บาร์เครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์ - ทางเลือกใหม่ของนักดื่มรักสุขภาพที่ไม่อยากตื่นแบบปวดหัว
แนวโน้มของนิวนอร์มอลใหม่อย่างหนึ่งที่เราอาจได้เห็นมากขึ้นหลังจากที่ภัตตาคารและบาร์ต่างๆ กลับมาเปิดให้บริการเมื่อปัญหาโควิด-19 คลายตัวลง คือการเสริฟเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลอล์หรือมีแอลกอฮอล์ต่ำ
อย่างเช่นถ้าคุณเป็นลูกค้าที่ Zero Non-Alchohol Experience ซึ่งเป็นชื่อของบาร์แนวยุคอนาคตแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวคุณจะสามารถสั่งไวน์ขาว สาเก หรือค็อกเทลแบบไร้แอลกอฮอล์มาลองดื่มได้ หรือที่บาร์ Sans Bar ที่เมืองออสตินในรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ ลูกค้าก็สามารถนั่งรับลมที่โต๊ะด้านนอก ฟังดนตรีสด แถมดื่มเบียร์ IPA ที่ปราศจากแอลกอฮอล์และสั่ง Mockarita ที่ทำจากแตงโมแทนที่จะผสมด้วยเหล้า tequila เป็นต้น
ความจริงแล้วบาร์ไร้แอลกอฮอล์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะได้เป็นทางเลือกมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 หรือราว 200 ปีมาแล้ว แต่มาในยุคศตวรรษที่ 21 ลูกค้าของบาร์แบบนี้มีทั้งคนที่อยากว่างเว้นจากสุรารวมทั้งคนที่สงสัยอยากลองด้วย
เมื่อปีที่แล้วการบริโภคแอลกอฮอล์ในตลาดสำคัญของโลก 10 แห่งซึ่งรวมถึงสหรัฐ เยอรมนี ญี่ปุ่นกับบราซิลลดลง 5% ส่วนการดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์หรือมีแอลกอฮอล์ต่ำนั้นเพิ่มขึ้นราว 1% อย่างไรก็ตามจำนวนแอลกอฮอล์ที่ขายได้ในตลาดเหล่านี้ยังมากกว่าเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์หลายเท่าตัวคือ 9,700 ล้านลังเมื่อเทียบกับ 292 ล้านลังสำหรับเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ นอกจากนั้นราคาเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ยังแพงกว่าด้วยเพราะการผลิตเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เจือปนนั้นมีต้นทุนต่ำกว่าการสกัดแอลกอฮอล์ออกจากเครื่องดื่ม
สำหรับคำถามที่ว่าทำไมผู้คนในโลกตะวันตกถึงหันมาสนใจเครื่องดื่มแบบไร้แอลกอฮอล์หรือที่มีแอลกอฮอล์ต่ำกันมากขึ้น หากถามลูกค้าอย่างคุณซอนดร้า พรีนอกซ์เธอบอกว่าก็เพราะจะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องการขับรถกลับบ้านไม่ไหวและไม่ต้องตื่นมาแบบปวดหัวในตอนเช้าด้วย
ส่วนคุณแบรนดี้ แรนด์หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทวิเคราะห์ตลาดเครื่องดื่ม IWSR บอกว่าก็เพราะผู้คนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพของตัวเองกันมากขึ้นนั่นเอง นอกจากนั้นการมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ไร้แอลกอฮอล์ให้เลือกก็ช่วยกระตุ้นความสนใจเรื่องนี้ด้วย อย่างเช่นการมีวิสกี้ เหล้าจิน และ taquila ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ หรือแม้กระทั่งบริษัท Anheuser- Busch ก็ผลิต Budweiser Zero เบียร์ที่ไร้แอลกอฮอล์ออกสู่ตลาดเช่นกัน
คุณดักลาส วัตเตอร์ผู้เพิ่งเปิดบาร์ไร้แอลกอฮอล์ชื่อ Spirited Away ในนครนิวยอร์กบอกว่าลูกค้าของที่ร้านมีทั้งคนที่มีปัญหาสุขภาพ ผู้หญิงมีครรภ์ ผู้ที่เตรียมตัวลงวิ่งมาราธอน หรือแม้กระทั่งคนที่ตั้งใจอยากจะลดแอลกอฮอล์ลง และดูเหมือนว่าสำหรับคนเหล่านี้ช่วงปีที่ผ่านมาจะเป็นโอกาสให้พวกเขาได้คิดทบทวนว่าที่ต้องดื่มอยู่เป็นประจำนั้นเพราะอะไรและมันทำให้เขารู้สึกอย่างไรด้วย
ส่วนคุณบิลลี่ย์ วินน์ เจ้าของร้านอีกแห่งชื่อ Awake ในนครเดนเวอร์ตั้งข้อสังเกตว่าลูกค้าที่ร้านอยู่ในช่วงอายุ 30 ถึง 40 ปีเศษและส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง โดยมีลูกค้าหลายคนบอกว่าพวกตนรอเวลาที่จะมีบาร์ไร้แอลกอฮอล์แบบนี้มานานแล้ว และเขาเชื่อว่าแนวโน้มเรื่องนี้คงไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นหรือนิยมกันแบบชั่ววูบเพราะดูเหมือนว่าทุกคนได้มีเวลาสำหรับการสำรวจทบทวนอย่างจริงจังในช่วงปีที่ผ่านมาว่าอะไรดีหรือไม่ดีสำหรับชีวิตตนเอง