ลักษณะเด่น 5 อย่างของหนุ่มสาวญี่ปุ่น เพื่อการปรับตัวให้เข้ากับยุคใหม่

ลักษณะเด่น 5 อย่างของหนุ่มสาวญี่ปุ่น เพื่อการปรับตัวให้เข้ากับยุคใหม่

ลักษณะเด่น 5 อย่างของหนุ่มสาวญี่ปุ่น เพื่อการปรับตัวให้เข้ากับยุคใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อย่างก้าวสู่ยุคใหม่ หลาย ๆ สิ่งย่อมเปลี่ยนแปลงไปเป็นเรื่องธรรมดา แม้แต่ประเทศญี่ปุ่นเองที่เคยรุ่งเรืองด้านเศรษฐกิจจนถึงขีดสุดมาแล้ว ช่วงหลังมานี้หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกว่าประเทศญี่ปุ่นดูเหมือนนิ่ง แต่จริง ๆ แล้วในความนิ่งนั้นอาจจะมีความเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างเงียบ ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มหนุ่มสาวรุ่นใหม่ก็เป็นไปได้! ดังนั้นเราจะมาดูกันว่าลักษณะเด่น 5 อย่างที่หนุ่มสาวญี่ปุ่นกำลังทำเพื่อปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยใหม่มีอะไรบ้าง

1. ไม่ชอบให้คนมาอื่นมากีดกันและออกคำสั่งกับชีวิต
ข้อนี้ไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่ว่าหนุ่มสาวประเทศไหนก็คงจะคล้าย ๆ กัน ด้วยบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้หนุ่มสาวรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นมีความคิดต่างจากยุคสมัยเดิมที่ผ่านมา ไม่ได้อยู่แต่ในกรอบที่คนรุ่นเก่าขีดไว้ให้อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการที่มีคนจำนวนมากเริ่มไม่สนใจการทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพมากขึ้น การเรียนจบจากมหาวิทยาลัยแล้วต้องเข้าทำงานในบริษัทนั้นไม่ได้สำคัญกับพวกเขาอีกต่อไป แม้ต่อให้มีงานทำ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเงินเดือนว่าจะมากหรือน้อย ขอแค่เป็นงานที่ใจรัก แล้วพวกเขาจะทุ่มเทกับงานนั้นอย่างสุดกำลังเอง

ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในช่วงเศรษฐกิจเติบโตสูงสุดก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่าเป็นบุคลากรที่มีความรับผิดชอบต่อองค์กรสูงมาก แต่ปัจจุบันหนุ่มสาวรุ่นใหม่กลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการที่จะมีความรับผิดชอบต่อตัวเองมากกว่า ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงรู้สึกอ่อนไหวเป็นพิเศษ เมื่อมีใครมาคอยบงการสั่งชีวิต

สิ่งที่มองเห็นได้ในตัวของหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นสมัยนี้ก็คือ ความต้องการที่จะออกแบบชีวิตและรับผิดชอบสิ่งที่ออกแบบไว้ด้วยตนเอง ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการใช้ชีวิตหรือการเลือกสิ่งของที่ใช้จึงมักจะคิดเองและเลือกใช้สิ่งที่เข้ากับยุคสมัยและตนเองอยู่เสมอ

2. วัดค่ามาตรฐานความสุขด้วยตัวเอง

ถ้าคุณยังเอาความสุขของตัวเองไปเทียบกับของคนอื่น คุณก็จะไม่สามารถมีความสุขได้อย่างแท้จริง! อย่างเช่น ถ้าคุณมีรายได้รวมต่อปี 1 ล้านบาท แต่ว่าคนรอบตัวคุณมีรายได้รวมต่อปี 2 ล้านบาท แบบนั้นคุณก็จะรู้สึกไม่พอใจและไม่มีความสุข แต่ทว่าระดับของความสุขนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณได้ครอบครองความปรารถนาทั้งหมดที่คุณต้องการมากแค่ไหนต่างหาก

ที่ญี่ปุ่นต่อให้คุณไม่ได้ทำงานที่ค่าตอบแทนสูงเท่าไหร่ แต่ค่าตอบแทนนั้นก็มากพอที่จะซื้ออาหารและเสื้อผ้าเพื่อดำรงชีพได้ ด้วยเหตุนั้น จึงทำให้มีคนที่คิดว่าอยากทำอาชีพอะไรก็ได้ที่ตัวเองมีความสุขมากกว่าได้รับความมีหน้ามีตาในสังคม ดังนั้นจึงดูเหมือนว่าคนหนุ่มสาวนั้นจะสามารถวัดระดับความสุขได้ด้วยตัวเอง โดยมีแนวคิดที่ว่าไม่ว่ารอบตัวจะเป็นอย่างไร หากตัวเองมีความสุขแล้ว ความสุขก็จะเกิดขึ้นนั่นเอง

3. ใช้เครื่องมือดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดราวกับเป็นลมหายใจ

คนญี่ปุ่นในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะคิดคำนึงกับตัวเองและหลีกเลี่ยงการปะทะกับคนอื่น อีกด้านหนึ่งก็แสดงตัวตนในเชิงบวกบนสื่อสังคมออนไลน์ ประกอบกับคนรุ่นใหม่ปัจจุบันใช้เครื่องมือดิจิทัลราวกับเป็นลมหายใจ เพราะมันทำให้พวกเขาสามารถสื่อสารกับผู้คนได้ตลอด 24 ชั่วโมง

แน่นอนว่าการใช้เทคโนโลยีมากเกินไปอาจจะทำให้ภูมิคุ้มกันที่มีต่อ “ความโดดเดี่ยว” ลดลง ทำให้หลายคนไม่มีทักษะในการใช้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง อย่างก็ตามสื่อสังคมออนไลน์มีข้อได้เปรียบในการจัดเก็บความสัมพันธ์ไว้ในระยะยาวได้ หากคนที่ใช้มันเป็น ก็จะสามารถทำให้มันเป็นตัวช่วยที่มีค่าในการสร้างความสัมพันธ์ได้

4. เพราะไม่อยากผิดหวัง จึงไม่คาดหวังจนเกินไป

แม้หลาย ๆ คนจะมองว่าหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นสามารถพึ่งพาตัวเองได้ระดับหนึ่ง แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาไม่ได้รับอิสระในการใช้ชีวิตขนาดนั้น เพียงแต่รักษาระยะห่างกับรอบข้างเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาตัวเองได้ก็เท่านั้น

เนื่องจากพวกเขาไม่ได้รู้สึกว่าประเทศและสังคมจะปกป้องพวกเขาได้ จึงคิดว่าหากเราทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ก็จะไม่พบกับการความผิดหวัง หนุ่มสาวญี่ปุ่นหลาย ๆ คนคิดว่า ถ้ามีความหวังกับวันพรุ่งนี้ อาจจะผิดหวังก็ได้ ดังนั้นจึงพยายามที่จะไม่คาดหวังอะไร และใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่ก็มีหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อยเหมือนที่ชอบเสี่ยง ชอบที่จะท้าทายสิ่งใหม่ เพราะถ้าไม่ทำ ก็จะไม่มีโอกาสค้นพบเรื่องราวใหม่ ๆ เป็นต้น และนั่นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้พวกเขาได้ค้นพบศักยภาพของตัวเองได้เร็วขึ้น

5. อาจจะดูเหมือนนิ่งเฉย อันที่จริงพวกเขากำลังเติบโต

เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นในตอนนี้ได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวแล้ว ทำให้หลายคนมองว่าหนุ่มสาวประเทศนี้ดูเหมือนจะนิ่งเฉยไป แต่ความจริงแล้วพวกเขายังกระตือรือร้นเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวเข้าเรียน เตรียมตัวทำงาน หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ แม้ว่านโนบายของรัฐบาลหลายอย่างอาจจะเอื้อให้กับผู้สูงอายุที่มีจำนวนมากขึ้น แต่สิ่งที่ควรทำควบคู่กันไปก็คือ การดูแลหนุ่มสาวเพื่อให้คนเหล่านี้เติบโตขึ้นไปอย่างไปมีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป

สรุปเนื้อหาจาก: tabi-labo
ผู้เขียน : KOKATETA

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook