เทคนิค Affirmation ช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้อย่างไร

เทคนิค Affirmation ช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้อย่างไร

เทคนิค Affirmation ช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้อย่างไร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ธรรมชาติของมนุษย์ที่เติบโตมาถึงจุดหนึ่ง ความต้องการด้านกายภาพหรือปัจจัย 4 ก็ได้รับแล้ว การมีชีวิตอยู่รอดและปลอดภัยก็ดำเนินอยู่แล้ว ความรักในหลากหลายรูปแบบก็มีแล้ว ขั้นต่อไปของความต้องการ คือ การได้รับการยอมรับในคุณค่าของตนจากบุคคลอื่น เกียรติยศชื่อเสียง ความภาคภูมิใจ และการยกย่องชมเชย เหนือขึ้นไปอีกคือความสมบูรณ์ของชีวิต มนุษย์เราจะได้รับสิ่งเหล่านี้ในวันที่ตนเองประสบความสำเร็จในชีวิต

จะเห็นว่าความต้องการที่จะ “ประสบความสำเร็จ” นั้น ถือเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน คงไม่มีใครที่ไหนที่จะตั้งเป้าหมายในชีวิตเอาไว้ว่าจะต้องเป็นคนล้มเหลวให้ได้หรอก เมื่อต้องลงมือทำอะไร มนุษย์เราล้วนมีเป้าหมายในชีวิตว่าจะประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเสมอ โดยเฉพาะในยุคสมัยนี้ที่ค่านิยมของสังคมเปลี่ยนไป ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของสังคม เราอาจรู้สึกว่าอะไรหลาย ๆ อย่างรอบตัวล้วนบีบคั้นให้เราต้องพาตนเองไปสู่ ความสำเร็จให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น ถ้าทำไม่ได้ ก็อาจจะถูกสังคมตราหน้ามาง่าย ๆ ว่าล้มเหลวเลยก็เป็นได้

สำหรับเป้าหมายที่จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ บางคนก็ไปถึง บางคนเกือบจะถึง บางคนไปไม่ถึง โดยที่อีกหลาย ๆ คนก็มักจะนั่งโทษโอกาสและสั งคมที่ทำให้ตนเองเป็นไม่ได้ แบบคนอื่น ทั้งที่ความจริงแล้ว เป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะต้องประสบความสำเร็จ มันอยู่ที่ตัวเราเองว่าจะตั้งเป้าหมายให้ตนเองอย่างไร มันอาจเป็นความท้าทายง่าย ๆ ที่เราแค่ใช้ความพยายามบวกกับความตั้งใจนิดหน่อยก็พิชิตได้แล้ว หรืออาจเป็นเป้าหมายที่ใหญ่และยากกว่านั้น ทั้งหมดอยู่ที่เรากำหนดเอง ไม่จำเป็นต้องให้สังคมมาบังคับให้เราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้

เป็นเรื่องยากที่จะพิชิตเป้าหมายง่าย ๆ ปัญหาอาจอยู่ที่ทัศนคติของเราเอง
ความคิดและทัศนคติของมนุษย์นั้นทรงอานุภาพมากกว่าที่เราคิด เพราะมันสามารถกำหนดทิศทางของพฤติกรรมได้ว่าจะชีวิตไปในทางที่ประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว

เทคนิค Affirmation หรือที่ภาษาไทยแปลออกมาเป็น “การตอกย้ำและยืนยัน” เป็นเทคนิคหนึ่งที่ใช้ในการฝึกที่จะคิดแบบคนที่ประสบความสำเร็จ มันคงมีครั้งแล้วครั้งเล่าที่เราได้รับแรงบันดาลใจจากคนรอบข้าง โดยยกให้เขาเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จ เวลาที่เราชื่นชมบุคคลต้นแบบ เราก็มักมีความคิดที่อยากจะเดินตามรอย เป็นอย่างพวกเขาให้ได้บ้าง หลาย ๆ ครั้งก็ทำให้ไฟในตัวลุกโชนขึ้นมา เริ่มเพ้อฝันถึงชีวิตของตนเองที่กำลังมีความสุขเพราะประสบความสำเร็จ แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงเล็ก ๆ จากในใจลึก ๆ ดังแทรกขึ้นมาว่า “แต่ฉันเป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก”

เสียงเล็ก ๆ ที่ดังขึ้นมาต่อต้านความคิดเพ้อฝันนั้นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ เพราะมนุษย์เรามักจะกลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวการออกจาโซนที่อยู่แล้วรู้สึกปลอดภัย รู้สึกไม่เชื่อในความสามารถหรือคุณค่าของตนเอง จึงประเมินช่วงจินตนาการของตนเองว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันไร้สาระ เป็นไปไม่ได้จริง มันยากเกินไป ทั้งที่ยังไม่เคยได้ลองทำเลยด้วยซ้ำ ความคิดแบบนี้นี่เองที่ปิดประตูรับโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ คือการรีบตัดบทจบทุกอย่างที่คิดไว้ก่อนที่จะลงมือทำอะไรให้ได้อย่างที่จินตนาการ

อธิบายง่าย ๆ ก็คือ “คุณคิดแบบไหน คุณก็จะเป็นแบบนั้น” ถ้าเราพร่ำบ่นกับตัวเองตลอดเวลาว่าฉันทำไม่ได้ มันยากเกินไป ฉันเป็นคนโชคร้าย สิ่งนี้ไม่เหมาะกับฉันหรอก ความคิดนี้ก็จะทำให้คุณจมอยู่ตรงนั้นเพราะว่า “ฉันทำไม่ได้” มันก็จะไม่มีแรงกระตุ้น แรงจูงใจ หรือแรงขับอะไรที่จะดึงให้เราเดินไปในทิศทางที่จะประสบความสำเร็จได้เลย ในทางกลับกัน ถ้าเราลองย้ำกับตัวเองบ่อย ๆ ว่าให้ลองทำดูก่อน ทำได้สิ มันไม่ยากเกินไปหรอกน่า ความคิดนี้จะพาเราหันไปในทางที่พยายามจะทำให้ได้ตามนั้น มีแรงผลักดันให้ลองทำดูสักตั้ง เพื่อที่ผลลัพธ์มันอาจว้าวเกินคาดก็ได้

ทลายกำแพงในใจและก้าวข้ามเสียงคัดค้านเล็ก ๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนความคิด
กลับมาที่ เทคนิค Affirmation เป็นกระบวนการคิดแบบตอกย้ำและยืนยันกับตนเอง ปกติคนเรามักจะคุยกับตัวเองอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำก็คือ การพูดคุยกับตัวเองบ่อย ๆ เพื่อเป็นการออกคำสั่งให้สมองเชื่อแบบนั้น คือเชื่อแบบไหน เราก็ถูกดึงดูดด้วยความเชื่อแบบนั้น เชื่อว่าจินตนาการของตนเองมันเป็นไปได้ สมองก็จะสั่งการให้เราพยายามสร้างสิ่งนั้นขึ้นมา

เนื่องจากความคิดสามารถส่งผลต่อแรงจูงใจ พฤติกรรม ตลอดจนวิธีในการใช้ชีวิต คือการควบคุมตนเองให้ทำตามในสิ่งที่ตนเองเชื่อ ถ้าสิ่งที่เราคุยหรือสั่งสมองของตัวเองด้วยความคิดเชิงบวก เราก็มีแนวโน้มที่จะคิดและลงมือทำพฤติกรรมเชิงบวกตาม แต่ถ้าเราย้ำกับตัวเองและสมองซ้ำ ๆ ด้วยความคิดเชิงลบ เราก็มีแนวโน้มที่จะคิดและลงมือทำพฤติกรรมเชิงลบ

สำหรับเทคนิค Affirmation นี้มีงานวิจัยหลายตัวที่ยืนยันว่าการสั่งย้ำกับสมองซ้ำ ๆ ด้วยความคิดในเชิงบวก สามารถเป็นแรงขับเคลื่อนให้เรามีพฤติกรรมเชิงบวกได้จริง รวมถึงมีผลต่อการทำงานของสมองด้วย โดยดูจากคลื่นสมองที่ได้จากการสแกนสมอง พบว่าการคิดแบบ Affirmation หรือตอกย้ำยืนยัน มีผลต่อระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นคุณค่าในตนเองและการยินดีมีความสุขเมื่อได้รับรางวัล

ดังนั้น กระบวนการนี้ไม่ได้ส่งผลเฉพาะในแง่ของความรู้สึกเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสมองของเราได้อย่างเป็นรูปธรรมจริง ๆ และส่งผลต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ส่งผลดีต่อตัวเองอีกด้วย

วิธีการใช้เทคนิค Positive Affirmation และสิ่งที่จะได้รับ
ขั้นตอนง่าย ๆ เพียงแค่ลองลิสต์รายการสิ่งที่เราอยากจะเปลี่ยนแปลง ด้วยการยืนยันและตอกย้ำซ้ำ ๆ ว่า “ฉันจะ…” จำนวนไม่ต้องมากเกินไป แรกเริ่มลองจากน้อย ๆ ข้อดูก่อนก็ได้ จากนั้นก็เริ่มใช้ลิสต์นี้พูดกับตัวเองตอนที่ส่องกระจก (ด้วยก็ดี) ตอนเช้าหลังตื่นนอน ก่อนเริ่มต้นทำกิจกรรมอื่น ๆ และก่อนเข้านอน ก่อนที่จะยุติการทำกิจกรรมอื่น ๆ ของวัน

สิ่งที่จะได้รับจากการคุยเพื่อตอกย้ำกับตัวเองเสมอ ๆ ประการแรกคือการสร้างแรงกระตุ้นเชิงบวก เมื่อมีแรงกระตุ้น มันก็จะเกิดเป็นความเชื่อใจ มั่นใจในตนเองมากขึ้น จนค่อย ๆ ผลักดันให้เราลงมือทำในสิ่งที่จะได้ผลลัพธ์เป็นบวก อยากจะลงมือทำจริง ๆ เมื่อได้ลงมือทำบ่อยขึ้น ๆ มันจะช่วยเปลี่ยนจากพฤติกรรมชั่วครั้งชั่วคราวเป็นนิสัยที่ดี นิสัยที่จะพาตัวเองไปเจอกับความสำเร็จเข้าสักวัน

แค่ลองปรับทัศนคติของตัวเอง ด้วยการพูดคุยย้ำ ๆ กับตนเอง เพื่อให้สมองได้คิดและเชื่อในตัวเองในเชิงบวก ก็จะเกิดแรงกระตุ้นให้เราทำในสิ่งที่ให้ผลลัพธ์ดี ทำด้วยความมั่นใจ เชื่อมั่น และตระหนักรู้ในคุณค่าของตนเองว่า “ที่จริง ฉันก็ทำได้นะ!”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook