8 ม.ค. วันเกิดเอลวิส เพรสลีย์ ราชา Rock&Roll และผู้ปลดแอกแฟชั่นชาย
“8 มกราคม สุขสันต์วันเกิด เอลวิส เพรสลีย์”
เสื้อจัมป์สูทสีสดแหวกอก คอเสื้อที่ตั้งสูง ผมม้วนปั้นขึ้นเป็นแท่งทรงปอมปาดัวร์ ท่าเขย่าขาพร้อมจังหวะดนตรี ‘แถ่-แดม’ ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือสัญลักษณ์ความหล่อเท่ของราชาเพลงร็อกแอนด์โรลอเมริกายุค 50s เอลวิส เพรสลีย์ ชายที่เป็นตำนานแม้จากไป แต่ภาพจำยังคงชัดเจน ขอต้อนรับสู่ 8 มกราคม Elvis’s Day
วันเกิดเอลวิส เพรสลีย์
ย้อนกลับไปในวันที่ 8 มกราคม 1935 เอลวิส เพรสลีย์ ได้ลืมตาขึ้นเป็นครั้งแรกในครอบครัวแรงงานที่มีฐานะไม่ค่อยดีนัก ก่อนยุคสมัยของอเมริกาที่จะเต็มไปด้วยแสงสีและความฉูดฉาดบนเสื้อผ้า เอลวิสเติบโตพร้อมกับความลำบาก จนพ่อและแม่ตัดสินใจย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เมมฟิส เมืองที่จะจุดประกายให้กับเด็กชายคนนึงและโลกทั้งใบ
ตอนที่คุณและคุณนายเพรสลีย์ย้ายไปอยู่ที่เมืองเมมฟิสพร้อมลูกชาย เอลวิสรู้จักเสียงเพลงผ่านการเป็นนักร้องในโบสถ์ไปพร้อมๆกับเพลงแนวร็อกแอนด์โรลล์และดนตรีบลูส์จากข้างทาง เอลวิสผสมผสานแนวเพลงและสไตล์การร้องของคนดำไปสู่ท่าเต้นเขย่าขาสุดแหวกแนวที่ไม่มีใครคิดได้ในสมัยนั้น
ประกอบกับโลกธุรกิจที่เน้นผลิตดนตรีเพื่อคนมีเงิน สไตล์เพลงแนวพื้นบ้านจึงรุกล้ำพื้นที่หัวใจวัยรุ่นได้ง่ายกว่าเพลงหรูๆ ดาษดื่นทั่วไป จนกลายเป็นตำนานที่แพร่กระจายคลื่นความเป็นอเมริกาแนวใหม่ไปทั่วประเทศและทั้งโลกคล้ายนักร้องเกาหลีในสมัยนี้
เอลวิสนักปลดแอกแฟชั่น
อย่างที่ว่าไว้เอลวิส เพรสลีย์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เป็นราชานักร้องที่พาคนฟังกันงอมแงมในช่วง 50s-ปัจจุบัน แม้เจ้าแห่งร็อกแอนด์โรลจะเสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในห้องน้ำตัวเอง แต่กลับกันได้ทิ้งมรดกวัฒนธรรมก้อนบักเอ๊กไว้นั่นก็คือ เพลงร็อกแอนด์โรล และ แฟชั่นที่แหวกแนว
เอลวิสนับได้ว่าเป็นชายคนแรกที่ปลดแอกเสรีภาพทางสีสันบนเสื้อผ้าของผู้ชาย ที่จากเดิมผู้ชายเมกัน’ส่วนใหญ่จะใส่สีที่ไม่ได้สดใสอะไรนัก แต่โลกก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อแฟชั่นสีสดมาพร้อมกับดนตรีเพลงที่ชวนโยก รวมถึงเทรนด์กางเกงขาทรงกระดิ่งที่สุดแสนจะเวิลด์ไวด์ ให้ผู้ชายทุกคนได้สนุกกับการแต่งตัวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
นอกจากนี้หากพูดถึงเอลวิสก็คงไม่สามารถมองข้ามทรงผมในตำนานกับทรงหางเป็ดปอมปาดัวร์ที่ยื่นก้อนผมหนาไปข้างหน้า และสิ่งนี้เองก็แพร่กระจายในหมู่ชายชาญไม่แพ้กัน หากจำกันได้ในการ์ตูนญี่ปุ่นสมัยก่อนก็มักจะมีตัวละครชายสายต่อตีทำผมทรงรีเจ้นท์กันให้เห็นบ้าง ซึ่งนี่แหละคือผลผลิตของราชาร็อกแอนด์โรล
อิทธิพลจากทางฝั่งอเมริกา ทรงผมที่โดดเด่นของเอลวิส แพร่กระจายในแดนปลาดิบโดยเฉพาะหมู่นักเรียนแยงกี้สายเก๋าและนักเลงมอเตอร์ไซค์ซิ่งสมัยช่วงปี 80s ทำให้ย่านโตเกียวเต็มไปด้วยคนทำผมทรงปอมปาดัวร์ ควบคู่ไปกับผมทรงรีเจนท์ทั่วทุกหนทุกแห่งของทางเดิน
แม้เพลงของเอลวิสกับผมทรงที่ว่าจะดูเป็น ‘ทรงดักแก่’ ในสมัยนี้ แต่ก็อย่างที่เขาบอก “แก่ไม่ว่า…ขอเก๋าไว้ก่อน” ขอบคุณเอลวิส เพรสลีย์ นักร้องขาเขย่าที่สั่นจนสร้างสีสันให้กับโลกทั้งใบ
ติดตามบทความเปิดโลกและย้อนวันวานวันเก่าๆ ได้ที่ iNN Lifestyle