ฟังเพลงตอนวิ่ง ทำให้การวิ่งดีขึ้นจริงหรือ?

สำหรับคนที่ยังไม่เคยวิ่งหรือคิดว่าจะเริ่มต้นวิ่งอาจมีคำถามในใจว่า การวิ่งที่ต้องอยู่กับตัวเองเป็นระยะเวลานานมันจะน่าเบื่อมั้ย ยิ่งต้องวิ่งเป็นระยะทางไกลๆ เช่น มินิมาราธอน, ฮาล์ฟ มาราธอน, มาราธอน หรือ แม้แต่อัลตร้ามาราธอน จะทำยังไงให้วิ่งได้จนจบ เพราะถ้าเป็นกีฬาประเภทอื่น เช่น ฟุตบอล, แบดมินตัน, บาสเก็ตบอล ซึ่งเป็นกีฬาประเภททีม ต่อให้ต้องเล่นต่อเนื่องเป็นเวลานานก็ไม่น่าเบื่อ เพราะมีเพื่อนร่วมทีมหรือคู่แข่ง

หลายคนจึงเลือกที่จะฟังเพลงไปเรื่อยๆ ขณะวิ่งเพื่อฆ่าเวลา ลดความเบื่อหน่าย ซึ่งตอนนี้มีอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทำให้สามารถฟังเพลงขณะวิ่งได้ง่ายดายในรูปแบบหูฟังไร้สาย (บลูทูธ) ไม่ต้องมีสายหูฟังรุงรังขณะวิ่ง บางนาฬิกาสปอร์ตสามารถโหลดเพลย์ลิสต์เพลงในนาฬิกาได้เลยโดยไม่ต้องพกมือถือด้วยซ้ำ

การฟังเพลงขณะวิ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลหรือสถานที่ที่คุณวิ่งด้วยนะ

ข้อดีของการฟังเพลงขณะออกกำลังกาย

1) ลดอาการเมื่อยล้าขณะวิ่ง

นอกจากช่วยลดความเบื่อหน่ายแล้ว การฟังเพลงขณะวิ่งช่วยพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง แถมเพิ่มความทนทานให้กับนักวิ่งอีกด้วย โดยมีงานวิจัยเปิดเผยว่าการฟังเพลงขณะออกกำลังกายช่วยลดคลื่นธีต้า (Theta waves) ชนิดความถี่ 4-7 เฮิร์ต (Hz)ซึ่งเป็นการวัดคลื่นสมองด้วยเครื่อง Electroencephalogram (EEG) ช่วยระงับอาการเมื่อยล้าต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น แถมทำให้วิ่งได้นานอีก

2) การไหลเวียนโลหิตเพิ่มขึ้น

เมื่อเราฟังเพลง ไม่ว่าจะเพลงร๊อค เพลงป๊อป เพลงลูกทุ่ง เพลงเพื่อชีวิต ตามที่ชื่นชอบ หากเราฟังเพลงที่สนุกสนาน เร้าใจ มีเนื้อเพลงกระตุ้นและให้กำลังใจ ส่งผลให้การไหลเวียนโลหิตเพิ่มขึ้นถึง 26% ทำให้ร่างกายนำอ๊อกซิเจนไปใช้ได้เพิ่มขึ้น แต่หากฟังเพลงเศร้า อกหัก รักคุด หรือหดหู่ การไหลเวียนโลหิตจะลดลง 6%

3) ส่งผลต่อจิตใจโดยตรง

งานวิจัยในหัวข้อ Applying Music in Exercise and Sport โดย ศาตราจารย์ Costas Karageoghis ภาควิชาการกีฬาและการศึกษา มหาวิทยาลัย บรูเนล ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเสียงเพลงและร่างกายมนุษย์ เผยว่าการฟังเพลงขณะออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายมีพลังเพิ่มขึ้นกว่าปกติประมาณ 10% มีผลโดยตรงในแง่จิตวิทยา การฟังเพลงที่มีเนื้อหาปลุกใจ ให้สู้ ไม่ยอมแพ้ ทำให้จิตใจคุณรู้สึกว่าสามารถเอาชนะความยากลำบาก ความเหนื่อยล้าขณะวิ่งได้ และดันมันจนจบ

เลือกเพลย์ลิสต์ไหนไว้ฟังตอนวิ่งดีละ?

การเลือกประเภทของเพลง เนื้อหาเพลง หรือ ไรม์ (Rhythm) ของเพลงที่ฟังขณะวิ่ง มีผลต่อประสิทธิภาพของการวิ่ง หากเราฟังเพลงที่มีจังหวะเร็วจะส่งผลดีต่อการวิ่งมากกว่าเพลงช้า แนะนำเลือกจังหวะเพลงให้เหมาะสมกับเพซที่เราวิ่งจะส่งผลดีที่สุด เช่น หากวิ่งบนลู่วิ่งสายพานให้ได้สมรรถภาพสูงสุดควรฟังเพลงที่มีจังหวะความเร็ว 123 - 131 BMP7 อย่างไรก็ดีร่างกายแต่ละคนตอบสนองต่อระดับจังหวะความเร็วของเพลงแตกต่างกัน ให้เลือกเพลงที่ชอบจะช่วยให้การวิ่งสนุกขึ้นแน่นอน

• 80-96 BPM : จังหวะช้าลง เหมาะกับช่วงวอร์มอัพหรือคูลดาวน์
• 116-128 BPM : จังหวะกลางๆ ไม่เร็วมาก ทำนองเรียบง่าย ช่วยเพิ่มสมาธิได้ดี เหมาะกับช่วงคูลดาวน์ที่ค่อยๆ ลดความเร็วลง
• 140 BPM : จังหวะที่เหมาะสมที่สุดในการวิ่ง ทำให้วิ่งลื่นไหล รักษาเพซได้ดี
• 158 BPM : จังหวะหนักหน่วง รวดเร็ว เสียงร้องและบีทกลองหนักแน่น เหมาะกับการฟังตอนวิ่งมาก
• 166 BPM : จังหวะเร็วและหนักหน่วงที่สุด เหมาะกับช่วงท้ายๆ ใกล้จบหรือเข้าเส้นชัย ที่ต้องระเบิดพลังหรือสปรินท์สุดแรงเกิด รับรองฟังแล้วพุ่งเข้าเส้นชัยไปเลย
   

ข้อเสียของการฟังเพลงขณะวิ่ง

หลายคนที่เริ่มวิ่งมาได้ประมาณนึงหรือวิ่งมานาน มักไม่ค่อยฟังเพลงขณะวิ่ง ด้วยอุปกรณ์ที่ต้องพก ทั้งหูฟังเอย มือถือเอย เป็นอุปสรรคแก่การวิ่ง บางคนมองว่าการฟังเพลงทำให้เราเผลอร้องเพลงออกเสียงขณะวิ่ง ทำให้ระบบการหายใจผิดจังหวะ บางคนมองว่าเมื่อเราฟังเพลงจะทำให้ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าหรือจังหวะหัวใจของตัวเอง บางคนอยากฟังเสียงการลงเท้าเพราะจะได้รู้ว่าลงเท้าหนักเกินไปจนเจ็บเข่ามั้ย บางคนใช้การวิ่งเป็นการทำสมาธิในการฝึกควบคุมความเร็วและอัตราการเต้นองหัวใจ กำหนดลมหายใจเข้า-ออก

นอกจากนี้ยังมีเรื่องความปลอดภัยที่นักวิ่งหลายคนควรคำนึงเมื่ออยากฟังเพลงขณะวิ่ง เพราะการเปิดเพลงฟังเมื่อเราวิ่งข้างนอก โดยเฉพาะสายสตรีท หรือ City Run หรือแม้แต่ในการแข่งขันที่ต้องวิ่งบนถนน มีรถสวนไปมาหรือต้องรอข้ามถนน อาจทำให้ไม่ได้ยินเสียงจากรอบข้างนำไปสู่อันตรายได้ เพราะเมื่อวิ่งเราจะโฟกัสไปข้างหน้าไม่ได้มองรอบตัวตลอดเวลา ปัจจุบันจึงมีหูฟังแบบที่มีโหมดเลือกฟังเสียงรอบข้างได้ชัดเจนขณะฟังเพลง บางยี่ห้อใช้เทคโนโลยี Bone Conduction ที่ไม่ต้องสวมเข้าในรูหูเพื่อฟังเสียงรอบข้างได้

ดังนั้นการฟังเพลงขณะวิ่งไม่มีผิดหรือถูก แต่หากคุณอยากฟังเพลงควรเลือกสถานที่ที่ปลอดภัยและมั่นใจ เช่น บนลู่วิ่งสายพาน หรือ ในสวนสาธารณะ จะทำให้คุณสามารถสนุกไปกับเสียงเพลงและการวิ่งได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญคือปลอดภัยอีกด้วย

Reference :

https://www.independent.co.uk/life-style/health-and-families/gym-playlist-songs-to-help-workout-exercise-a7321106.html