การกล่าวอำลาครั้งสุดท้ายของ Virgil Abloh ใน Louis Vuitton Men’s Fall/Winter 2022

การกล่าวอำลาครั้งสุดท้ายของ Virgil Abloh ใน Louis Vuitton Men’s Fall/Winter 2022

การกล่าวอำลาครั้งสุดท้ายของ Virgil Abloh ใน Louis Vuitton Men’s Fall/Winter 2022
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อีกผลงานสุดยิ่งใหญ่ของดีไซเนอร์ระดับตำนาน

ผลงานชิ้นสุดท้ายของหนึ่งในอัจฉริยภาพของวงการแฟชั่นอย่าง Virgil Abloh ที่กล่าวอำลาผ่านผลงานคอลเลกชั่นล่าสุดของ Louis Vuitton Men’s Fall/Winter 2022 ด้วยการถอดรหัสอคติของรูปลักษณ์มนุษย์ เพื่อทบทวนหลายสิ่งที่เราปฏิบัติร่วมกันอย่างแตกต่างด้วยการมองเพียงเปลือกนอก นับเป็นอีกผลงานสุดยิ่งใหญ่ของดีไซเนอร์แห่งยุค ที่เชื่อว่าเขาต้องได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตำนานของวงการแฟชั่นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ยุคก็ตาม Virgil Abloh มักกล่าวเสมอว่าจินตนาการคือวัตถุดิบชั้นยอดในการเดินตามความฝัน และในครั้งนี้เองเขาได้ถ่ายทอดจินตนาการล้ำค่าผ่านเครื่องแต่งกายและแอคเซสเซอรี่ผ่านคอลเลกชั่นหมายเลข 8 เพื่อพยายามที่จะพัฒนาคุณค่าของมนุษย์ โดยไม่ให้เครื่องแต่งกายเป็นเพียงเครื่องบ่งชี้ทางสังคมแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนและตัวตนของผู้สวมใส่อีกด้วยเช่นกัน ดังนั้นในคอลเลกชั่นนี้จึงเปรียบเสมือนการทบทวนเส้นทางที่ผ่านมาทั้งหมดของ Virgil Abloh ตั้งแต่ปี 2018-2022 ผ่านผลงานสุดท้ายที่คล้ายกับคำกล่าวอำลาอย่างสวยงาม 
 

เสื้อผ้าในคอลเลกชั่นนี้เต็มไปด้วยหลากหลายพาร์ต เปรียบเสมือนการเดินทางในแต่ละช่วงชีวิตของ Virgil ไม่ว่าจะเป็นการสอดแทรก Boyhood ลงในเครื่องแต่งกายเพื่อสะท้อนถึงความเป็นเด็ก โดยเปรียบเสมือนถึงความเป็นเด็กที่ยังไม่ถูกทำลายหรือแต่งแต้มด้วยแนวคิดอุปทานของสังคม รวมไปถึงรันเวย์สีรุ้งที่สร้างขึ้นผ่าน Palais Royal และนอกจากนี้ในคอลเลกชั่นนี้เขายังได้ผสมผสานกลิ่นอายความเป็นฮิพฮอปกับชุมชนที่เขาอาศัยอยู่วันเด็กอย่าง Rockford รัฐ Illinois ด้วยการประชดโดยนัย Virgil โดยสะท้อนตัวเองในเรื่องราวของสาวฟาร์มจากมิดเวสต์ ซึ่งถูกพายุทอร์นาโดพัดพาไปยังดินแดนในเทพนิยายของออซในแบบคู่ขนานนี้ ซึ่งเปรียบถึงออซเป็นปารีส โดโรธีคือ Virgil และพ่อมดคือจินตนาการของเขา 


ในคอลเลกชั่นหมายเลข 1 เขาจินตนาการถึง The Painter's Studio ของ Gustave Courbet จากปี 1855 โดยตีความผ่านชีวิตและตัวตนของเขาอีกแบบ ที่รายล้อมไปด้วยผู้คนในแวดวงสังคมแฟชั่นมากมาย แต่ในขณะเดียวกันภาพของ Courbet นั้นตีความสังคมในแบบ 'โลกแห่งความจริง' สำหรับสายตาของชนชั้นสูงทางวัฒนธรรม ทำให้คอลเลกชั่นหมายเลข 1 นี้เป็นอีกการปรับเปลี่ยนมุมมองของ Virgil ที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแนวคิดที่ครอบคลุมวิสัยทัศน์ของเขากับ Louis Vuitton 

อีกหนึ่งพาร์ตที่เป็นไฮไลต์จากโชว์ คือเหล่าลุคสีขาวที่ปรากฏบนรันเวย์พร้อมกับเหล่านายแบบที่พร้อมใจกันมองขึ้นบนฟ้า เปรียบเสมือนการกล่าวอำลาดีไซเนอร์ผู้ล่วงลับด้วยความเคารพในผลงานที่เขาได้ทิ้งไว้ให้ในโลกแฟชั่นผ่านคอลเลกชั่นหมายเลข 8 และยังปิดท้ายด้วยซูเปอร์โมเดลแห่งยุคอย่าง Naomi Campbell ที่มาร่วมส่งท้ายให้กับคอลเลกชั่นหมายเลข 8 นี้ให้กับ Virgil ด้วยเช่นกัน 


นอกเหนือจากเรื่องราวที่น่าสนใจและซิลูเอตอันคมชัด รวมไปถึงกลิ่นอายของสตรีตสไตล์อันทรงพลังของ Virgil แล้ว คอลเลกชั่นนี้ยังเต็มไปด้วยเหล่าไอเท็มน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าทรงถังสีสันสดใส ลวดลายโมโนแกรมที่ถูกเบลอเสมือนการหยอกล้อกับโลโก้สุดคลาสสิก หรือกระเป๋าตกแต่งดอกไม้ที่มีทั้งหลากสีและในแบบสีสัน อีกทั้งยังรวมไปถึงสนีกเกอร์ หมวก และแว่นตา ที่ถ่ายทอดดีเอ็นเอความเป็น Virgil ทั้งสิ้น และหลังโชว์จบลงผลงานของเขายังกู่ก้องให้แฟนๆ ทั่วโลกได้นึกถึง และเขาเองเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้โลกแฟชั้นตระหนักว่า เสื้อผ้าสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ และเขาตัดสินใจที่จะใช้ทุกตารางนิ้วของแพลตฟอร์มระดับโลกเพื่อสร้างสิ่งที่อยู่เหนือขอบเขตของ "แฟชั่น" 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook