"รักต่างวัย" ปรับตัวอย่างไรให้ไปกันรอด

"รักต่างวัย" ปรับตัวอย่างไรให้ไปกันรอด

"รักต่างวัย" ปรับตัวอย่างไรให้ไปกันรอด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนอาจไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้จะไปตกหลุมรักคนที่อายุต่างจากตัวเองมาก ๆ จนเกิดเป็น “คู่รักต่างวัย” ขึ้น บางคู่ฝ่ายหญิงอายุมากกว่า บางคู่ฝ่ายชายอายุมากกว่า รวมถึงคู่รักที่เพศสภาพเดียวกัน ขณะเดียวกัน ช่องว่างความต่างของอายุก็อาจนำมาซึ่งปัญหาที่คนสองคนไม่เข้าใจกัน ความต้องการไม่ตรงกัน สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง หรือเข้าถึงอีกฝ่ายยากเกินไป อีกทั้งยังมีสายตากดดันจากคนรอบข้างอีก ในท้ายที่สุด รักครั้งนี้ก็อาจจบด้วยการเลิกรา

แต่ความจริงแล้ว อายุนั้นไม่ใช่อุปสรรคที่ใหญ่โตเกินแก้สำหรับคนที่รักกัน เพราะหากปรับตัวเข้าหากันได้ เคลียร์กับคนรอบตัวได้ ความสัมพันธ์มันก็จะราบรื่นกว่าที่เคยกังวลไว้ ถ้าอย่างนั้น คู่รักที่ต่างวัยกันค่อนข้างมาก จะต้องปรับตัวอย่างไร ให้รักนี้ไปด้วยกันได้ไกลและมั่นคงยั่งยืน

ต้องรู้ก่อนว่าอะไรที่เราต่างกันบ้าง
อย่างแรกเลยก็คืออายุ อาจต่างกัน 5-7 ปี บางคู่ห่างกันกว่า 10 ปีก็มี ยิ่งห่างกันมากช่องว่างก็ยิ่งมาก สิ่งที่ตามมาคือ ประสบการณ์ชีวิตต่างกัน ทัศนคติ ไลฟ์สไตล์ ความสนใจ ล้วนอาจจะเข้ากันไม่ได้ การสื่อสาร ความเข้าใจก็ยังจะไม่ตรงกันอีก ดังนั้น อาจต้องเหนื่อยหน่อยในการทำความเข้าใจช่วงวัยของอีกฝ่าย อย่างฝ่ายที่อายุมากกว่า เคยผ่านช่วงวัยนั้นมาแล้ว น่าจะรู้ดีว่ามันเป็นอย่างไร ต่างจากคนที่อายุน้อยกว่าที่อาจเข้าไม่ถึงความเป็นผู้ใหญ่ของอีกฝ่าย จึงต้องรู้ว่าอะไรบ้างที่เราต่างกัน จะได้เข้าใจตัวตนของอีกฝ่าย และยอมรับในสิ่งที่เขาหรือเธอเป็นได้ง่ายขึ้น

ตั้งเป้าหมายในชีวิตให้สอดคล้องกัน
ปกติแล้ว คนเรามักตั้งเป้าหมายในชีวิตตามอายุและประสบการณ์ชีวิต จึงมีโอกาสสูงที่คู่รักต่างวัยจะตั้งเป้าหมายบางอย่างในชีวิตที่ไม่สอดคล้องกัน ซึ่งจริง ๆ มันก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่อายุมากกว่าจะเจนโลกหรือมีประสบการณ์มากกว่าอีกฝ่ายหรอก เราอาจคาดหวังในตัวอีกฝ่ายมากเกินไป จนท้ายที่สุดก็ไปกันไม่รอด ดังนั้น จะดีกว่าถ้าคนสองคนจะหันหน้าคุยกันเกี่ยวกับเป้าหมายในชีวิตของอีกฝ่าย แล้วกำหนดเป้าหมายในอนาคตร่วมกัน ลดอัตตา ลดทิฐิ อาจตกลงที่จะพบกันคนละครึ่งทาง จะได้ไม่รู้สึกว่าต้องพยายามอย่างหนักที่จะทำเพื่ออีกฝ่ายจนสูญเสียความเป็นตัวเอง

ถ้าไม่ไหวต้องเปิดใจคุย
คู่รักที่ต่างคนต่างเก็บความคับข้องใจไว้คนเดียวไม่เปิดใจคุย จุดจบอาจเป็นการเลิกรา อย่าว่าแต่คู่รักต่างวัยเลย วัยเดียวกันก็เป็นปัญหา เพราะมันจะสะสมเป็นความน้อยอกน้อยใจ เสียใจเรื้อรัง ยิ่งนานวันยิ่งคุยกันไม่รู้เรื่อง ฉะนั้น ถ้าเริ่มรู้สึกว่าตนเองไม่ไหวกับเรื่องอะไรก็ตาม รีบเปิดใจคุยกันแล้วหาวิธีแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล ความรักครั้งนี้จะไปได้ไกลกว่าที่คิดแน่นอน ที่สำคัญ อย่าทำตัวเอาแต่ใจ เรียกร้องอะไรไร้เหตุผลแบบเด็ก ๆ หรือคิดเองเออเอง โต ๆ กันแล้ว ต่างคนต่างมีพันธะที่ต้องรับผิดชอบมากมาย รีบคุยรีบแก้ แก้ได้ไม่ได้ จะได้ตัดสินใจไปต่อ

คำนินทาจากคนอื่นอย่าเก็บมาใส่ใจ
อุปสรรคหนึ่งที่มีผลต่อความรักของคู่รักต่างวัยก็คือ ถูกจับตามองจากคนรอบข้าง แถมสายตาเหล่านั้นก็ดูจะไม่เป็นมิตรด้วย หลายคนมีอคติว่าการมีคนรักอายุต่างจากตัวเองมาก ๆ เป็นเรื่องผิดบาป ไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัว ที่อาจไม่เห็นด้วยกับความรักครั้งนี้ จนอาจทำให้ความสัมพันธ์สั่นคลอนจนต้องเลิกรากันในที่สุด ดังนั้น คนสองคนต้องอดทนให้มาก เชื่อใจกันให้มาก อย่าหูเบา เชื่ออะไรโดยไม่ไตร่ตรอง พยายามไม่ต้องไปสนใจคำซุบซิบนินทาว่าร้ายแบบไม่สร้างสรรค์จากคนอื่น ถ้าคบกันแล้วคิดว่าเหมาะสมกัน ก็พิสูจน์ให้คนอื่นเห็นไปเลยว่าอายุมันไม่สำคัญ!

มั่นใจว่าใช่ก็จับมือกันไว้
ย้ำอีกครั้งว่าถ้าคนสองคนมั่นคงในรักครั้งนี้จริง ๆ อายุมันก็เป็นแค่เพียงตัวเลข แค่อายุต่างกันมากก็ไม่ได้แปลว่าจะรักกันไม่ได้เสียหน่อย ความรักไม่ได้มีนิยามกำหนดว่าห้ามรักกับคนที่อายุต่างกว่ามาก ๆ ดังนั้น ถ้ามั่นใจว่าอีกฝ่ายคือคนที่ใช่ ก็ไม่มีอะไรต้องหวั่นใจ จับมือกันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ไปให้ได้ นี่เป็นวิธีที่จะพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าคนทั้งคู่คือคู่แท้ของกันและกัน (แค่เกิดห่างกันนานไปหน่อยเท่านั้น) ที่ตั้งใจจะรักและปรารถนาดีต่อกัน แชร์ทุกข์และสุขของกันและกันได้ เพียงเท่านี้ รักต่างวัยแต่ใจเป็นหนึ่งเดียวก็มีความรักที่ยืนยาวได้แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook