอ่วน ให้คุณได้เรียนรู้ร่วมกันได้ดี และคุณจะรับรู้ได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้นกว่าที่ผ่าน ๆ มา

หวังว่าจะได้แบ่งปันและใช้เวลาร่วมกัน
คุณมีความยินดีอย่างมากที่จะมีเขาเข้ามาอยู่ร่วมในทุก ๆ วันของคุณ มุ่งมั่นและเต็มที่กับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะการแต่งงานหรือแม้กระทั่งแนวทางอื่น ๆ ก็ตาม หากเขาและคุณเหมาะสมกันคุณจะตั้งตารอที่จะได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตามในขณะที่ความสัมพันธ์ดำเนินไปคุณก็ยังสามารถเอนจอยกับอิสระของตัวเองได้อย่างไม่ขัดหูขัดตาทั้งคุณและเขา กลายเป็นความสัมพันธ์ระยะยาวที่ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือของคุณทั้งคู่ ไม่ใช่เพียงใครคนใดคนหนึ่ง

เห็นภาพอนาคตชัดเจน
เมื่อคุณรับรู้อย่างถ่องแท้แล้วว่าคู่รักของคุณคือตัวจริงไม่มีใครทัดเทียม เป็นคนที่อยู่เคียงข้างเสมอในทุกสถานการณ์คอยดูแลเอาใจใส่กันและกัน ช่วยให้วันแย่ ๆ ของคุณผ่านพ้นมาได้เสมอ ทำให้ความมั่นใจในตัวเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับคุณ ถ้ามันง่ายที่จะจินตนาการถึงภาพอนาคตของคุณทั้งคู่นั่นแหละ แปลว่าพวกคุณเดินร่วมกันมาถูกทางแล้ว

 

ที่มา : Psychology Today