7 วิธี “ก้าวข้าม” ความรู้สึกที่ทำร้ายจิตใจตัวเอง
เวลาที่เราต้องเจอกับปัญหา หรือต้องรับมือกับความผิดหวัง หรือความไม่สมหวังทั้งเรื่องรัก เรื่องเรียน หรือเรื่องในหน้าที่การงาน หลายคนยากที่ก้าวข้ามได้ และมักจะความรู้สึกที่ถามตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า “ทำไม” ย้ำวนไปวนมาหลายรอบ ก็เหมือนเอามีดเล่มเดิมทิ่มแทงตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนท้ายที่สุดก็ก้าวไม่พ้นปัญหาแถมยังเจ็บหนักยิ่งกว่าเดิม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเรามาหาทางออกให้กับความรู้สึกของตนเอง เพื่อให้หลุดพ้นจากความคิดทางด้านลบ หรือก้าวข้ามความรู้สึกที่ทำร้ายเรากันดีกว่า
1. เมื่อคุณต้องพบกับความรู้สึกสูญเสียหรือมีความคิดในด้านลบ
คนเราจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์แล้วไม่สามารถรับมือกับความรู้สึกดังกล่าวได้ แม้จะมีเพื่อนหรือครอบครัวอยู่เคียงข้าง แต่ความรู้สึกที่ต้องสูญเสียนั้นยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้แทบจะรับมือกับความกดดันดังกล่าวไม่ไหว ซึ่งหนทางที่ดีที่สุดคือการไปพบกับผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนักบำบัดหรือนักจิตวิทยา การหันหน้าเข้าหาผู้เชี่ยวชาญนั้นถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพราะทำให้ว่าคุณนั้นรู้สึกได้ว่าตนเองมีอาการป่วยและต้องการการเยียวยาอย่างแท้จริง
2. รู้สึกสูญเสียตัวตนของตนเอง
เป็นเรื่องธรรมชาติที่บางครั้งเราจะสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณต้องอยู่ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง คุณจะเริ่มมีคำถามถึงความสามารถของตนเอง จากนั้นก็จะเริ่มรู้สึกกลัวที่อาจจะต้องสูญเสียงาน หรือหน้าที่อันเป็นที่รักไป แต่การเรียกคืนกลับความมั่นใจในตนเองนั้นคุณเองสามารถแก้ไขได้โดยง่าย ด้วยการสร้างความคุ้นเคยและไม่ปิดกั้นตนเองกับสิ่งใหม่ ซึ่งใช้เวลาไม่เกินสองสัปดาห์ จากนั้นคุณจะพบว่าตนเองสามารถก้าวข้ามปัญหาดังกล่าวได้อย่างง่ายดาย
3. การเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลง
ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นคุณต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม และในทุกครั้งที่เกิดความเปลี่ยนแปลงคุณจะโตขึ้นทุกครั้ง และแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิม เหนืออื่นใดคุณจะได้รู้ว่าใครคือมิตรที่แท้จริงในชีวิตคุณ
4. ทิ้งอดีตแล้วอยู่กับปัจจุบันเพื่อเปิดทางไปสู่อนาคต
อดีตที่ผ่านมาคือประสบการณ์ชีวิตที่คุณได้รับและเหตุการณ์นั้นได้จบไปแล้วคุณไม่สามารถแก้ไขใด ๆ ได้อีก สิ่งที่ดีที่สุดคือการปรับเอาอดีตที่ผิดพลาดมาทำให้ดีขึ้นในปัจจุบันเพื่อที่อนาคตจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำสอง และยิ่งคุณยอมรับข้อผิดพลาดมากเท่าไร คุณก็จะมีโอกาสได้เดินหน้าต่อมากขึ้นเท่านั้น
5. จงมองไปที่จุดหมายเหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
เวลาที่เราคิดถึงเรื่องอนาคต จุดที่เราต้องการก้าวไปให้ถึงนั้นมักจะเป็นจุดเล็ก ๆ ยังอยู่อีกห่างไกลและนั่นก็คือเป้าหมายที่ทำให้คุณต้องก้าวเดินต่อไป สิ่งสำคัญที่คุณควรจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบันไม่จมอยู่กับอดีตจนทำให้ตนเองก้าวเดินต่อไปไม่ได้
6. จงเริ่มต้นที่จะรักตัวเอง
จงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และมีความสุขให้มากขึ้นกับสิ่งเล็กน้อย ๆ ที่อยู่รอบตัว ที่ผ่านมาคุณอาจจะมีความสุขในการอยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูง หรือได้ทำงานอดีตที่รัก เมื่อถึงวันที่คุณตัดสินใจจะรักตัวเองให้มากขึ้นคุณก็สามารถมีความสุขกับสิ่งเล็กน้อยที่อยู่รอบตัวได้ ไม่ว่าจะเป็นการกินดีเพื่อสุขภาพที่ดี ได้ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายพร้อมที่จะรับมือการย่างก้าวต่อไปของคุณเอง
7. จงเริ่มต้นมองโลกอีกครั้งด้วยสายตาที่มีทัศนคติในด้านบวก
โลกไม่ได้มืดตลอดเวลา กลางวัน 12 ชั่วโมงและกลางคืน 12 ชั่วโมง ชีวิตคุณก็เช่นกัน ที่คนเราจะไม่อยู่กับความทุกข์อย่างเดียวไปตลอดชีวิต คุณสามารถสร้างชีวิตชีวาให้กับชีวิตได้ด้วยเสียงหัวเราะ ขณะเดียวกัน คุณจะรู้สึกว่าตนเองเข้มแข็งขึ้นเมื่อกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความผิดพลาดในอดีต หรือเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดที่คุณพยายามจะหนีมา เมื่อเรารู้จักเผชิญหน้ากับปัญหาแล้วก็หมายความว่าเราเรียนรู้เพื่อให้ตัวเองได้เติบโตขึ้น