โชคดีที่มีเธอรัก! 'เอ็ม คนตัวลาย' แชมป์โลกโทษประหาร นับหนึ่งใหม่ได้เพราะเมีย

โชคดีที่มีเธอรัก! 'เอ็ม คนตัวลาย' แชมป์โลกโทษประหาร นับหนึ่งใหม่ได้เพราะเมีย

โชคดีที่มีเธอรัก! 'เอ็ม คนตัวลาย' แชมป์โลกโทษประหาร นับหนึ่งใหม่ได้เพราะเมีย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"เอ็ม คนตัวลาย" แชมป์โลกโทษประหาร ขอบคุณภรรยาเสียสละทั้งเงิน งาน เพื่อนและครอบครัว เพื่อมอบโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีให้กับอดีตนักโทษประหาร ที่ต้องแลกมาด้วยน้ำตาและความยากลำบากที่ไม่เคยเจอมาก่อน ช่วยชุบชีวิตคนตายแล้วเกิดใหม่ หันหลังให้กับวงจรยาเสพติด ทำมาหากินสุจริต ได้พบกับความสุขแท้จริง

"เฉลิมพล สิงห์วังชา" หรือ "เอ็ม คนตัวลาย" อดีตนักโทษประหาร ที่กลายมาเป็นแชมป์โลกมวยสากล เส้นทางชีวิตพลิกไปพลิกมาจากขาวเป็นดำ ดำเป็นขาว และกำลังจะถลำไปเป็นดำ แต่โชคดีที่มี "จ๋า" ศรัณย่า สุขนิ่ม ผู้เป็นภรรยา อดีตครู และเซลล์ขายเบนซ์ ยอมทิ้งอนาคตสดใส เข้ามาดูแลหัวใจเหนี่ยวรั้งไม่ให้กลับไปตกนรกอีกครั้ง ทำให้กลับมานับหนึ่งใหม่ได้อย่างภาคภูมิ

เอ็ม คนตัวลาย เล่าให้ Sanook.com ฟังว่า เขาเป็นชาว จ.กำแพงเพชร เป็นเด็กขาดความอบอุ่นพ่อแม่แยกทางกัน นอนกอดกระป๋องแป้งของแม่ช่วยบรรเทาความคิดถึงผู้ให้กำเนิด

"เวลาแม่กลับมาเยี่ยม เขาจะซื้อแป้งมาทา เราก็จะเอามานอนกอด คิดว่าเป็นตัวแทนความรัก ไออุ่นจากแม่" เขาเล่า

ด้วยความที่คุณปู่เป็นคนชอบกีฬาชกมกมวย อยากให้หลานชายเป็นนักมวย พออายุได้ 9 ขวบจึงพาเขาไปฝากไว้กับค่ายมวยที่ จ.สมุทรปราการ ก่อนกลับมาขึ้นชกที่บ้านเกิด

"ขึ้นชกครั้งแรกโหยฉี่รด ถาดที่เขาให้น้ำเลย กลัวครับ" เขาจำความรู้สึกบนสังเวียนกำปั้นวันนั้นได้

"ผลการชกวันนั้นปรากฏว่าผมชนะน็อค ได้ค่าตัว ได้รางวัลน้ำใจ"

"หัวหน้าเนี่ยหวังกับเรามาก เอ็งต้องไปโอลิมปิก โอ้โหฝากฝังกับทุกอย่างเลย"

"จากที่ไม่ชอบมวย ไม่อยากซ้อมเอาวะลองดูสักตั้ง"

เอ็มตั้งใจจะชกมวยเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัว แต่ไม่สามารถไปถึงจุดนั้นได้ เพราะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จากผู้เสพถลำลึกไปเป็นผู้ขาย ก่อคดีฆ่าคนตายซ้อนเร้นอำพรางศพ ศาลตัดสินประหารชีวิต รับสารภาพเหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต

"ในนั้นมันทำให้เราต้องสู้เพื่อความอยู่รอด เกเรเพื่อความอยู่รอด แทนที่เราจะได้อภัยโทษก็ไม่ได้"

เขาปล่อยชีวิตในเรือนจำผ่านไปหลายฤดู ไม่เคยคิดที่จะกลับตัวคืนสู่สังคม จนกระทั่ง มีผู้คุมมาจุดประกาย

"เฮ้ยมึงไม่อยากกลับบ้านเหรอ มีมวยต่อย ชกมวย ไม่เอาเหรอ" ทำให้เขาฉุกคิด ข้างนอกยังมีแม่รอวันกลับมาของลูกชาย

"ผมได้แชมป์เรือนจำระดับประเทศ 3 ปีซ้อน และได้แชมป์มวยไทยกรมราชทัณฑ์ 4 รุ่น สร้างชื่อเสียงให้กับเรือนจำ ได้พักโทษกรณีพิเศษ"

อดีตนักโทษประหาร มีค่ายมวยมารับถึงหน้าเรือนจำในวันได้รับอิสรภาพ

เขาได้รับการปลุกปั้นจนได้เป็นแชมป์มวยสากล เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แต่ชีวิตที่กำลังรุ่งกลับต้องร่วงอีกครั้ง เมื่อเขาเป็น "เสือหวน" เข้าไปเกี่ยวข้องกับวงจรยาเสพติด

"ผมป้องกันเข็มขัดแชมป์เส้นแรกประมาณ 9 ครั้ง ต่อมาเศรษฐกิจไม่ดี ไม่ค่อยมีรายการชก ก็กลับไปยุ่งกับยาเสพติด กลัวค่ายฯ จะเสียชื่อเสียงก็หนีออกมาเลย เสพ ดูด ไม่มีความคิดเลย คิดอย่างเดียวถ้าเราติดคุกเราก็อยู่ได้ โชคดีที่ยังไม่เกม"

"จนได้มาเจอกับแฟนที่ยิมมวย เขาเรียนมวยที่นั่นอยู่แล้ว" เอ็มเล่าวันแรกที่ได้พบกับภรรยา

"แฟนมาจับได้ว่าเราเล่นยา มันมีอยู่ 2 อย่าง เลิกกับยาบ้า กับเลิกกับเขา ที่ดูแลเรามาตลอด ทั้งๆ ที่เราเป็นอดีตนักโทษ เขายังให้โอกาสเรา"

"เอาวะ เลิก เลิกเล่นยา ก็ให้เขาเป็นดูแลผมประมาณหนึ่งเดือน"

"เวลาผมเสี้ยนยา เขาก็ลากเข้าห้องน้ำ แล้วก็เอาน้ำราด บอกพี่เอ็มสู้นะ ต้องกลับมานะ เปิดยูทูบที่ผมต่อยมวยให้ดู เนี่ยๆ พี่เอ็มยืนอยู่บนเวทีนะ สู้นะเดี๋ยวก็หาย"

ผู้หญิงคนหนึ่งทิ้งอนาคตสดใสมาเป็นแฟนอดีตนักโทษเพื่ออะไร? จ๋า บอกว่า "สงสาร และเห็นใจ เชื่อว่าทุกคนเคยทำผิด และสามารถกลับตัวได้ ถ้าได้รับโอกาส"

เธอเล่าต่อว่า ก่อนมาเจอกับเอ็ม เธอเรียนจบปริญญาตรี ประกอบอาชีพครู และมาเป็นพนักงานขายรถยนต์ (Sale) Mercedes-Benz มีรายได้ 5 หมื่นบาท ถึง 1 แสนบาท ต่อเดือน

"เราเห็นใจ ทำไมเขาชีวิตแบบนี้ มันเริ่มต้นจากความเห็นใจก่อน ด้วยความใกล้ชิดกันระยะเวลามันก็กลายเป็นความรัก"

แม้ครอบครัว และเพื่อนๆ ทักท้วง ด้วยความห่วงใย แต่เธอก็ยังยืนยันที่จะให้โอกาสอดีตนักโทษชายได้พิสูจน์ตัวเอง

"เฮ้ยอะไรของมึงอ่ะ กูรับไม่ได้เลยอะ ชีวิตมึงมาดีๆ แล้วมึงมาเลือกอะไรเนี่ย"

"เขาติดคุกมานะเว้ย แบบค้ายา อนาคตมึงจะไปยังไงต่อ"

"อันนี้พูดกันภาษาเพื่อนนะ"

"ก็บอกว่าเฮ้ยเขาควรได้รับโอกาสป่าววะ"

"ถ้าเรามัวย้อนอดีตคน เราอยู่กับปัจจุบันได้ยังไง"

"แม่ก็รู้สึกเสียใจ ชีวิตเรามาดีๆ มันดิ่งลงเหวเลย"

"หนูออกจากงานมาดูแลเขา"

"ก็ขอโทษแม่ ขอโอกาสให้เขา"

"ถ้าให้โอกาสแล้วเขาไม่รับไว้ ก็แยกทางกันแค่นั้นเอง"

เมื่อได้ยินบทสนทนาผู้หญิงคนนี้โต้ตอบกับเพื่อนพ้องผู้ที่มีความคิดเห็นต่าง ยิ่งทำให้เอ็มรู้สึกว่า "โชคดีที่มีเธอรัก"

นำแรงกดดันต่างๆ มาใช้เป็นแรงขับเคลื่อนดำเนินชีวิต โดยมีเป้าหมายใหม่เป้าหมายเดียว คือ "เป็นคนดีกลับคืนสู้สังคม" ให้ได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์

"ผมบอกเขาว่า ผมเข้าใจแม่นะ แม่ทุกคนอยากให้ลูกได้คู่ครองที่ดี"

"ผมก็ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ตลอด ผมโดนดูถูกไอ้ขี้คุก ไอ้มวยคุก อะไรสารพัด ต้องเอาชนะใจคนให้ได้"

"ตอนแรกเราห่วงตรงที่ว่าไม่มีเงินมันจะอยู่ยังไง"

"แต่จ๋าเขาบอกว่า ถ้าคุณอยากทำผิดกฏหมาย คุณไปเลยแล้วไม่ต้องกลับมาอีก เราไม่ใช้เงินของคุณ"

"ผมไปรับจ้างตัดหญ้าให้วัว วันละ 200 เขาเก็บผักบุ้งขายกำละบาท ไปขายของตามตลาดนัด"

"แฟนก็ให้กำลังใจ บอกว่าไม่เป็นไรนะ เราต้องเริ่มต้นใหม่ได้ พยายามทำให้เราเห็นว่าทำมาหากินสุจริตเราก็อยู่ได้"

"เขาบอกว่า ไม่อยากจากกันแค่ลูกกรงกั้น จากตายซะดีกว่า มันเป็นคำพูดที่ก้องกังวานในหัวผม ตั้งแต่วันนั้นผมไม่คิดทำสิ่งที่ไม่ดีอีกเลย"

เอ็มกับจ๋าผ่านบททดสอบสุดหินร่วมกันมามากมาย จนชนะใจแม่ของฝ่ายหญิง ยินดีให้ทั้งคู่ควงแขนเข้าวิวาห์ตามแบบฉบับศาสนาคริสต์

"พอเริ่มเตาะแตะได้ เรากลับไปขอขมาแม่"

"แม่เขียนจดหมายมาบอกหลังเราแต่งงานกันว่า หนูชนะใจแม่ด้วยความดีนะ ไม่ใช่ด้วยแก้วแหวนเงินทอง"

เอ็มภาคภูมิใจ ที่ความตั้งใจของเขาสัมฤทธิ์ผล เมื่อมีผู้ใหญ่เมตตาให้ใช้ยิมมวย เขาใช้ความสามารถด้านการชกมวย มาใช้ประกอบอาชีพ ก่อนขยับขยายเปิดยิม "JM Boxing Gym" ที่ ซ.ประชาอุทิศ 79 สอนมวยไทย มวยสากล ลดน้ำหนักระชับสัดส่วน มีลูกศิษย์ลูกหาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กิจการรุ่งเรืองจนเปิดสาขาสอง ที่ ซ.อ่อนนุช 17

"ระหว่างที่สอนมวย ผมก็ฟิตร่างกายไปด้วย ได้ไปชกชิงแชมป์ WBC รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท ที่ประเทศปาปัวนิวกินี ก็ชนะได้เข็มขัดแชมป์เส้นล่าสุดมาครอง"

"ประธานาธิบดีบ้านเขามาชมการชกวันนั้นด้วย บอกว่าชอบการชก ชวนให้ผมไปอยู่ประเทศของเขา ไปสอนมวยที่นั่น"

ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 รุนแรง ต้องปิดกิจการชั่วคราวตามาตรการของรัฐ เขาและภรรยาหารายได้ด้วยการขายไส้อั่ว หมูแดดเดียว ปูดอง สบู่ ยาสีฟัน ขัดตาทัพ

"ตอนแรกก็รู้สึกเขินๆ หัวลาย ตัวลาย ขาลาย มายืนปิ้งไส้อั่ว ไลฟ์ขายของ แอบคิดเหมือนกันว่า จะมีคนล้อเราหรือเปล่า อะไรวะมายืนขายของ"

"แต่พอเราโพสต์เฟซบุ๊กไปปรากฏว่า มีแต่คนถามว่า เฮ้ยเพื่อนขายพิกัดไหน จะไปอุดหนุน แฟนมวยเราก็มาช่วยกันอุดหนุน กลายเป็นว่าผมสนุกกับการขายของไปแล้วทุกวันนี้"

เอ็มขอบคุณโอกาสที่สังคมอบให้คนที่มีประวัติสีดำ ทำให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตใสสะอาด ไม่อายทำกิน ไม่หมิ่นเงินน้อย

"หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย น่าจะได้ไปชกป้องกันแชมป์ แต่ตอนนี้ทำมาหากินอะไรได้ก็ต้องทำครับ เพื่อความอยู่รอด"

เอ็มบอกทิ้งท้ายว่า เขาโชคดีมากที่ได้ความรักจากภรรยา ช่วยชุบชีวิตให้คนที่ตายแล้วได้เกิดใหม่อีกครั้ง

"ถ้าผมไม่มีผู้หญิงคนนี้ ผมอาจจะเข้าไปติดคุกอีก"

"ทุกวันนี้ขายหมูแดดเดียว ขายยาสีฟัน ขายปูดอง ได้ 50 บาท 100 บาท วันนึงได้ 300 ผมก็ดีใจแล้วมันเป็นเงินที่บริสุทธิ์ครับ"

"เมื่อก่อนผมมีเงินล้านผมไม่มีความสุข ผมนอนอยู่ข้างถนน นอนอยู่เล้าไก่ เข้าบ้านไม่ได้"

"ทุกวันนี้ผมมี 30 บาท 20 บาท ผมนอนสบาย ไม่ต้องมานอนกลัวตำรวจเลย คือมีความสุขกับแบบนี้"

"ผมพยายามนะครับ บอกกับทุกคนว่า การที่เราจะทำความดี ไม่ต้องไปรอวัน ขนาดเราทำเลวเนี่ย วันเรายังไม่ต้องดู"

"อยากให้พวกน้องๆ ดูเอา การที่จะเป็นคนให้เขายอมรับเนี่ย ยอมรับในความดีของเราดีกว่า"

"ตอนที่ผมอายุ 17-18 ก็ติดเพื่อน ครอบครัวบอกอะไรไม่ฟัง แม่พูดอะไรก็แบบพูดอยู่ได้รำคาญว่ะ"

"วันที่เข้าเรือนจำ คิดถึงเพื่อนอยากให้เพื่อนมาหา ไม่มีใครมาสักคน แม้กระทั่งเพื่อนคนที่เราคิดว่าตายแทนกันได้ สุดท้ายก็มีแต่แม่ที่มาเยี่ยม"

ด้าน จ๋า บอกว่า จากความสงสารนักมวยตัวลาย อดีตนักโทษประหาร ต้องทำให้อดีตพนักงานขายรถหรู ต้องเสียสละทั้งเงิน งาน เพื่อนและครอบครัว เพื่อมอบโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีให้กับผู้ชายคนหนึ่ง แลกด้วยน้ำตาและความยากลำบากที่ไม่เคยเจอมาก่อน วันนี้เห็นสามีเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนัน รู้สึกภูมิใจ เพื่อนๆ ที่เคยแอนตี้ก็กลับมาชื่นชม "เออกูยอมใจมึงแล้ว" ทำให้เธอกล้าพูดได้เต็มปาก "พี่เอ็มเป็นสามีที่น่ารักที่สุด"

ส่วนการครองรักให้มั่นคง ยั่งยืน ยึดหลัก "การเข้าใจ" ไม่นำคู่ตนเองไปเปรียบเทียบกับคู่อื่น

"ยกตัวอย่างในช่วงที่มีโควิด สิ่งที่หนู 2 คนอยู่กันได้ท่ามกลางที่วิกฤต หนูไม่เปรียบเทียบคู่เรากับคนอื่น หนูไม่เคยมองว่าสามีคนนั้นรวยนะ ภรรยาคนนี้รวยนะ เรามีความสุขในแบบของเรา แบบที่เป็นเราแบบนี้ค่ะ"

เธอบอกทิ้งท้ายการพูดคุยครั้งนี้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่คู่รักควรมี คือ "ความซื่อสัตย์" ไม่โกหกกันและกัน

เพราะการโกหกที่เราอาจจะมอง เป็นเรื่องเล็กๆ จะนำพาไปสู่การทำบาปใหญ่ๆ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook