TAG Heuer Aquaracer Professional 200 ตอบโจทย์หนุ่มนักเดินทาง
หลังเปิดตัว Aquaracer Professional 300 มาได้ไม่นาน ล่าสุด TAG Heuer (แทค ฮอยเออร์) ได้ปล่อยนาฬิการุ่นใหม่จากคอลเลคชั่น Aquaracer ในชื่อ Aquaracer Professional 200 ที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ เพื่อตามรอยตำนานและประวัติศาสตร์การผลิตนาฬิกาสปอร์ตแบบ Swiss Made ที่ TAG Heuer ได้รังสรรค์ไว้เมื่อ 40 ปีก่อน
Aquaracer Professional 200 มาพร้อมตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาด 40 มิลลิเมตร และ 30 มิลลิเมตร ขอบหน้าปัด 12 เหลี่ยมที่หมุนได้ทิศทางเดียว พร้อมความสามารถในการกันน้ำลึกถึง 200 เมตร โดยมีให้เลือกทั้งแบบกลไกออโตเมติกและควอทซ์
เฟรเดริก อาร์โนลต์ ซีอีโอของ TAG Heuer กล่าวว่า “Aquaracer เปรียบเสมือนซิกเนเจอร์ของแบรนด์ TAG Heuer เฉกเช่น Carrera และ Monaco แนวคิดและเรื่องราวเบื้องหลังของคอลเลคชั่นนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อหลาย 10 ปีก่อน แต่กลับยังคงความทันสมัยและน่าตื่นเต้นเช่นเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเดินทางครั้งใหม่ของ Aquaracer Professional 200 ที่เป็นดั่งเพื่อนเดินทางของชาวแอคทีฟที่เต็มไปด้วยการผจญภัยที่น่าจดจำ ความสำเร็จ และการก้าวข้ามขีดจำกัด”
การเดินทางครั้งใหม่ของตระกูล Aquaracer Professional
Aquaracer Professional 200 ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสายแอคทีฟ โดยเน้นสวมใส่สบายแม้ยามท้าทายความเร็วบนท้องฟ้า ไม่ว่าจะเป็นกีฬา speed flying หรือการเล่นสกีบนเทือกเขาหิมะ โดยนาฬิกามาพร้อมรูปทรงที่เพรียวบางเข้ากับสรีระที่สอดคล้องกับความโค้งตามธรรมชาติของข้อมือ ซึ่งขนาดได้ถูกปรับให้กะทัดรัดมากยิ่งขึ้นเหลือเพียง 40 มิลลิเมตร และความหนา 11 มิลลิเมตร บนขอบหน้าปัดยังคงมีสเกลดำน้ำเช่นเดิมแต่ในครั้งนี้ถูกสลักลงบนวัสดุสเตนเลสสตีลแทนเซรามิกแบบรุ่นก่อน ตรงกลางสายนาฬิกาถูกขัดแต่งแบบ Polished ให้ลุคที่ดูเป็นทางการขึ้นเพื่อสามารถสวมใส่ได้ทั้งวันทำงานและวันแฮงเอาท์ช่วงสุดสัปดาห์ อีกทั้งยังพร้อมลุยทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นทะเลหรือภูเขา เรียกได้ว่าเป็นเรือนเวลาเวอร์ชั่นใหม่ที่ดูภูมิฐานและยังทนทานมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ Aquaracer ไว้ได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีความเป็นนาฬิกาสปอร์ตสไตล์คลาสสิกมากขึ้นด้วยหลักเวลาทรงยาวสี่เหลี่ยมคางหมู และเข็มนาฬิการูปดาบสุดโฉบเฉี่ยวเคลือบ Super-LumiNova หากแต่ไม่มีการเคลือบบริเวณขอบหน้าปัดเหมือนรุ่นก่อนเพื่อเพิ่มความเรียบหรูและสง่างามให้กับตัวเรือน
สำหรับขนาด 40 มิลลิเมตร มีตัวเลือกแบบกลไกออโตเมติก 2 โมเดล และแบบกลไกควอทซ์ 2 โมเดล ในขณะที่ขนาด 30 มิลลิเมตร มีตัวเลือกแบบกลไกออโตเมติก 2 โมเดล และแบบกลไกควอทซ์ 5 โมเดล ซึ่งแตกต่างจากรุ่นก่อนที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกออโตเมติกเท่านั้น
ตัวเรือนกลไกออโตเมติก มาพร้อมพื้นหน้าปัดแบบสโมกกี้หรือ fumé ไล่สี สลักลายเส้นแนวขวาง หน้าต่างบอกวันที่บริเวณ 6 นาฬิกา หลักเวลาและเข็มนาฬิกาเคลือบ Super-LumiNova ในขณะที่ตัวเรือนกลไกควอทซ์ไม่มีหน้าต่างบอกวันที่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสวยงามและคุณลักษณะทางเทคนิคที่เหมือนกัน
สำหรับขนาด 30 มิลลิเมตร มีให้เลือกทั้งแบบสไตล์เรียบหรู ดูสง่างามและในสไตล์ที่ดูสนุกมากขึ้น โดยแบบกลไกควอทซ์ 3 โมเดลมาพร้อมตัวเลือกหน้าปัดซันเรย์สีเงินอ่อน สีฟ้าอ่อน หรือสีดำ หลักเวลาทรงยาวสี่เหลี่ยมคางหมู ส่วนอีก 2 โมเดล มาพร้อมหน้าปัดเปลือกหอยมุก White Mother of Pearl หลักเวลาเพชร แต่มีลูกเล่นบนขอบหน้าปัดให้เลือกทั้งแบบสเตนเลสที่มีสเกลดำน้ำ หรือแบบขอบหน้าปัดล้อมเพชร ในขณะที่แบบกลไกออโตเมติกอีก 2 โมเดล มาพร้อมพื้นหน้าปัดแบบสโมกกี้หรือ fumé ไล่สี หลักเวลาเพชร และหน้าต่างบอกวันที่
อีกหนึ่งดีไซน์อันโดดเด่นของ Aquaracer Professional 200 คือการสลักสัญลักษณ์รูปเข็มทิศบริเวณฝาหลังที่สะท้อนจิตวิญญานของนักผจญภัยได้อย่างดีเยี่ยม โดยสัญลักษณ์นี้ถูกนำมาแทนที่สัญลักษณ์รูปหมวกดำน้ำโบราณ หรือ Scaphandre ในรุ่นเก่าตั้งแต่ปี 2002
Aquaracer Professional 200 จิตวิญญานของนักผจญภัย
Aquaracer Professional 200 ถือเป็นความสำเร็จจากการวิจัยและพัฒนาโดยทีมออกแบบและวิศวกรของ TAG Heuer เป็นเวลานานหลายปี แม้จะเป็นรุ่นต่อจาก Aquaracer Professional 300 แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งรูปลักษณ์ใหม่ที่ส่งมอบลุคสปอร์ตและใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงส่วนผสมที่ลงตัวของความดูภูมิฐานและความเหนือระดับ เรียกได้ว่าเป็นตำนานบทใหม่ของนาฬิกา TAG Heuer ที่สร้างขึ้นเพื่อการผจญภัยอันยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ