5 วิธีคงความชุ่มชื้นให้ผิวในช่วงอากาศหนาว

ปัญหาผิวแห้งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะมากับหน้าหนาวและการที่ผิวจะต้องเผชิญกับความเย็นในห้องแอร์หรือพื้นที่ที่มีความแห้งสูง จึงทำให้น้ำหล่อเลี้ยงผิวถูกดึงออกไปอย่างง่ายดาย เกิดเป็นปัญหาผิวแห้งที่สร้างความหยาบกร้าน ปัญหาผิวแห้งแตกเป็นขุย ผิวอักเสบแดง และอีกหลากหลายปัญหาผิวตามมา ดังนั้นถ้าไม่อยากเผชิญปัญหานี้ ลองมาดูวิธีแก้ไข 10 ข้อเหล่านี้กัน

1.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อครีมเท่านั้น

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องผิวแห้งควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อครีม เพราะจะอุดมไปด้วยความชุ่มชื้นและมอยซ์เจอไรเซอร์ พร้อมทำการเคลือบผิวไม่ให้น้ำหล่อเลี้ยงถูกดึงออกไปอย่างง่ายดาย จึงสามารถให้ประสิทธิภาพในการบำรุงผิวแบบชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน ที่สำคัญควรเลือกครีมที่ปราศจากสารอันตราย โดยเน้นเป็นสารสกัดจากธรรมชาติและมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีความปลอดภัยสูง มีความอ่อนโยนต่อผิว แต่ในขณะเดียวกัน ก็ให้การฟื้นบำรุงที่มีความเข้มข้นและไม่ควรเป็นครีมที่มีน้ำหอม เพราะแอลกอฮอล์ที่อยู่ภายในน้ำหอมอาจจะทำร้ายผิวให้เกิดอาการแพ้และอักเสบมากขึ้น

2.อาบน้ำในอุณหภูมิที่พอเหมาะ

การอาบน้ำควรเลือกใช้น้ำในอุณหภูมิปกติ ไม่ควรใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นมากจนเกินไป เพราะน้ำเย็นหรืออุ่นมากจะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว ดังนั้นควรเลือกเป็นน้ำในอุณหภูมิปกติที่ถือว่าเหมาะสมต่อการทำความสะอาดผิวมากที่สุด และไม่ดึงน้ำหล่อเลี้ยงออกจากผิว  หากถ้าคุณเป็นคนที่ชอบสครับหรือขัดผิว เมื่อถึงหน้าหนาวควรหยุดหรือขัดผิวเพียงแค่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น เพราะการใช้สครับขัดผิวที่แม้ว่าจะเป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แต่ก็ดึงเอาน้ำหล่อเลี้ยงผิวออกไปด้วยเช่นกัน

3.ทาครีมบำรุงหลังอาบน้ำ

หลังจากการอาบน้ำเสร็จให้คุณใช้ผ้าเช็ดตัวแค่พอหมาด แล้วลงครีมบำรุงผิวที่มีความชุ่มชื้นสูงทันที เพื่อทำให้เนื้อครีมเคลือบผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวไว้ให้ได้มากที่สุด เลือกใช้น้ำมันจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันละหุ่ง โจโจ้บา ออยล์ หรือเชียร์บัตเตอร์ ถือว่าเป็นน้ำมันสกัดจากธรรมชาติสูตรเข้มข้น ที่จะช่วยบำรุงผิวทั้งในช่วงก่อนนอนและช่วงเช้าได้ดีเยี่ยม เป็นตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นที่ไม่ทำร้ายผิว

4.ไม่อยู่แต่ในห้องแอร์

ถ้าคุณต้องทำงานอยู่แต่ในห้องแอร์ แนะนำให้เดินออกจากห้องแอร์มาสัมผัสกับอากาศปกติหรือแสงแดดบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดปัญหาแห้งมากจนเกินไป หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ให้พกพาครีมที่มีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์หรือสารให้ความชุ่มชื้นสูงและทาผิวทุกชั่วโมง

5.อาหารต้องมีคุณค่า

การรับประทานอาหารเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจะเป็นตัวช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นจากภายใน ดังนั้น จึงควรเน้นรับประทานผักและผลไม้ เช่น บล็อกโคลี่ มะเขือเทศ และแตงโม ที่ถือว่าเป็นผักและผลไม้แบบให้ความชุ่มชื้นสูง รวมไปถึงอาหารที่มีไขมันดีอย่างน้ำมันมะกอก, ปลาแซลมอน, อโวคาโด, เต้าหู้ และวอลนัท เป็นต้น

ถ้าคุณกำลังต้องเผชิญกับปัญหาผิวแห้งที่ทำร้ายคุณอยู่ตลอดทั้งวัน ขอแนะนำให้คุณทำตามทั้ง 5 ข้อนี้ และทำเป็นประจำ เชื่อว่าปัญหาผิวแห้งของคุณจะบรรเทาลงและช่วยทำให้ผิวกลับมาสดใส อีกทั้งยังช่วยเติมน้ำหล่อเลี้ยงผิวให้เพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย