เทคนิค “ตัดผม” ให้รอด เมื่อต้องอยู่บ้านเพื่อชาติ

เมื่อต้องอยู่บ้านเพื่อชาติในช่วงสถานการณ์แบบนี้ ทำให้หลายคนเริ่มเจอปัญหาใกล้ตัวที่คาดไม่ถึง เพราะผมชักจะยาวจนดูไม่เป็นทรงแล้ว แถมร้านตัดผมและร้านเสริมสวยก็ยังเปิดให้บริการไม่ได้เสียด้วย

หากใครรู้สึกว่าทนไม่ไหวแล้วกับสภาพผมที่เป็นอยู่ในตอนนี้ Tonkit360 มีคำแนะนำดี ๆ จาก Kathryn Mercury แฮร์สไตลิสต์ร้านซาลอนดังในนิวยอร์ก Haven Hair Salon มาฝากคนที่อยากตัดผมด้วยตัวเองให้รอดมาฝากกัน ดังนี้

ตัดผมหน้าม้า
สำหรับคนที่ไว้ผมหน้าม้าและถึงเวลาที่ต้องเล็มได้แล้ว Kathryn แนะนำว่าไม่ควรตัดผมตอนเปียก เพื่อจะได้เห็นความยาวที่แท้จริงของผม เพราะถ้าไม่ใช่มืออาชีพ การตัดหน้าม้าตอนที่ผมเปียกอยู่ อาจจะทำให้คุณได้ “ม้าเต่อ” แบบไม่ตั้งใจก็เป็นได้

และถ้าไม่อยากได้หน้าม้าที่ดูเหมือนโดนหนูแทะ ก็ควรใช้กรรไกรค่อย ๆ เล็มผมไปทีละนิด แทนที่จะตัดฉับไปทีเดียว โดยอาจจะเล็มผมให้สั้นยาวต่างกันบ้างเล็กน้อย เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ส่วนใครที่ไม่อยากให้ผมดูแข็งทื่อจนเกินไป การใช้กรรไกรเล็มผมในแนวตั้งจะช่วยให้ผมดูซอฟท์มากขึ้น

ตัดผมด้วยปัตตาเลียน
สำหรับหนุ่ม ๆ ที่อยากตัดผมสั้น หรือสาว ๆ ที่อยากซอยผมสั้น Kathryn แนะนำว่าอุปกรณ์ที่เหมาะที่สุดคือ ปัตตาเลี่ยน ซึ่งสามารถหาซื้อได้จากช็อปออนไลน์ โดยสิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ชุดฟันรองปัตตาเลี่ยน

ยิ่งเลือกเบอร์ต่ำ ๆ หรือมีตัวเลขน้อยเท่าไร ก็หมายความว่าปริมาณผมที่ถูกตัดออกไปจะมากขึ้นเท่านั้น จึงควรเริ่มด้วยเบอร์สูง ๆ ก่อน เผื่อในกรณีที่ตัดพลาดขึ้นมาก็ยังสามารถแก้ไขได้

โดยให้เริ่มไถปัตตาเลียนจากด้านข้างขึ้นบน ด้วยฟันรองเบอร์ 3 ส่วนผมด้านผมนั้นก็สามารถใช้ปัตตาเลียนเช่นกัน โดยให้เปลี่ยนมาใช้ฟันรองเบอร์ 5 แทน แต่ทางที่ดี ควรใช้กรรไกรตัดจะได้ความแม่นยำ และมีความเสี่ยงที่น้อยกว่า

ตัดผมหนา หยิก หรือจัดแต่งทรงยาก
สำหรับคนที่มีผมหนา หยักศก ผมหยิก หรือจัดแต่งทรงได้ยากนั้น Kathryn บอกว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการตัดผมประเภทนี้ เพราะแค่การเล็มออกให้เข้ารูปทรงก็เป็นเรื่องยากแล้ว

Kathryn แนะนำว่าก่อนจะตัดผม ควรใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ช่วยเซ็ตผมให้ดูเป็นทรงได้มากที่สุดเสียก่อน หรือให้ดูยุ่งเหยิงน้อยที่สุด แม้ว่าวิธีดังกล่าวอาจจะทำให้รู้สึกแปลก ๆ เพราะผมดูยาวขึ้นจากการไดร์หรือเซ็ตผม แต่จะช่วยให้ดูเป็นทรงที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเล็มผมหรือแต่งทรงได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

ที่มา : recordonline.com