เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ เทรนด์ยอดนิยมสำหรับช่วงปลายฤดูร้อน-ต้นฤดูใบไม้ร่วง

เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ เทรนด์ยอดนิยมสำหรับช่วงปลายฤดูร้อน-ต้นฤดูใบไม้ร่วง

เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ เทรนด์ยอดนิยมสำหรับช่วงปลายฤดูร้อน-ต้นฤดูใบไม้ร่วง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กระแสการสังสรรค์ด้วยเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นทั่วโลก และในสหรัฐฯ ความนิยมในเครื่องดื่มประเภทนี้กลายมาเป็นโอกาสให้มีผู้สนใจลองมาผลิตเพื่อเอาใจผู้บริโภคมากขึ้น

คนบางคนไม่ต้องการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แต่ยังต้องการดื่มเครื่องดื่มพิเศษในงานเลี้ยงฉลอง งานปาร์ตี้ หรือเวลาที่ออกไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนๆ

ในอดีตที่ผ่านมาคนเหล่านี้มีทางเลือกจำกัดในสหรัฐฯ พวกเขาอาจเฉลิมฉลองด้วยไวน์รสหวานมากๆ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์

แต่การที่มีผู้คนมากขึ้นตัดสินใจจะเลิกดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้มีเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ให้เลือกมากมายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บรรดาผู้ผลิตเครื่องดื่มกำลังผลิตเครื่องดื่มที่มีรสชาติดีกว่า น่าสนใจกว่า และดีต่อสุขภาพมากกว่าด้วย

ความสนใจในการเลิกดื่มแอลกอฮอล์มีเพิ่มมากขึ้นมาหลายปีแล้ว และปัจจุบันก็มีทางเลือกมากขึ้นอีกตามร้านอาหารและตามบาร์ นอกจากนี้บาร์บางแห่งยังเชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์อีกด้วย

การเกิดโรคระบาดใหญ่ทำให้หลายๆ คนต้องพิจารณาเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพหรือการลดน้ำหนัก พวกเขาจึงต้องลดหรือหยุดการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้โดยสิ้นเชิง

มัสซิโม (Massimo) และ ลูอิส บอร์เรลลิ (Louis Borrelli) สองพี่น้องในสหรัฐฯ ได้เล็งเห็นความสนใจในเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ที่มีเพิ่มมากขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ยุโรปและประเทศอังกฤษซึ่งเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์คุณภาพสูง และกล่าวว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้วมีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์อย่างดีอยู่ประมาณ 15 ถึง 20 รายการเท่านั้น แต่ตอนนี้มีมากกว่า 200 และกำลังจะมีเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคมปี 2020 สองพี่น้อง บอร์เรลลิ ได้สร้างตลาดออนไลน์สำหรับเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ ที่พวกเขาเรียกว่า No & Low

ลูอิส บอร์เรลลิ กล่าวว่าที่ No & Low มีผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ และที่มีแอลกอฮอล์ระดับต่ำขายอยู่ 3 ชนิดหลักๆ ด้วยกัน

ชนิดแรกคือผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่เหมือนรัมและจิน แต่ไม่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ ชนิดที่สองเรียกว่าม็อกเทล (Mocktails) หรือเครื่องดื่มผสมที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ม็อกเทลหลายๆ ชนิดมีรสชาติที่เหมือนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสำหรับชนิดที่สามนั้น ลูอิส กล่าวว่าเป็นเครื่องดื่มที่ "มีลักษณะเฉพาะตัว" คือ ไม่พยายามเลียนแบบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ให้ประสบการณ์การดื่มที่แตกต่างออกไป และว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะดีสำหรับผู้ดื่มด้วย

บนเว็บไซต์ TheKitchn นักเขียนด้านอาหารและเครื่องดื่ม เคลลี ฟอสเตอร์ (Kelli Foster) เสนอเคล็ดลับหรือคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการทำเครื่องดื่มม็อกเทล โดยเธอแนะนำให้ใช้ของสดตามฤดูกาลในท้องถิ่น ด้วยอุณหภูมิที่เย็นลงในฤดูใบไม้ร่วง ควรใช้รสชาติของลูกแพร์ แอปเปิ้ล เสจ และโรสแมรี่ ส่วนในฤดูร้อน อากาศอบอุ่น ให้ลองใช้พีช แตงโม มะม่วง สะระแหน่ และโหระพา

ฟอสเตอร์ กล่าวว่าการรักษาสมดุลของรสชาติเป็นสิ่งสำคัญในการทำเครื่องดื่มที่ดี เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์บางชนิดอาจมีรสหวานเกินไป ดังนั้นเธอจึงแนะนำให้เพิ่มรสเปรี้ยวและขมเพื่อให้สมดุลกับความหวาน สำหรับรสเปรี้ยวเธอบอกว่าให้ใช้ผลไม้อย่างส้ม แครนเบอร์รี่ และมะขาม นอกจากนี้ยังสามารถใช้น้ำส้มสายชูชนิดต่างๆ เพื่อเพิ่มความเปรี้ยวได้อีกด้วย

และที่สำคัญอย่าลืมเครื่องเทศที่เพิ่มความเผ็ดร้อน เช่น ซินนาม่อน โป๊ยกั๊ก และขิงช่วยเพิ่มรสชาติให้กับเครื่องดื่มได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้พริกไทยเพื่อเพิ่มความเผ็ดร้อนและรสชาติได้อีกด้วย เครื่องเทศเหล่านี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบางช่วงของฤดูร้อนที่อากาศเย็นลง หรือในคืนฤดูใบไม้ร่วง

อย่างไรก็ดี การทำให้เครื่องดื่มดูสวยราวกับค็อกเทลที่มีแอลกอฮอล์ก็สำคัญ ควรใช้แก้วสวยๆ และเพิ่มของตกแต่ง อาจจะเป็นดอกไม้ ผลไม้สักชิ้น หรือสมุนไพรที่วางอยู่บนแก้ว ของตกแต่งที่ดีไม่เพียงแต่ทำให้เครื่องดื่มดูสวยงามขึ้นเท่านั้น แต่บางครั้งยังบ่งบอกเกี่ยวกับเครื่องดื่มแก้วนั้นอีกด้วย เช่นเครื่องดื่มที่ตกแต่งด้วยมะนาวหรือสะระแหน่อาจมีรสชาติเหมือนของตกแต่งเหล่านั้นนั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook