รูปร่างเล็กใหญ่อาจไม่ใช่ปัญหา ชวนเช็คเปอร์เซ็นต์ไขมันก่อนสายเกินแก้
ในปัจจุบันผู้คนคงเริ่มคุ้นเคยกับคำว่า “ดัชนีมวลกาย” หรือ BMI (Body Mass Index) คือ ค่าดัชนีที่ใช้ชี้วัดความสมดุลของน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) และส่วนสูง (เซนติเมตร) ที่แสดงถึงโครงสร้างเบื้องต้นของร่างกายแต่ละคน ว่าอ้วนเกินไปหรือ ผอมเกินไป และทุกคนสามารถตรวจวัดด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน นั่นคือ การนำน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง ก็จะได้ค่าดัชนีมวลกายออกมา เพื่อให้เรารู้เกณฑ์ที่จะรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยค่าเฉลี่ยของ BMI ของ หญิงไทยคือ 24.4 และของชายไทยคือ 23.1 (อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป)
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การโฟกัสที่น้ำหนักเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องสำหรับคนที่ต้องการจะลดความอ้วนเสมอไป แต่การรู้ “เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย” (Body Fat Percentage) ต่างหากที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากคนที่รูปร่างผอมเพรียว แต่อาจมีไขมันซ่อนอยู่ในส่วนอื่นๆ หรือในหน้าท้องส่วนล่าง จงรู้ว่านั่นคือ ไขมันสะสมในร่างกาย กลุ่มนี้คือกลุ่มที่เรียกว่า Skinny Fat ที่ดูภายนอกผอมแต่ว่าไม่ได้แข็งแรงเสมอไป
เนื่องจากมีกล้ามเนื้อน้อยแต่มีระดับไขมันไม่น้อยตาม ในทางกลับกันบางคนที่ดูเหมือนตัวใหญ่หรือมีน้ำหนักตัวมากกว่าคนอื่น เมื่อเช็คค่าในร่างกายแล้ว พบว่ามีมวลกล้ามเนื้อมาก มวลไขมันไม่สูง จึงมีความแข็งแรงและมีการเผาผลาญที่ดีกว่า ดังนั้นการรู้ค่าไขมันในร่างกาย จะช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกออกกำลังกาย เลือกวิธีลดความอ้วนได้ตรงจุดและได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงทำให้รู้ว่ามีความเสี่ยงโรคต่าง ๆ ทั้งโรคอ้วน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ตามมาหรือไม่ จะได้รีบแก้ไขให้ไวก่อนสายเกินแก้