ทำอย่างไรให้เราเป็นคนตรงต่อเวลา
หนึ่งปัญหาสำคัญในสังคมไทยที่ทุกคนรู้กันดีคือ ความตรงต่อเวลา อาจจะด้วยสภาพการจราจร ความเป็นคนชิลๆทำให้การนัดหมายเวลาต่างๆมักจะมาสายกัน โดยเรื่องนี้เริ่มตั้งแต่สมัยเรียนจนทำงาน หากถามว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ง่ายที่สุดก็คือเริ่มจากตัวเราเองก่อน
หากคุณเป็นคนที่นัดหมายแล้วมาไม่ค่อยตรงเวลา ลองทำตามวิธีเหล่านี้ดูก่อน แล้วค่อยเริ่มนำเทคนิคต่างๆไปบอกเพื่อนๆของคุณต่อ
1.ประเมินเวลาตามความเป็นจริง
ประเมินเวลาก่อนทุกครั้งและต้องประเมินเวลาตามความเป็นจริง ตามความเป็นจริงในที่นี้หมายถึงอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น สภาพการจราจร ฝนฟ้าอากาศ เราเคยไปไหม จะหลงรึเปล่า รถจะมาตรงเวลาไหม สถานที่ที่นัดหายากรึเปล่า ห้องที่นัดต้องเดินไปหาอีกรึเปล่า
เรามักจะมองโลกในแง่ดีเกินกว่าความเป็นจริง ไม่เป็นไรแปปเดียวถึง แล้วทำให้พออะไรไม่เป็นไปตามที่คิดก็จะส่งผลให้เราสายและไม่ตรงต่อเวลา
2.ลิสต์ลำดับที่จะทำ
หากวันหนึ่งคุณต้องทำอะไรหลายอย่าง มีธุระที่ต้องไปจัดการอะไรมากมาย แนะนำลองลิสต์รายการลำดับว่าเราต้องทำอะไรบ้าง เริ่มจากเขียนก่อนมีอะไรสำคัญ มีอะไรที่ต้องทำ อันไหนก่อนหลัง ใช้เวลาประมาณเท่าไร
3.ระวังสิ่งที่ต้องทำระหว่างทาง
อีกหนึ่งสิ่งที่มักทำให้เราสายแค่สิ่งเล็กๆที่แค่ว่าจะทำระหว่างทางนี่ละ เช่น ต้องแวะกดตังค์ เติมน้ำมัน หาที่ถ่ายเอกสาร แวะส่งของ สิ่งนี้มักเกิดเหตุไม่คาดฝันบ่อยๆครั้งทำให้ ทำให้เราสายกลายเป็นคนไม่ตรงเวลา
4.อย่าคิดว่าจะทำทุกอย่างให้เร็วขึ้น
เป็นอีกหนึ่งกับดักตั้งแต่เราตื่นนอน เรามักจะนอนต่ออีกนิดแล้วคิดว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวรีบอาบน้ำ กินข้าว แต่งตัวออกก็ทัน แล้วสุดท้ายก็มักจะจบด้วยความเร่งรีบ และทำอะไรไม่ทันในที่สุด
5.มาเร็วไม่มีอะไรเสียหาย
เราทุกคนอาจจะหงุดหงิดกับการต้องรอเมื่อไปถึงก่อนเวลา แต่หากมันมีนัดสำคัญ เป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบ เชื่อเถอะว่าไปถึงก่อนไม่มีอะไรเสียหาย หากถึงก่อนก็อาจจะพกหนังสือสักเล่มหรือทำอะไรเพื่อฆ่าเวลา โดยเฉพาะการนัดเดทการไปถึงก่อนแสดงถึงความใส่ใจได้ด้วย อย่างน้อย 10 นาทีก่อนถึงเวลานัด
6.ลองทำดู
จะไม่มีประโยชน์เลยจากทั้งหมดที่ว่ามาหากเราไม่ลองทำตามดู ลองดูสักครั้ง จากคนที่ไม่เคยตรงเวลา ไปถึงก่อนสักครั้งแล้วเราจะรู้สึกดีและทำให้ครั้งต่อๆ ไปง่ายขึ้น
อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย การมาตรงต่อเวลาเป็นสิ่งสำคัญมากๆ บางครั้งมันส่งผลต่อชีวิตเราได้เลยทีเดียว ยังไงก็อย่าลืมเอาไปลองปรับใช้กันดูน้า ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ ไอ.เอ็น.เอ็น.