คนญี่ปุ่นคิดอย่างไรกับการใช้สมาร์ทโฟนจดบันทึกในการทำงาน?
วิธีการจดบันทึกมีหลากหลายวิธีแตกต่างกันไป โดยปกติแล้วมักจะเป็นการเขียนลงไปในกระดาษหรือสมุด แต่เมื่อยุคปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนเข้ามา ผู้คนก็เริ่มหันไปใช้การจดบันทึกในสมาร์ทโฟนแทนมากขึ้น แต่ก็เชื่อได้ว่าคงไม่ใช่ทุกคนที่จะปลื้มกับวิธีนี้ บางคนก็มองว่าไม่เหมาะสม ดูเสียมารยาท งั้นเราลองไปดูความคิดเห็นของคนญี่ปุ่นบางส่วนกันค่ะ ว่าจะมีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
sirabeee ได้ทำการสำรวจจากผู้ที่ประกอบอาชีพในวัย 10-60 ปี จำนวน 827 คนทั่วประเทศ ผลคือ ผู้ตอบแบบสอบถามมีเพียง 20.1% เท่านั้นที่ตอบว่า “คิดว่าไม่เหมาะสม” โดยคนส่วนใหญ่คิดว่าการจดบันทึกบนสมาร์ทโฟนนั้นไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อนำ 20.1% นั้นมาแบ่งแยกตามอาชีพ พบว่า..
อัตราส่วนของผู้ที่ทำงานอิสระสูงที่สุดที่ 27.3% โดยคนที่ทำงานในลักษณะที่ไม่ได้อยู่ในบริษัทแบบนี้ ดูเหมือนจะมีความรู้สึกอึดอัดในใจที่จะใช้การจดบันทึกบนสมาร์ทโฟน แต่ในทางกลับกัน อาชีพผู้จัดการ มีเพียง 10.3% เท่านั้นที่มองว่าเป็นการเสียมารยาท โดยส่วนใหญ่มองว่าเป็นการใช้สมาร์ทโฟนอย่างมีประสิทธิภาพในการทำงาน
ค่อนข้างขัดแย้งกับที่คิดไว้เลยใช่มั้ยคะ ทั้ง ๆ ที่คนที่ทำงานอิสระน่าจะชอบใช้สมาร์ทโฟนมากกว่า และคนเป็นผู้จัดการก็น่าจะชอบให้จดในสมุดมากกว่า แต่ผลออกมากลับกันซะงั้น
ลองมาดูความเห็นของคนที่มองว่าเสียมารยาทกันค่ะ จากผู้ตอบแบบสอบถามเพศชายวัย 50 ปี
“การจดบันทึกลงในสมุดบันทึกมันดูดีกว่าการจดบันทึกในสมาร์ทโฟน หากไปใช้ให้ลูกค้าเห็น อาจถูกเข้าใจผิดว่ากำลังเล่นมือถือก็ได้ แม้ในการประชุมที่บริษัทตัวเอง ก็รู้สึกว่าเสียมารยาท ไม่ค่อยเหมาะสมเหมือนกัน จดในสมุดบันทึกเองน่าจะดีกว่า”
ลองมาดูฝั่งของคนที่มองว่าไม่มีปัญหากันค่ะ จากผู้ตอบแบบสอบถามเพศหญิงวัย 20 ปี
“การจดในสมุดบันทึกมักจะลืมว่าเขียนไว้ที่ไหน บางครั้งก็เขียนไว้ลวก ๆ มาอ่านทีหลังก็อ่านไม่ค่อยออก แต่หากใช้สมาร์ทโฟนจะสามารถเชื่อมกับเวลาหรือปฏิทินได้ ค้นหาได้ง่าย ตัวหนังสือไม่เละเทะ เป็นวิธีที่สะดวกและมีประสิทธิภาพมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงเป็นการเสียมารยาท”
เมื่อพิจารณาถึงข้อดีต่าง ๆ ก็สมเหตุสมผลนะคะที่คนส่วนใหญ่จะใช้สมาร์ทโฟนมากกว่า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีคนที่มองว่าไม่เหมาะสมในบริบทการทำงาน อย่าว่าแต่ญี่ปุ่นเลยค่ะ อย่างในบ้านเราเอง ผู้ใหญ่บางคนอาจจะยังยึดติดว่าจับมือถือคือการเล่นมือถือ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับกาลเทศะเป็นสำคัญว่าควรจะเลือกใช้แบบไหน ในสถานการณ์ใด กับใคร แต่อย่างคนญี่ปุ่นบางคนที่มองว่าไม่เหมาะสม ก็เรียกได้ว่าอาจจะแคร์สายตาผู้อื่นพอสมควร จึงต้องพิจารณาด้วยว่าอีกฝ่ายจะมองมาว่าอย่างไร แต่ก็ไม่ได้ถึงกับปฏิเสธเทคโนโลยีไปเสียทีเดียว
สรุปเนื้อหาจาก sirabee