7 พฤติกรรมบั่นทอนความสัมพันธ์ รักมากแค่ไหนก็อาจไปกันไม่รอด
การคบหากับใครสักคนในสถานะคนรัก และครองความสัมพันธ์ครั้งนี้กันไปนาน ๆ เป็นความปรารถนาส่วนหนึ่งในชีวิตของใครหลาย ๆ คน แต่การจะสร้างความสัมพันธ์แบบนี้ให้ยืนยาว มั่นคง และไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย สาเหตุสำคัญคือ ต้องไม่ลืมว่าคนสองคนเคยเป็นคนอื่นของกันและกันมาก่อน อาจเติบโตมาไม่เหมือนกัน ถูกเลี้ยงดูมาในกรอบคนละแบบ รวมถึงประสบการณ์หรือเหตุการณ์กระทบกระเทือนใจในอดีตก็ส่งผลต่อพฤติกรรม ซึ่งบางทีอีกฝ่ายก็ไม่รู้ด้วยว่าคนรักของตัวเองเคยประสบพบเจออะไรเลวร้ายมาบ้าง
การพูดคุย ปรับตัว ค่อย ๆ เข้าอกเข้าใจ และพร้อมจะเป็นกำลังใจให้กันเสมอ สามารถช่วยพยุงประคับประคองได้ แต่ในรายที่หนักหนาสาหัสมาก ๆ ต่อให้อีกฝ่ายพยายามรักษาความรัก ความสัมพันธ์ ด้วยความรักและการเติมเต็มให้กัน มากแค่ไหน ก็ไม่อาจทำให้ความรักนี้ไปได้รอดเหมือนกัน แบบที่ว่ารักกันมากแต่ไปด้วยกันไม่ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หมายความว่าเราจะไปตำหนิความทุกข์ของใครได้ อดีตหรือบาดแผลที่ซับซ้อนของใครหลายคนถึงจะรักษาหายดีแล้ว แต่ก็ไม่ลืมว่าเคยเป็นแผล หลายพฤติกรรมจึงเป็นเพียงการแสดงออกอย่างไม่ตั้งใจ เพียงเพราะแค่ต้องการจะปกป้องตัวเองเท่านั้นเอง ส่วนอีกฝ่ายที่อดทนต่อไปไม่ไหว นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของเขาเช่นกัน หากพวกเขาพยายามแล้ว และพบว่าความพยายามทำให้พวกเขาสูญเสียความเป็นตัวเอง เป็นทุกข์ หรือรู้สึกแย่ ก็ไม่ใช่หน้าที่ที่พวกเขาต้องทนอย่างทุกข์ทรมาน!
ต่อไปนี้คือ 7 พฤติกรรรมที่เป็นสาเหตุให้ความสัมพันธ์สุดโรแมนติกของคุณไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ซึ่งต้องระวังและรับรู้ด้วยตัวเองไว้ แม้ว่ามันอาจจะเป็นผลกระทบที่เกิดมาจากความบาดเจ็บในอดีตยากที่จะรักษาให้หายเป็นปลิดทิ้งเหมือนไม่เคยเป็น คุณหรือเขาหรือเธอไม่ผิดที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ง่าย ๆ แต่มันบั่นทอนความสัมพันธ์ของคุณสองคนได้ ในทางกลับกัน หากคุณรับรู้ความบอบช้ำทางจิตใจ จัดการกับมันได้สิ้นซาก และปลดปล่อยพลังด้านลบที่มีผลต่อจิตใจของคุณไปได้หมด คุณก็จะสามารถมีความรักและเติมเต็มความสัมพันธ์ได้เป็นปกติ
1. คุณกังวลอยู่เสมอว่าคุณจะถูกทิ้ง
ความรู้สึกไม่มั่นคงในความสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องปกติ แต่จะรุนแรงกว่าในกลุ่มคนที่เคยเผชิญกับความซับซ้อนทางความสัมพันธ์มาก่อน เช่น คนที่พ่อแม่แยกทางกัน คนที่ถูกทิ้งให้เติบโตมาเพียงลำพัง หรือการที่คุณรักหรือผูกพันกับใครสักคนมากจนเกินไป เมื่อไม่มีคนนั้นแล้วจึงรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยว ประสบการณ์เหล่านี้อาจนำไปสู่ความรู้สึกวิตกกังวลกับความสัมพันธ์ที่เกิดใหม่ทุกครั้ง ทำให้คุณรู้สึกระแวงและหวาดกลัวว่าคนรักจะทิ้งไป จนคุณไม่เชื่อใจเขาหรือเธอเลย
2. คุณมักจะทำตัว “ขัดสน” หรือ “ขี้เหนียว” จนคนรักต้องถอนหายใจ
เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ไม่เข้าใครออกใคร (กับคนรักก็เช่นกัน) นี่เป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้ หากคนรักของคุณเคยเปรยในสิ่งที่เขาหรือเธอไม่ค่อยชอบเกี่ยวกับตัวคุณ ตรงที่คุณมักจะทำตัวเหมือนขัดสนหรือขี้เหนียวมากเกินไปจนน่าหงุดหงิด คุณทำให้คนรักของคุณรู้สึกว่าความสัมพันธ์นี้ดูเป็นเงินเป็นทองมากกว่าจะเป็นเรื่องของความรู้สึก พฤติกรรมนี้สามารถทำให้คนรักของคุณหนีหายไปได้ในที่สุด การที่คุณเข้มงวดเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ต้องไม่จุกจิกจู้จี้จนเกินขอบเขต
3. คุณเป็นคนอ่อนไหวง่ายเกินไป
การเป็นคนที่สามารถตื่นตัวง่ายต่อสัญญาณแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ดี แต่บางทีการที่คุณอ่อนไหวกับสิ่งเล็กน้อยมากเกินไป ขี้ระแวง ชอบเก็บมาคิดเองเออเอง ก็ทำให้คนรักรู้สึกแย่ได้เช่นกัน หากคุณรู้สึกวิตกกังวลหรือรู้สึกไม่สบายใจอยู่ตลอดเวลาระหว่างคบกับใครสักคน กลัวว่าความสัมพันธ์นี้จะไม่มั่นคง แล้วคุณก็แสดงพฤติกรรมที่ทำให้คนรักของคุณรู้สึกอึดอัด ลำบากใจ หรือรับมือคุณได้ยาก มันอาจทำให้ความสัมพันธ์นี้จบลงได้ในที่สุด
4. คุณไม่เคยมีความสัมพันธ์ระยะยาวมาก่อน
คนส่วนใหญ่มักจะคาดหวังให้ความสัมพันธ์อยู่ตลอดไป แต่สำหรับบางคน พวกเขากลับพบว่าตัวเองนี่แหละที่กำลังจะยุติความสัมพันธ์อย่างกะทันหัน เกิดจากที่พวกเขารู้สึกไม่มั่นใจ ไม่มั่นคงในตัวเอง ไม่เคยมีความสัมพันธ์ระยะยาวมาก่อน ซึ่งมันเป็นวิธีหลีกเลี่ยงการปฏิเสธรูปแบบหนึ่ง กล่าวคือ คุณปฏิเสธคนอื่นเพื่อไม่ให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูกปฏิเสธ โดยอาจมีวิธีคิดว่า “คุณไม่สามารถทำร้ายฉันได้ ถ้าฉันทำร้ายคุณก่อน” วิธีคิดแบบนี้ทำลายโอกาสที่จะมีความรักของคุณ
5. คุณมักจะรู้สึกไม่มั่นคงในตัวเองเมื่อมีความสัมพันธ์
มีหลายคนเลยที่อยากมีคนรัก แต่ก็มักจะรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ใกล้ชิดกับคนรัก มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับว่าการผูกมัดระยะยาวจะเป็นภัยคุกคามต่อความรู้สึกของตัวเอง ทั้งที่รักกันมาก ทว่ายิ่งสนิทกัน ยิ่งรักกัน กลับยิ่งเข้ากันไม่ได้ จนคุณรู้สึกอยากจะวิ่งหนีมากกว่า (แต่ถามว่ารักไหมก็รัก) พฤติกรรมนี้จะทำให้คุณไม่สามารถเข้าใกล้คนรักหรือมีความรู้สึกโรแมนติก ๆ มากพอที่จะสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีต่อความรักในระยะยาว
6. คุณรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากในการไว้วางใจคนรัก
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ผ่านชีวิตในวัยเด็กมาอย่างยากลำบาก เคยไว้ใจเชื่อใจใครแล้วถูกหลอก ถูกหักหลัง อาจจะเคยถูกล่วงละเมิด ถูกละเลย จนคุณรู้สึกว่าคุณไม่สามารถไว้ใจใครได้ คุณอาจเผชิญกับความยากลำบากในการจะไว้ใจหรือเชื่อใจคนรักของคุณ โดยเฉพาะหากคุณเคยถูกคนใกล้ตัวมาก ๆ ทำลายความเชื่อใจมา ยิ่งทำให้คุณปฏิเสธการไว้ใจใครอีก คุณโหยหาความรัก แต่พอมีความรัก คุณก็ผลักมันออก เพราะกลัวความผิดหวังซ้ำซ้อนจากการเชื่อใจ
7. คุณตอบตกลงที่จะมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่คุณไม่ได้ต้องการ
หากคุณพบว่าตัวเองยอมมีเพศสัมพันธ์กับคนรักทั้งที่ไม่ได้ต้องการบ่อย ๆ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย คุณแค่ยอมมีความสัมพันธ์ทางกายเพราะกระหายความใกล้ชิด บางทีคุณอาจคิดว่ามันจะทำให้ความสัมพันธ์นี้มีความสุข แต่เพราะคุณไม่ได้มีแรงปรารถนาทางเพศหรือคล้อยตามไปด้วย มันเลยสร้างอารมณ์เชิงลบให้คุณมากกว่าเชิงบวก เซ็กส์ที่ดีควรจะเป็นเรื่องที่สร้างความสุขให้กับทั้งสองฝ่าย ยิ่งคุณฝืนตัวเองนาน ๆ สามารถนำไปสู่การยุติความสัมพันธ์ได้เลยทีเดียว