การวิ่งและวิดพื้นมีส่วนช่วยให้ “เถ้าแก่พัค” โค่นล้มชางกาได้อย่างไร?

เรียกว่าอวสานกันไปสดๆ ร้อนๆ ชนิดที่ยังมูฟออนกันไม่ได้สำหรับ “ITAEWON CLASS ธุรกิจปิดเกมแค้น” หนึ่งในซีรี่ส์เกาหลีที่มาแรงที่สุดในเวลานี้จากค่ายสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่อย่าง NETFLIX ที่เนื้อเรื่องว่าด้วยการเริ่มต้นทำธุรกิจบาร์เล็กๆ ในย่านอิแทวอนของ “พัคแซรอย” อดีตนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ โดยมีเป้าหมายยิ่งใหญ่คือการโค่น “ชางกา” บริษัทอาหารอันดับหนึ่งของเกาหลีใต้

ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะเน้นการเฉือนคมกันในเกมธุรกิจและความโรแมนติกระหว่างความสัมพันธ์ของตัวละคร อย่างไรก็ตามหนึ่งในฉากที่ตลอดทั้งเรื่องเห็นได้อยู่บ่อยครั้ง คือฉากการออกกำลังกายของพัคแซรอย หรือ “เถ้าแก่พัค” ไม่ว่าจะเป็นการวิดพื้นหรือวิ่ง และแทบทุกครั้งก็จะมีเพลงประกอบฉากบรรเลงขึ้นมาชวนให้รู้สึกฮึกเหิม 

ถ้ามองอย่างผิวเผินการออกกำลังกายกับการสร้างแบรนด์ธุรกิจเพื่อพิชิตชางกาของเถ้าแก่พัคอาจจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ถ้านำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายประกอบก็จะพบว่ามันมีส่วนที่เกี่ยวข้องกันอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือนอกจากประโยชน์ด้านสุขภาพร่างกายแล้ว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพจิตใจด้วยเช่นกัน อ้างอิงจากงานวิจัยของด็อกเตอร์ ชอว์น่า ชาร์ล จากคณะจิตวิทยา Walden University สอดคล้องกับในเนื้อเรื่องที่กว่าจะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เถ้าแก่พัคต้องใช้ความแข็งแกร่งด้านจิตใจเป็นอย่างมาก 

การวิ่งและวิดพื้นมีส่วนช่วยให้เถ้าแก่พัคเอาชนะชางกาได้อย่างไร? หาคำตอบได้ที่นี่

*บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรี่ส์ Itaewon Class

ลดความเครียด
ตัวละคร พัคแซรอย ถือเป็นหนึ่งในตัวละคร “ชีวิตบัดซบ” ที่สุดในโลกจอแก้วก็ว่าได้ โดยตั้งแต่วัยเด็กที่ชีวิตต้องเผชิญปัญหามากมาย รวมถึงการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ทำให้ตลอดช่วงเวลา 15 ปีแห่งการล้างแค้นของเขาจึงเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความเครียด ความแค้นที่อัดแน่นอยู่ภายในใจ ซึ่ง พัคแซรอย ก็เคยพูดอยู่หลายครั้งว่าถ้ายังทำภารกิจที่ตั้งเป้าไว้ไม่สำเร็จ ตัวเขานั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะมีความสุขหรอก

Photo : www.hankyung.com

อย่างไรก็ตามการออกกำลังด้วยการวิ่งและวิดพื้นของเขาตามหลักวิทยาศาสตร์นั้นมีอธิบายเอาไว้ว่า การออกกำลังกายนั้นสัมพันธ์กับอัตราความเครียดที่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นจากการออกกำลังกาย สมองก็จะถูกระตุ้นให้สร้างฮอร์โมน Norepinephrine ซึ่งมีส่วนในการบรรเทาความเครียด ช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจในด้านอารมณ์ และยังช่วยผลักเรื่องเครียดออกจากสมองไป แทนที่ด้วยการมองโลกในแง่บวกมากขึ้น นอกจากนั้นการออกกำลังกายยังทำให้ระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการเห็นอกเห็นใจทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดังนั้นนอกจากความมุ่งมั่นที่จะแก้แค้นให้สำเร็จ ความรักจากพวกพ้องแล้ว การออกกำลังกายก็น่าจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ พัคแซรอย ไม่ถูกความเครียดและไฟแค้นกัดกินจนสิ้นสภาพเสียก่อนในช่วงระยะเวลายาวนานกว่า 15 ปี

นอนหลับดีขึ้น
ในช่วงเหตุการณ์หนึ่ง พัคแซรอย เคยพูดกับ โชอีซอ ยัยหมวยผู้จัดการร้านขวัญใจมหาชนว่า เขานอนไม่ค่อยหลับ แทบจะนอนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ละคืนเต็มไปด้วยความขมขื่น ไฟแค้นอัดแน่นจนหัวใจแทบถูกเผาไหม้ และมันก็คงเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะโค่นชางกาได้สำเร็จ ถึงขั้นที่เขาเคยเป็นลมล้มพับลงไปเนื่องจากฝืนตัวเองโหมงานหนัก

Photo : www.gpkorea.com

ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ยังไงเสียการพักผ่อนก็เป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีแผนการใหญ่ที่ต้องใช้พลังงานสมองเต็มที่อย่าง พัคแซรอย ดังนั้นการวิดพื้นและการวิ่งที่เขาเป็นประจำก็น่าจะมีส่วนช่วยให้เขานอนหลับได้ง่ายขึ้นไม่มากก็น้อย โดยหลักวิทยาศาสตร์อธิบายไว้ว่าการออกกำลังกายจะเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายซึ่งส่งผลให้จิตใจรู้สึกสงบลง ไม่ฟุ้งซ่าน นอกจากนั้นการออกกำลังกายยังช่วยควบคุมจังหวะของนาฬิกาชีวภาพในร่างกายมนุษย์ว่าช่วงไหนควรจะสั่งสมองให้รู้สึกตื่นตัว หรือควรพักผ่อน 

ดังนั้นนอกจากพวกพ้องกับโชอีซอแล้ว การออกกำลังกายก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ค่ำคืนอันขมขื่นของพัคแซรอยหวานขึ้นมาบ้าง

เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
จากอดีตนักโทษที่ไร้ญาติขาดมิตร เมื่อได้รับอิสระภาพมาก็ต้องทนทำงานอย่างหนักเป็นเวลากว่า 7 ปี เพื่อเก็บเงินมาร้านเล็กๆ ในย่านอิแทวอน กับเป้าหมายการโค่น ชางกา บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศเกาหลีใต้ ดูจะเป็นเรื่องใหญ่เกินตัวไปมาก เรียกว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามตัวของ พัคแซรอย ไม่ได้คิดเช่นนั้น เขาเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่าเขาจะทำมันได้สำเร็จ ทุกการตัดสินใจของเถ้าแก่จึงเต็มไปด้วยความเด็ดขาดและมีประสิทธิภาพ โดยในเรื่องมีหลายฉากแสดงให้เห็นว่า พัคแซรอย เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองอย่างมาก พร้อมชนไม่ว่าจะอีกฝ่ายจะเป็นใครก็ไม่สน ซึ่งความมั่นใจในตัวเองระดับนี้แหละคือกุญแจสำคัญในการโค่นล้มชางกาเลยก็ว่าได้

Photo : www.cyfren.com

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ พัคแซรอย เป็นคนที่เต็มไปด้วยความมั่นส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่เขาหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนี่แหละ เพราะสมองจะหลั่งสาร Cortisol และ Adrenaline ออกมา ซึ่งสารเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดความมั่นใจในตัวเอง กระตุ้นให้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ยากลำบาก แทนที่จะกังวลจนจมทุกข์ไปกับมัน

เพิ่มพลังสมอง
สำหรับภารกิจอันยิ่งใหญ่อย่างการโค่นล้มชางกา ตัวละคร พัคแซรอย จำเป็นต้องทุ่มทุกอย่างที่มีเพื่อเอาชนะให้ได้ ดังนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าเขาจำเป็นต้องอาศัยพลังสมองอย่างสูง เพราะทุกกการตัดสินใจ ทุกกลยุทธ์ ย่อมมีผลใหญ่หลวงตามมา และเขาจะพลาดไม่ได้ ซึ่งตลอดทั้งเรื่องผู้ชมอย่างเราจะเห็นได้ว่าถึงแม้ตัวละคร พัคแซรอย จะไม่ใช่ตัวละครที่ฉลาดหลักแหลม ถ้าเป็นในสงครามเขาก็คงเป็นสายบู๊ทะลวงฟัน โดยมี โชอีซอ เป็นขงเบ้งคอยบัญชาการ แต่จุดเด่นของ พัคแซรอย คือการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด และการตัดสินใจของเขาก็ถูกต้องแทบจะเสมอ

Photo : paper.co.kr

เมื่อเป็นเช่นนี้ พัคแซรอย จำเป็นต้องอาศัยพลังสมองอย่างมากเพื่อพาตัวเขาไปสู่จุดสูงสุดในวงการอาหารประเทศเกาหลีใต้ โชคดีที่ พัคแซรอย ชอบออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอมีส่วนในการกระตุ้นสร้างเซลล์สมองใหม่ซึ่งเป็นกระบวนการที่เรียกว่า Neurogenesis และเป็นการปรับปรุงการทำงานของสมองโดยรวม นอกจากนี้ยังช่วยในการเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงพลังใจ (Mental Energy)

เสริมสร้างความจำ
ภารกิจการโค่นล้มชางกาเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมายที่ พัคแซรอย จำเป็นต้องจดจำและทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงสร้างองค์กร จำนวนผู้ถือหุ้น รวมถึงการลงทุนในกองทุนต่างๆ เพื่อผลกำไร 

Photo : kakao.com

ถึงแม้จะมี อีโฮจิน และ โชอีซอ คอยช่วยเหลือในส่วนนี้ แต่ยังไงคนที่ต้องวิเคราะห์ทุกอย่างเพื่อตัดสินใจก็ยังเป็นตัวของ พัคแซรอย อยู่ดี อย่างไรก็ตามโชคดีที่เถ้าแก่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สามารถจดจำเรื่องรายละเอียดเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการออกกำลังกายมีส่วนช่วยในการผลิตเซลล์ Hippocampus ซึ่งเป็นเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับความจำและประสิทธิภาพในการเรียนรู้โดยตรง 

เหล่านี้คือประโยชน์ทางด้านจิตใจและสมองที่ได้รับจากการออกกำลังกาย ที่ถึงแม้คุณจะไม่ใช่ พัคแซรอย ไม่ได้มีภารกิจยิ่งใหญ่ที่จะโค่นล้มใครเพื่อแก้แค้น แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับชีวิตประจำวันของทุกคนได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าดู Itaewon Class จบแล้วก็ลองลุกขึ้นขยับร่างกายเรียกเหงื่อดูก็น่าจะเป็นความคิดที่ไม่เลวนะ

แหล่งอ้างอิง:

https://www.waldenu.edu/online-bachelors-programs/bs-in-psychology/resource/five-mental-benefits-of-exercise
https://www.huffpost.com/entry/mental-health-benefits-exercise_n_2956099
https://www.healthdirect.gov.au/exercise-and-mental-health