“ห้องระบายอารมณ์” ช่วยชาวอเมริกันคลายเครียดช่วงโควิด
เกือบ 1 ปีเต็มที่ชาวอเมริกันและทั่วโลกเผชิญกับการถูกจำกัดบริเวณและปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ช่วงการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัส โควิด-19 และทำให้หลายคนประสบกับความเครียดจัด อยากจะลุกขึ้นมาฟาดฟันทำลายข้าวของเพื่อระบายอารมณ์อยู่ลึกๆ
เช่นเดียวกับ จอช อิโลฮิม ผู้บริหารในบริษัทประกัน บอกว่า ระหว่างที่เขากำลังจัดการเคลียร์เครื่องพิมพ์เอกสารและสิ่งของต่างๆจากกองข้าวของรกๆในบ้าน ทำให้เขานึกย้อนถึงการที่เขาเคยสับท่อนไม้เมื่อครั้งเขาอาศัยอยู่ที่นิวยอร์ก
ที่เป็นเช่นนั้น เพราะตั้งแต่ฤดูหนาวปีที่แล้ว เขาและภรรยา ต้องกักตัวอยู่บ้านร่วมกับลูกอีก 4 คน อายุตั้งแต่ 4 ขวบถึง 17 ปี พวกเขาถึงกับต้องหาทางออกกับความเครียดที่ถาโถมนี้ด้วยการปรึกษานักจิตบำบัดด้านการแต่งงานและครอบครัว ยาชิกา บัดดิ ซึ่งให้คำแนะนำพวกเขาทั้งสอง ให้บำบัดความเครียดด้วยการทำลายข้าวของ ในห้องระบายแค้น หรือห้องระบายอารมณ์
สองสามีภรรยาคู่นี้เป็นหนึ่งในชาวอเมริกันที่ใช้บริการห้องระบายอารมณ์ ซึ่งได้รับความนิยมมาก่อนการระบาดของโคโรนาไวรัส โควิด-19 ในตอนนี้เป็นแนวคิดการสร้างห้องที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เข้าไปทุบตีทำลายข้าวของภายในห้อง เพื่อปลดปล่อยความเครียด กดดัน ปวดร้าวภายในจิตใจ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกับเพื่อนฝูงได้
ในมุมมองของ ยาชิกา บัดดิ นักจิตบำบัดที่มีประสบการณ์กว่า 13 ปี อธิบายว่า เธอเริ่มใช้ห้องระบายอารมณ์ ที่เธอเรียกว่า Smash RX เพื่อบำบัดอาการเครียดของผู้เข้ารับการปรึกษามาเกือบ 2 ปีแล้ว และเป็นวิธีการบำบัดเครียดที่ดีช่วงโควิดระบาดเช่นนี้ จากที่บางครั้งนักจิตบำบัดจะให้ทางเลือกผู้ที่เข้ามาปรึกษาให้ไปเล่นโยคะ การทำ misting therapy หรือการบำบัดด้วยการใช้ไอน้ำและคลื่นอัลตราไวโอเล็ตอ่อนๆ การทำสมาธิ รวมถึงการใช้ห้องระบายอารมณ์
ทอม ดาลี เจ้าของ Break Bar หนึ่งในธุรกิจห้องระบายอารมณ์ ที่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2015 ในแมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ก บอกว่า ลูกค้าที่แวะมาที่นี่ต่างบอกว่าเป็นการระบายอารมณ์ที่ดี และเป้าหมายของธุรกิจเขาคือการสร้างความบันเทิงเท่านั้น โดยหลังจากการระบาดของโควิด-19 เขาพบว่ามีลูกค้าจองคิวเข้ามาใช้บริการห้องระบายอารมณ์นี้มากขึ้น ในระหว่างที่บาร์และร้านอาหารของเขาที่อยู่ใกล้ๆกันต้องปิดตัวในช่วงโควิด ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าผู้คนต่างประสบกับความเครียดกันอย่างมาก
ขณะที่ธุรกิจห้องระบายอารมณ์ของบัดดิ ตั้งอยู่ที่ Westlake Village ในนครลอสแอนเจลิส โดยราคาเริ่มต้นของการเข้าไปทำลายข้าวของในห้องระบายอารมณ์นี้ อยู่ที่ตั้งแต่ 50-100 ดอลลาร์ โดยสามารถหยิบค้อนใหญ่ ไม้กอล์ฟ ชะแลง และไม้เบสบอล มาทุบทำลายข้าวของต่างๆ ตั้งแต่ถ้วยชาม ขวดแก้ว ไปจนถึงคอมพิวเตอร์ เป็นเวลา 30 นาที ซึ่งในกรณีของการบำบัด บัดดิจะเฝ้าติดตามพฤติกรรมการทำลายข้าวของในห้องของผู้เข้ารับการบำบัดผ่านกล้องวงจรปิดเผื่อมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น
หลังการบำบัดเสร็จสิ้นลง บัดดิจะเข้าไปทำให้ผู้บำบัดอารมณ์เย็นลง และมีข้อมูลแนะนำในการควบคุมอารมณ์ให้ใจเย็นสงบลง และให้ทุกคนปรับตัวกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงหลังจากก้าวพ้นจากห้องระบายอารมณ์นี้ไปแล้ว
นักจิตบำบัดในลอสแอนเจลิสรายนี้ ได้บอกกับทุกคนที่ได้ใช้ห้องระบายอารมณ์นี้ว่า อย่ามัวแต่คิดวางแผนถึงอนาคตในเดือนหน้าที่ยังมาไม่ถึง แค่กังวลถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเดือนนี้หรือวันนี้ก็พอ และเมื่อเราผ่านวันนี้ไปได้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับวันต่อไปและทุกๆวันหลังจากนั้น
นักจิตบำบัดที่มีประสบการณ์กว่า 13 ปีรายนี้ หวังว่านักบำบัดอาจเห็นประโยชน์จากการบำบัดรูปแบบนี้ในวงกว้างมากขึ้น แต่นักบำบัดทุกคนไม่ได้เห็นตรงกับบัดดิเท่าไรนัก
อย่างเควิน เบนเน็ตต์ นักจิตวิทยาและอาจารย์ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย Pennsylvania State University ระบุว่า เขาไม่เคยเห็นว่านักจิตบำบัดท่านไหนจะแนะนำให้คนออกไปทำลายข้าวของในห้องระบายอารมณ์เช่นนั้น โดยเฉพาะกับคนที่มีแนวโน้มมีพฤติกรรมก้าวร้าวจะยิ่งทำให้การบำบัดไม่ได้ผล เขามองว่าวิธีใช้ความรุนแรงระบายเครียดนั้นเหมือนกับการบำบัดคนติดการพนันด้วยการส่งเสริมหรือกระตุ้นให้คนไปเล่นการพนัน
เบนเน็ตต์ เพิ่มเติมว่า แนวคิดนี้อาจมีพื้นฐานมาการบำบัดที่มีมากว่าร้อยปีก่อน ที่ให้คนปลดปล่อยความก้าวร้าวเกรี้ยวกราดของตัวเองออกมาเพื่อให้รู้สึกดีขึ้น แต่มีการศึกษาเมื่อช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1960 พบว่า ผู้เข้ารับการบำบัดในรูปแบบนี้แสดงความก้าวร้าวรุนแรงหลังเข้ารับการบำบัดเพราะพวกเขาเรียนรู้ว่าเป็นแค่การแสดงอารมณ์ออกมาเท่านั้น