Mido Ocean Star 200C อีกความยอดเยี่ยมของเรือนเวลาจาก MIDO

Mido Ocean Star 200C อีกความยอดเยี่ยมของเรือนเวลาจาก MIDO

Mido Ocean Star 200C อีกความยอดเยี่ยมของเรือนเวลาจาก MIDO
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Mido (มิโด) ได้นำเซรามิก ซึ่งถือว่าเป็นวัสดุที่มีความโดดเด่นในแวดวงของอุตสาหกรรมนาฬิกา มาสู่การผลิตขอบตัวเรือนแบบหมุนได้เพื่อใช้กับนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Ocean Star 200C (โอเชียน สตาร์ 200ซี) คุณสมบัติทางกายภาพที่น่าทึ่งและโดดเด่นของวัสดุประเภทนี้ คือ ความทนทานต่อการขีดข่วน ความทนทานต่อความเสียหายอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างกะทันหัน เช่นเดียวกับความแข็งแกร่งและความทนทานที่รับประกันได้ว่าสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน

สำหรับนาฬิการุ่นนี้ทางแบรนด์ได้ยืนยันให้เห็นถึงความปรารถนาอย่างต่อเนื่องที่จะนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย ด้วยการใช้วัสดุที่ดีที่สุดและการขัดแต่งในระดับไฮเอนด์โดยไม่ทิ้งคุณค่าของตัวนาฬิกา ที่สำคัญคือ วงแหวนสำหรับใช้บนขอบตัวเรือนซึ่งถูกผลิตด้วยเซรามิกจะมาพร้อมกับสีเขียวที่สดใส ซึ่งถือเป็นโทนสีใหม่แกะกล่องสำหรับผู้ผลิตนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ โดยจะจับคู่กับหน้าปัดที่เป็นโทนสีแบบด้าน ซึ่งบนพื้นผิวมีการขัดแต่งและตกแต่งด้วยรายละเอียดที่เป็นระลอกคลื่น ถือเป็นหน้าปัดแบบใหม่ที่โดดเด่นสำหรับ Ocean Star 200C ส่วนในแง่ของประสิทธิภาพการทำงานที่มีความยอดเยี่ยมในเชิงเทคโนโลยีนั้นถูกสะท้อนผ่านทางกลไกอัตโนมัติ Calibre 80 เช่นเดียวกับความสามารถในการกันน้ำระดับ 200 เมตร

สถาปัตยกรรมที่ท้าทายทุกสภาพอากาศ

สถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นทางตอนใต้ของทวีปยุโรปเพื่อท้าทายทุกพายุที่อยู่ในท้องทะเล และทำหน้าที่สอดส่องและนำทางให้กับเรือเดินสมุทรที่แล่นเข้าสู่ช่องแคบยิบรอลตานับตั้งแต่ปี 1841 แสงอันแรงกล้าของไฟจากประภาคาร European Point ที่ถูกส่งออกมาถือเป็นแสงนำทางที่สำคัญสำหรับนักเดินเรือในการมองหาร่องน้ำที่เหมาะสมในการเดินเรือในช่วงรอยต่อระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอเรเนียน การถูกสร้างสรรค์ขึ้นในปี 1944 โดย Mido นั้น นาฬิกาใน คอลเลกชั่น Ocean Star ได้นำบุคลิกที่สะท้อนถึงความทนทานและเชื่อใจได้ของสถาปัตยกรรมแห่งนี้มาใช้ในการสร้างสรรค์ซึ่งเปรียบเสมือนกับการนำทางไปสู่ความปลอดภัยให้กับผู้คนในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางโดยเรือเพื่อค้นพบกับโลกใหม่

ออกแบบเพื่อท้องทะเล

Ocean Star 200C ให้สัมผัสที่ทรงพลังผ่านทางรูปลักษณ์ภายนอกเวลาที่อยู่บนข้อมือของผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬา ด้วยหน้าปัดสีเขียวด้านที่ตกแต่งพื้นผิวให้มีลวดลายเป็นระลอกคลื่น เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีแบบไดมอนด์คัตที่ขัดแต่งด้วยลวดลายซาติน มีความเด่นและสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ขณะที่เข็มวินาทีซึ่งกำลังเคลื่อนตัวผ่านในแต่ละวินาทีก็สามารถทำให้ผู้ที่มองเห็นสามารถจดจำได้กับปลายเข็มที่มีรูปทรงคล้ายผลแอปเปิ้ล สำหรับหลักชั่วโมงบนหน้าปัดมาในสไตล์วงกลม ยกเว้นในตำแหน่ง 12 นาฬิกาที่จะเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมแบบกลับหัว ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกาดำน้ำ สำหรับสเกลจับเวลา 60 นาทีที่อยู่บนขอบตัวเรือนแบบหมุนได้จะไช้วัสดุอย่างเซรามิกที่มีประสิทธิภาพสูงและทนทานต่อการขูดขีด ต้องขอบคุณ Super-LumiNova® สีขาวบนหลักชั่วโมง ชุดเข็ม และเครื่องหมายที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาบนขอบตัวเรือนที่ทำให้รายละเอียดเหล่านี้สามารถมองเห็นได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือในที่มืด การแสดงวันประจำสัปดาห์และวันที่จะอยู่บนช่องในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ด้วยการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้านลงบนกระจกแบบคริสตัลแซฟไฟร์ซึ่งจะช่วยให้สามารถซึมซับความน่าประทับใจที่อยู่บนหน้าปัดของนาฬิกาเรือนนี้ได้ไม่ว่าจะมองผ่านจากตำแหน่งไหน

พร้อมสรรพสำหรับการใช้งานในน้ำ

Ocean Star 200C มาพร้อมกับกลไกอัตโนมัติ Calibre 80 ซึ่งมีการทำงานที่เชื่อถือได้จากกำลังสำรองที่นานถึง 80 ชั่วโมง กลไกรุ่นนี้ได้รับการปกป้องโดยตัวเรือนสเตนเลสสตีลที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงดันน้ำในระดับสูงสุด 20 บาร์ (200 ม. / 660 ฟุต) มาพร้อมเม็ดมะยมและฝาหลังแบบขันเกลียว สำหรับรายละเอียดบนตัวเรือนนั้นมีการขัดแต่งที่ผสมผสานเพื่อให้พื้นผิวสามารถสะท้อนแสงได้อย่างลงตัว ร่องและขอบตัวเรือนที่ผ่านการขัดเงาแวววางถูกวางเรียงต่อจากพื้นผิวด้านข้างที่ผ่านการขัดลายแบบซาติน สำหรับบนฝาหลัง ปรากฏรูปสัญลักษณ์ปลาดาวที่ถูกขัดเงา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจิตวิญญาณทางทะเลสำหรับคอลเล็กชั่นนี้ สายโลหะที่ผลิตจากสแตนเลสมาพร้อมกับบานพับที่ถูกออกแบบให้สามารถขยายขนาดได้เป็นพิเศษสำหรับใช้กับชุดดำน้ำ ซึ่งเป็นการออกแบบเพื่อให้ตัวนาฬิกาสามารถรองรับกับการใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่สำหรับประจำวันหรือการใช้งานกับชุดดำน้ำเมื่อลงสู่ใต้ท้องทะเล และแน่นอนว่าทุกรายละเอียดได้รับการสร้างสรรค์อย่างโดดเด่นโดยเน้นไปที่การใช้งานในชีวิตประจำวันของคนเมือง ไม่ว่าจะเป็นสายแต่ละข้อต่อที่มีการขัดแต่งด้วยลายซาตินตรงข้อด้านข้างและเป็นการขัดเงาสำหรับข้อกลาง ทำให้สามารถเล่นกับแสงที่มาส่องกระทบได้อย่างสวยงาม และสามารถสร้างสรรค์การสะท้อนแสงที่ตัดกันอย่างลงตัว

รายละเอียดทางเทคนิค

กลไก : กลไกอัตโนมัติ Mido Caliber 80 (ใช้พื้นฐาน ETA C07.621), เส้นผ่านศูนย์กลาง 11 ½ นิ้วหรือ 25.60 มิลลิเมตร สูง 5.22 มิลลิเมตร จำนวน 25 ทับทิม เดินด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง / ขัดแต่งสวยงามตามเกรด Elabore / โรเตอร์ขึ้นลานขัดลายเจนีวาสไตรปส์และแกะสลักเป็นโลโก้ Mido / ฟังก์ชั่นแสดงชั่วโมง นาที วินาที และวันที่ / ปรับตั้งเพื่อความเที่ยงตรงสูงใน 3 ตำแหน่ง / กำลังลานสำรองสูงถึง 80 ชั่วโมง

ตัวเรือน : ผลิตจาก Stainless Steel ขัดตัวเรือนเงาสลับลายซาติน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.5 มิลลิเมตร / ประกอบด้วย 2 ชิ้นส่วน ขอบตัวเรือนหมุนทางเดียวผลิตจากเซรามิกสีเขียวพร้อมสเกลจับเวลา 60 นาที จุดในตำแหน่ง 12 นาฬิกามีการเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาว / กระจกแซฟไฟร์คริสตอล เคลือบสารกันการสะท้อนแสงทั้งด้านนอกและด้านใน / ฝาหลังเป็นแบบขันเกลียวมาพร้อมกับสัญลักษณ์ปลาดาวพร้อมหมายเลขประจำเรือน / เม็ดมะยมแบบขันเกลียว / ความสามารถในการกันน้ำระดับ 20 บาร์ (200 เมตร /660 ฟุต)

สาย : ผลิตจาก Stainless Steel มีการขัดลายซาตินที่ข้อด้านข้าง และข้อกลางเป็นแบบขัดเงา มาพร้อมตัวรัดสายแบบบานพับที่สามารถขยายขนาดเพื่อรองรับกับการใช้งานกับชุดดำน้ำ

หน้าปัด : สีเขียวด้าน มาพร้อมลวดลาย ‘คลื่น’ บนพื้นหน้าปัด / หลักชั่วโมงแต่ละจุดเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาว / ช่องแสดงวันประจำสัปดาห์ และวันที่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา

เข็ม : เข็มชั่วโมง-นาทีมีรูปทรงแบบไดมอนด์คัตพร้อมกับส่วนนูนตรงกลางและมีการเคลือบสารเรืองแสง SuperLuminova สีขาว และเข็มวินาทีมีรูปทรงแบบไดมอนด์คัตพร้อมปลายที่เคลือบด้วยสารเรืองแสง SuperLuminova สีขาว

ด้วยหน้าปัดสีเขียวแบบใหม่และรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ตและสอดรับกับการใช้งานใต้ท้องทะเลลึก Ocean Star 200C ถือเป็นความโดดเด่นที่ผสมผสานระหว่างความยอดเยี่ยมของเซรามิกกับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว โดยวางจำหน่ายในราคา35,900 บาท สอบถามข้อมูลทางออนไลน์ได้ที่ Mido Official Store @Shopee และ www.midowatches.com หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02-610-0299

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook