6 เทคนิค “ลดความเครียด” ชนิดเห็นผลทันที!

หลายคนมองว่าการใช้ชีวิตทุกวันนี้เป็นเรื่องไม่ง่าย ถึงกับมีประโยคแห่งยุคสมัยที่กล่าวว่า “ยุคนี้อยู่ยาก แต่ต้องอยู่ให้ได้” ใช่ค่ะ อยู่ยากแต่ต้องอยู่ให้ได้ และอยู่ให้มีสุขภาพจิตที่ดีด้วย การเผชิญกับภาวะกดดันทั้งจากครอบครัว เพื่อน หรือที่ทำงาน ทำให้หลายคนเกิดความเครียด หรือกลายเป็นคนขี้หงุดหงิดได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าอยากลดความเครียดอย่างรวดเร็วลองใช้ 6 เทคนิคนี้ในการลดความเครียดชนิดเห็นผลได้ทันที

1. ตั้งสติและพิจารณาปัญหา
อาจฟังดูเหมือนง่ายแต่แท้จริงแล้วการที่คนเราจะตั้งสติเมื่อเผชิญหน้ากับปัญหานั้นไม่ใช่เรื่องงานเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภายในใจของคุณเต็มไปด้วยความกังวลร้อยแปด ผู้คนรอบข้างที่ต่างก็แสดงความคิดเห็นจนคุณเองก็สับสนไปหมด ถ้าตกอยู่ในห้วงเวลาแบบนี้หนทางที่ดีทีสุดคือหยุดทุกอย่าง แล้วตั้งสติพิจารณาสิ่งทีเกิดขึ้น แล้วคุณจะพบว่าปัญหาที่คุณกำลังกังวลนั้นคนอื่นเขาก็พบเจอเหมือนกัน มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยและคุณสามารถก้าวข้ามมันไปได้

2. สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอยู่กับปัจจุบัน
หลายคนกังวลในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น นึกกลัวอนาคตไปเอง และก่อให้เกิดความเครียด ถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ให้คุณจงมองแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า ลงมือทำสิ่งที่อยู่ในปัจจุบันให้ดีที่สุด คิดไว้เสมอว่าอนาคตจะดีหรือร้ายก็ขึ้นอยู่กับปัจจุบันที่ลงมือทำ

3. จงเป็นตัวของตัวเอง
ความเครียดหรือกังวลใจของหลายคนเกิดขึ้นเพราะต้องเป็นคนอื่นให้คนอื่นพอใจ และเมื่อต้องเสแสร้งเป็นในสิ่งที่ตนเองไม่ได้เป็น ก็ขอให้กลับมาเป็นตัวของตัวเอง แล้วพิจารณาว่าเราควรปรับปรุงตรงไหน เมื่อยอมรับได้ก็เปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีได้

4. พิจารณาลมหายใจ
เมื่อสมองของคุณเริ่มมีความคิดลบ เริ่มหงุดหงิดกับสิ่งที่อยู่รอบข้าง ขอให้หาที่นั่งพักสบาย ๆ หลับตาแล้วหายใจเข้า-ออกยาว ๆ แล้วพิจารณาที่ลมหายใจ แบบนี้จะทำให้คุณผ่อนคลายและหยุดคิดจากความคิดลบ รวมถึงความหงุดหงิดทั้งหลาย ค่อยๆปรับอารมณ์กลับมาให้เป็นปกติ

5. นั่งสมาธิ
หาที่สงบ ๆ ภายในบ้านหรือในออฟฟิศ แล้วนั่งในท่าที่คุณรู้สึกผ่อนคลาย มีพนักพิงหลัง จากนั้นหลับตาผ่อนคลายลมหายใจ หายใจเข้าและออกยาว ๆ และทำไปจนกว่าจะรู้สึกสบายใจ

6. เดินผ่อนคลายความเครียด
ถ้าพอมีเวลา และอยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะนัก ให้ลองเดินเพื่อผ่อนคลายความเครียด การได้เดินในสถานที่มีต้นไม้ มีลมพัดเบา ๆ จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และบางทีอาจพบหนทางแก้ปัญหาเลยด้วยซ้ำ