อายุเป็นเพียงตัวเลข ถ้าคุณเจ๋งพอ คุณจะไม่มีวันแก่ในการทำงาน

อายุเป็นเพียงตัวเลข ถ้าคุณเจ๋งพอ คุณจะไม่มีวันแก่ในการทำงาน

อายุเป็นเพียงตัวเลข ถ้าคุณเจ๋งพอ คุณจะไม่มีวันแก่ในการทำงาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่าอยากจะโยนผ้าขาวเพราะทนแรงกดดันในที่ทำงานไม่ไหว เนื่องจากคุณอายุเพิ่มขึ้นมากแล้ว ต้องอ่านบทความต่อจากนี้ เพื่อที่ คุณจะได้ชะลอการเกษียณอายุ ของตนเอง และต่อสู้กับความกดดันในที่ทำงานต่ อไป

ในชีวิตการทำงานนั้นหลายคนฝันว่ าจะได้เกษียณอายุก่อนกำหนดหรือ Early Retire และบ่อยครั้งเราจะเห็นบทความที่ พูดถึงการทำงานให้น้อยลง และการสร้างชีวิตวัยเกษียณที่มั่ นคง แต่ในโลกของความเป็นจริงไม่น่ าจะใช่เช่นนั้น เพราะหลายคนยังคงต้องทำงาน แม้ว่ าจะอยู่ในวัยที่ถูกเรียกว่าวั ยเกษียณแล้ว ช่วงอายุ 55 ปี (สำหรับภาคเอกชน)

ซึ่งเอาเข้าจริงวัย 55 ปีหากไม่มีโรคประจำตัวและรักษาร่างกายให้แข็งแรง ก็ยังคงทำงานได้ดีเช่นกัน ขณะที่คนในวัย 45+ ในปัจจุบันมองว่าตนเองน่าจะเกษียณในวัยประมาณ 65 ปี แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่ได้คิดถึ งการเกษียณ และยังคงทำงานต่อไปเรื่อย ๆ แล้ ววัยเกษียณมีอยู่จริงไหม ถ้าใจยังคงมีไฟวันนี้ Tonkit360 มีคำตอบมาฝากกัน

อายุเป็นเพียงตัวเลข ประสบการณ์และร่างกายที่แข็งแรงสำคัญกว่า
ในโลกปัจจุบันของการทำงานนั้น คนที่อยู่ในวัย 45+ หรือ 50+ ยังคงทำงานและทำหน้าที่ ในฐานะผู้บริหารระดับกลางและระดับสูง บางคนเป็นผู้ประกอบการ เป็นเจ้าของกิจการ ดังนั้น การทำงานในปัจจุบันอายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น หรือเป็นเรื่องที่บริษัทตัวแทนในการหางานเป็นผู้ กำหนดขึ้นมา และทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่าคนที่อายุ เยอะแล้ว มีประสบการณ์ทำงานมามาก จะเรียกเงินเดือนแพง

ซึ่งสถานการณ์ของผู้ว่าจ้างในปั จจุบันได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะมีหลายบริษัทที่เกิดใหม่ หรือปรับปรุงองค์กรแล้วต้องการจ้ างพนักงานที่มีประสบการณ์ ในการทำงาน เพื่อที่จะได้ใช้ประสบการณ์เหล่านั้นมาพัฒนาบริษัท และทำให้การหาผู้บริหารระดั บกลางในปัจจุบันพุ่งเป้าไปที่ คนอายุ 45+ เพราะคนเหล่านี้มีประสบการณ์ การทำงานที่สามารถนำมาใช้ ในการพัฒนาทีมงานได้เลย

เหนืออื่นใดคนที่มีอายุ 45+ นั้นรับมือกับความเปลี่ ยนแปลงได้ดี เมื่อทำงานไปแล้วจะมองไปที่ ผลงานและไม่ถอดใจลาออกง่าย ๆ ไม่ค่อยลางานเพราะรู้สึกถึ งความรับผิดชอบ เหนืออื่นใดเป็นเจเนอเรชันที่ ไม่ปฏิเสธเทคโนโลยี

อย่าคิดว่าอายุมากแล้ วและทำงานรอวันเกษียณ
เมื่ออายุ 45+ หรือ 50+ กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน เพราะบริษัทหลายแห่งต้ องการประสบการณ์ การทำงานจากคนในวัยเหล่านี้ เหนื ออื่นใดคุณสมบัติที่คนวัยนี้มี คือความรับผิดชอบ และทำงานได้ลุล่วงตามเป้าหมาย เมื่อเป็นเช่นนั้นการอั ปเดตประวัติการทำงานหรือเรซูเม่ของตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับคนที่อยู่ในวัยนี้ และต้องการเปลี่ยนงาน

บางคนอาจไม่ได้อัปเดตเรซูเม่มาหลายสิบปี ดังนั้น การปรับปรุ งรายละเอียดในทุกปีจึงเป็นเรื่ องสำคัญ การทำให้ประวัติการทำงานของคุ ณอัปเดตอยู่เสมอนั้น จะทำให้เฮดฮันเตอร์หรือบริษัทที่กำลังมองหาพนักงานได้ เห็นว่าคุณนั้นไม่เคยตกยุค และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ เสมอ เหนืออื่นใดการเรียนรู้ที่จะใช้ เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อนำมาช่วยในการทำงานก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน

หรือใช้เครื่องมืออย่าง LinkedIn เพื่อทำให้คุณได้มีคอนเนคชันที่กว้างขึ้นกว่าเดิมและท้ายที่สุด หากการหางานของคุณในสายงานเดิ มเริ่มตัน ลองพิจารณาความเป็นไปได้ ในสายงานที่ใกล้เคียงกั นและความสามารถของคุณไปถึง เพราะนั่นอาจหมายถึงการเริ่มต้นใหม่ที่ทำให้คุณได้โอกาสมากกว่าเก่า

ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นว่าโลกปัจจุบันไม่ได้ให้ความสำคัญกับอายุ มากนักในการทำงาน ขอให้คุณมีประสบการณ์ มากพอและพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณยังคงอยู่ ในแวดวงการทำงานได้แบบไม่ตกยุค ช่วยยืดระยะเวลาเกษียณอายุของคุ ณออกไปอีก และทำให้คุณรู้สึกถึงคุณค่ าตนเองเพราะได้ทำงานอย่างที่ต้องการ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook