รักแท้มีอยู่จริง เรื่องราวความรักของโอและภัทร
ในวันที่ความรักออกเดินทางหลายชีวิตยังคงมุ่งมั่นตามหารักแท้ ดั่งถนนที่ข้างทางเต็มไปด้วยสีสันและความสนุกสนาน แต่หากการเดินทางของความรักมีอันต้อง “สะดุด” อันเกิดจาก “อุบัติเหตุ” คนรักที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ไม่สามารถก้าวเดินไปพร้อมกับเราได้อย่างปกติ คำถามคือ “เรายังคงจะเดินทางไปด้วยกันไหม?” หรือทิ้งใครคนใดคนหนึ่งเพื่อเริ่มต้นใหม่ เพราะหากไปต่อ แน่นอนว่าคุณอาจสูญเสียความสุขบางอย่าง และต้องดูแลกันและกันแบบนี้ตลอดไป
ปลายปี 2555 ข่าวสามีภรรยาเคราะห์ร้ายคู่หนึ่งถูกรถพ่วง 18 ล้อ พุ่งเข้าชน โอ วันชัย กุมภา คือคนขับรถจักยานยนต์คันนั้น ส่วนภัทร ภัทราภรณ์ กุมภา คือหญิงสาวที่ซ้อนท้าย หลังจากกลับจากตรวจครรภ์ รถพ่วงได้เฉี่ยวชนรถจักยานยนต์ของโอ ทำให้โอกระเด็นไปอยู่ใต้ท้องรถและบาดเจ็บที่ศีรษะเล็กน้อย ส่วนภัทรเธอโชคร้ายกว่าโอมากนักเพราะเธอถูกรถพ่วงทับแขนซ้ายและขาซ้ายเป็นเหตุให้ต้องสูญเสียแขนและขาในทันที แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีปาฎิหาริย์เมื่อลูกน้อยวัย 3 เดือนของทั้งคู่ปลอดภัย
วันนี้เมื่อหมอกควันจางลงชีวิตของโอและภัทรที่ยังต้องดำเนินต่อไป ภายใต้ความจริงที่ว่าภัทรไม่สามารถทำอะไรได้อย่างใจปรารถนาอีกแล้ว ส่วนโอก็ต้องรับภาระดูแลทั้งภัทรและลูก ชีวิตของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร วันนี้พร้อมเปิดใจให้ทุกคนได้รับรู้กัน
รักแท้มั่นคง 9 ปีไม่เปลี่ยน
ย้อนกลับไปสมัยเรียนโอและภัทรคือรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมสถาบัน ทั้งคู่รู้จักกันผ่านเพื่อนของเพื่อน โดยฝ่ายชายเป็นคนโทรไปสารภาพรักและสานสัมพันธ์ ภัทรเล่าด้วยรอยยิ้มว่า “สมัยเรียนพี่โอฮอตมาก อยู่ในกลุ่มหนุ่มฮอตของโรงเรียน” เมื่อโอมาจีบก็เลยยอมใจอ่อนเพราะในใจก็แอบปลื้มโออยู่เหมือนกัน ด้านโอที่นั่งฟังภัทรตอบก็อมยิ้มด้วยความรู้สึกดี พร้อมกับบอกว่า ภัทรเป็นคนน่ารัก คอยเอาใจใส่ดูแลทุกอย่าง ช่วยหาข้อมูลทำการบ้าน พยายามให้กำลังใจในเรื่องการเรียนตลอดมา
จากปวส.ก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัย โอยังคอยดูแลเอาใจใส่ภัทรเหมือนเดิม พาภัทรไปแนะนำให้ครอบครัวได้รู้จัก และวางแผนอนาคตร่วมกันหลังเรียนจบปริญญาตรี ด้านภัทรก็เตรียมตัวพาโอไปรู้จักกับครอบครัวเช่นกันเพราะมั่นใจในตัวโอว่าผู้ชายคนนี้จะสามารถดูแลและฝากชีวิตไว้ได้ แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อคุณพ่อของภัทรประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิต โอที่เป็นเหมือนที่พึ่งและกำลังใจ จึงรับปากดูแลภัทรตลอดไป และจากวันนั้นจนถึงวันนี้โอรักษาคำพูดได้ดี 9 ปีแล้วนะที่ทั้งคู่ดูแลกันมา
อุบัติเหตุเปลี่ยนทุกอย่าง ยกเว้นหัวใจที่ยังคงเกาะกุมกันไว้เหมือนเดิม
เมื่อถามถึงความทรงจำอันแสนโหดร้าย วันเวลาที่แสนทรมาน โอเล่าด้วยหัวใจที่เข้มแข็งว่า อุบัติเหตุในวันนั้นเกิดขึ้นในช่วงหัวค่ำของวันที่ 18 ธ.ค. 55 ตอนนั้นทั้งคู่กำลังเดินทางกลับจากการไปตรวจครรภ์ โอขับรถจักยานยนต์โดยมีภัทรซ้อนท้าย รถพ่วง 18 ล้อที่กำลังจะขับแซงกันกับแซงไม่พ้น เลยชนมาที่รถของโอ ความรู้สึกตอนนั้นโอเล่าว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นเร็วมากจำอะไรไม่ได้มากนัก มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ใต้ท้องรถแล้ว ส่วนภัทรถูกรถสิล้อชนและลากไปด้วย เมื่อโอเห็นสภาพภัทรตอนนั้นโอก็ร้องไห้จนแทบคุมสติไว้ไม่อยู่
โอเล่าอย่างไม่อายว่าตอนนั้นร้องไห้อย่างเดียว เพราะส่วนหนึ่งคิดว่าเป็นความผิดของตัวเองที่พาภัทรมาประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ พร้อมบอกกับตัวเองว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ขอดูแลผู้หญิงคนนี้ตลอดไป
สำหรับภัทรเมื่อได้สติหลังการผ่าตัด ไม่มีน้ำตาให้กับเรื่องที่เกิดขึ้นสักหยด ภัทรบอกว่า ถ้าเราร้องไห้ให้ทุกคนเห็นว่าเราเสียใจ อ่อนแอ มากแค่ไหน คนข้างหลังที่รักเราจะทุกข์ จะเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นยิ่งกว่า “อย่างน้อยเราก็เสียไปแค่แขนและขา แต่คนรักก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก ลูกเราก็ปลอดภัยแค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว”
เมื่อภาระที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้เป็นอุปสรรค์ต่อรักแท้
หลายคนที่คิดว่าการต้องดูแลหญิงสาวพิการเป็นภาระที่หนักอึ้ง แต่สำหรับโอแล้ว โอกลับมองว่ามันคือ โอกาสที่จะได้ดูแลคนที่เรารัก โดยปัจจุบันโอทำงานที่เทศบาลอ้อมน้อย ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ศูนย์อาเซียนฝ่ายไอทีคอมพิวเตอร์ ซึ่งที่ทำงานอยู่ใกล้ที่พักจนสามารถเดินกลับไปกินอาหารกลางวันร่วมกับภัทรและลูกได้ เวลาเลิกงานก็ตามเวลาราชการไม่ต้องเลิกงานดึกดื่นเพราะทำงานเป็นกะแบบในอดีตอีกแล้ว เสาร์-อาทิตย์ได้อยู่ดูแลครอบครัวแบบเต็มที่ ภาระที่หลายคนเคยเห็นผ่านหน้าจอทีวีตอนนี้ก็เบาบางลงแล้ว
“ทุกคนมีภาระหมดอยู่ที่ว่าจะมากจะน้อย บางคนมีภาระมากกว่าเราเยอะเขายังสู้เลย เราก็ต้องสู้”
ขณะที่ภัทรจากไม่สามารถช่วยตัวเองได้ในช่วงแรกที่ประสบอุบัติเหตุ ปัจจุบันก็ดูแลตัวเองได้มากขึ้นสามารถเข้าห้องน้ำ อาบน้ำเองได้ เพราะภัทรก็รู้ดีว่าโอเหนื่อยจึงอยากแบ่งเบาภาระให้มากที่สุด
ลูกวัย 2 ขวบ กำลังใจตัวน้อยของครอบครัว
เมื่อน้องเฟิร์ส เด็กหญิงภัทราวัน กุมภา กำลังใจตัวน้อยลืมตาดูโลก ชีวิตของทั้งโอและภัทรก็เหมือนมีสายใยผูกพันแน่นหนากว่าเดิม น้องเฟิร์สเป็นเด็กผู้หญิงน่ารักและมีพัฒนาการที่แข็งแรงสมบูรณ์ รอยยิ้มที่สดใส สามารถทำให้ทั้งโอและภัทรหายเหนื่อย มีกำลังใจที่จะเลี้ยงดูเด็กน้อยคนนี้ให้เติบโตเป็นอนาคตของชาติที่ดีในวันหน้า แม้ว่าจะไม่ได้ร่ำรวยเงินทองแต่ทั้งคู่ก็สัญญาว่าจะพยายามเลี้ยงดูน้องเฟิร์สให้ดีที่สุด
อนาคตยังไม่รู้ขอทำวันนี้ให้ดีที่สุด
สำหรับอนาคตโอบอกว่าขอทำทุกอย่างในวันนี้ให้ดีที่สุด แต่หากน้องเฟิร์สเข้าเรียนในอีก 2 ปีข้างหน้า ภัทรที่อยากหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว อาจจะออกไปทำงานนอกบ้าน แต่ก็ติดปัญหาตรงการเดินทาง เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานที่เมื่อบวกลบคูณหารกันแล้วอาจจะไม่คุ้ม ทางออกที่ภัทรคิดได้ในตอนนี้คือ ภัทรอยากหางานที่ทำงานที่บ้านได้ จะได้แบ่งเบาภาระโอและได้ดูแลลูกด้วย
ส่วนโอบอกว่าไม่อยากให้ภัทรออกไปทำงานนอกบ้านเช่นกัน เนื่องจากห่วงเรื่องความปลอดภัยและอยากให้ภัทรดูแลลูกมากกว่า ปัจจุบันภัทรจึงได้แต่ขายเสื้อผ้าออนไลน์ที่ Facebook โออิชิ กุมภา เล็กๆ น้อยๆ หาค่ากับข้าวให้น้องเฟิร์ส รอวันที่ลูกเข้าโรงเรียนคงต้องคิดหารายได้เข้าบ้านกันอีกที
คำแนะนำสำหรับการใช้ชีวิตคู่
สำหรับหลายคนที่มีปัญหาในเรื่องความรัก หนุ่มโอบอกว่า การเอาใจใส่ และความผูกพัน สำคัญที่สุด ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นขอให้นึกถึงวันแรกที่เราคบกัน เพราะไม่ว่าปัญหาใหญ่แค่ไหนสักวันมันก็จะผ่านไป อย่างโอที่กว่าจะผ่านจุดที่แย่ที่สุด ก็ยากเย็นเหมือนกัน แต่ด้วยความอดทนและเชื่อในความรัก โอสามารถจับมือภัทรก้าวผ่านความรู้สึกแย่ๆ ทั้งหมดมาได้ ด้านภัทรก็กล่าวด้วยน้ำตาคลอว่าถ้าไม่มีพี่โอก็คงลำบากมากเหมือนกัน
หลายคนอาจไม่เชื่อในรักแท้ไม่ว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมาหรือรับรู้ความรักในแง่มุมลบจากคนใกล้ตัว เมื่อได้ฟังเรื่องราวความรักของโอและภัทรอยากให้กลับไปดูแลคนที่คุณรักให้มากๆ ไม่แน่ว่าคนคนนั้นอาจเป็นรักแท้ของคุณ แต่หากคุณมั่นใจว่าเจอแล้วจงรักษาเอาไว้ให้ดีที่สุด เพราะในวันที่คุณอ่อนแอ ท้อแท้ หรือสิ้นหวัง คนๆ นั้นจะดูแลคุณตลอดไป
เชื่อว่ารักแท้มีอยู่จริง คุณล่ะเชื่อในรักแท้ไหม?
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ