"มิโด" (MIDO) ฉลองครบรอบ 75 ปี ของนาฬิกาคอลเลคชั่น “โอเชียน สตาร์” (Ocean Star)
นาฬิกานับเป็นหนึ่งในไอเทมชิ้นสำคัญที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกภาพอันโดดเด่นได้ อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับทุกการแต่งตัวได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากเอ่ยถึงแบรนด์เรือนเวลาที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ทั้งด้านดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานนั้น แน่นอนว่า “มิโด” (MIDO) จะต้องเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ครองใจเหล่าสุภาพบุรุษได้อย่างแน่นอน
โดยล่าสุด “มิโด” (MIDO) ได้เฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ให้กับนาฬิกาจากตระกูล “โอเชียน สตาร์” (Ocean Star) ที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ด้านดีไซน์อันเหนือการเวลา และความแข็งแกร่งทนทานในทุกสภาพแวดล้อม ด้วยการเผยโฉมเรือนเวลารุ่นพิเศษที่ชื่อว่า “มิโด โอเชียน สตาร์ ทริบิวท์” (MIDO Ocean Star Tribute) ที่ผสานไว้ซึ่งคุณลักษณะทั้งหมดของเรือนเวลาดำน้ำรุ่นปี 1960 พร้อมด้วยดีไซน์ที่มีความคลาสสิก สปอร์ต และวินเทจ ที่สามารถตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ของสุภาพบุรุษยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยครั้งนี้ได้แบรนด์แอมบาสเดอร์หนุ่มชื่อดัง “คิม ซู ฮยอน” (Kim Soo-Hyun) ซูเปอร์สตาร์ระดับแถวหน้าของเกาหลี มาร่วมถ่ายทอดเอกลักษณ์ของ “มิโด โอเชียน สตาร์ ทริบิวท์” (MIDO Ocean Star Tribute) ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (Georges Schaeren) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.Schaeren & Co. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน
สำหรับ “มิโด โอเชียน สตาร์ ทริบิวท์” (MIDO Ocean Star Tribute) เป็นนาฬิกาดำน้ำที่สามารถสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน จวบจนกระทั่งใส่ทำกิจกรรมได้อย่างหลากหลาย ด้วยดีไซน์ที่มีความคลาสสิก และผสานไว้ซึ่งความวินเทจจากการออกแบบหน้าปัดทรงกลมที่นับว่าเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ที่มาพร้อมกรอบหน้าปัดสีเขียวแบบหมุนได้ ด้วยวัสดุชนิดพิเศษที่ช่วยป้องกันแรงกระแทก และคงความใสของหน้าปัดให้สามารถอ่านเวลาได้อย่างชัดเจนในทุกสภาพแวดล้อม พร้อมสอดแทรกดีไซน์สปอร์ตไว้ได้อย่างลงตัวด้วยสายผ้าสีเขียวที่เย็บด้วยด้ายสีขาว เพื่อให้เข้าคู่กันกับตัวเลขบอกเวลาบริเวณหน้าปัดของนาฬิกา ส่วนด้านฟังก์ชั่นการใช้งานนั้น แน่นอนว่า “มิโด” (MIDO) ยังคงประสิทธิภาพสูงพิเศษด้านความแม่นยำ และเที่ยงตรง ขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ ด้วยกลไก Calibre 80 อีกทั้งยังสามารถสำรองพลังงานยาวนานกว่า 80 ชั่วโมง และทนทานต่อแรงดันน้ำได้ถึงระดับ 200 เมตร (20 บาร์)
นอกจากนี้ “มิโด” (MIDO) ยังได้แนะนำเคล็บลับการมิกซ์แอนด์แมทช์นาฬิกาเรือนโปรดให้เข้ากับการแต่งตัวในแต่ละโอกาส เริ่มจาก ลุคสำหรับวันทำงาน ในสไตล์สมาร์ทแคชชวล อาจจะเลือกหยิบเสื้อเชิ้ตแขนยาวแมทช์กับสูทคัตติ้งเนี้ยบที่เข้าชุดกัน แล้วเพิ่มความสนุกด้วยนาฬิกาดีไซน์วินเทจที่มีกลิ่นอายของความสปอร์ตอย่างการใช้สายผ้า ก็จะได้ลุคสมาร์ทแคชชวลที่ดูมีความคล่องตัว และกระฉับกระเฉงขึ้น
ถัดมาที่ ลุคของคนรักกิจกรรมกลางแจ้ง ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาหรือการผจญภัย แน่นอนว่านาฬิกาจะต้องเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ โดยอาจจะเลือกสวมเสื้อยืดลายพิมพ์สีสันสดใสกับกางเกงขาสั้นผ้าใส่สบายก็สามารถสร้างลุคให้ดูโดดเด่นขึ้นได้ จากนั้นเติมเต็มลุคด้วยนาฬิกาคู่ใจที่สามารถใส่ลุยได้ในทุกกิจกรรมด้วยดีไซน์ที่มีความแข็งแกร่ง และทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ปิดท้ายที่ ลุคสำหรับวันสบายๆ (Everyday look) ที่สามารถแมทช์เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเอิร์ธโทนกับกางเกงยีนส์ขายาว หรือกางเกงสแล็ค แล้วหยิบนาฬิกาที่เหมาะสำหรับการใส่ไปในวันพักผ่อน อย่างนาฬิกาหน้าปัดทรงกลม ดีไซน์คลาสสิก สายผ้ามาสวมใส่ ก็จะได้ลุคสำหรับวันพักผ่อนที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
พบกับเรือนเวลาสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์แบรนด์ “มิโด” (MIDO) นาฬิกาดีไซน์หรูคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ “มิโด” (MIDO)
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ