3 สเต็ปของจังหวะรัก ความรักทำงานยังไงนะ

3 สเต็ปของจังหวะรัก ความรักทำงานยังไงนะ

3 สเต็ปของจังหวะรัก ความรักทำงานยังไงนะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ว่ากันว่าเนื้อคู่มักจะปรากฏตัวให้ได้รู้สึกหวั่นไหวแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งถ้าเป็นคู่แท้กันจริง ๆ ก็มักจะได้ตกหลุมรักกันแบบถูกที่และถูกเวลาด้วย แล้วเมื่อพูดถึงการตกหลุมรักใครสักคน บางคนคนอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที และสำหรับบางคนอาจใช้เวลาอยู่นานหลายปีทีเดียวถึงจะเกิดอาการตกหลุมรักฝ่ายตรงข้ามได้ นั่นหมายความว่าเนื้อคู่ของคุณอาจจะอยู่ใกล้ตัวคุณตลอดเวลามาตั้งนานแล้ว แต่เพราะว่าจังหวะมันยังไม่ได้ เลยมองข้ามกันไปข้ามกันมาเรื่อยมา

ในขั้นต่อมา เมื่อตกหลุมรักกันแล้ว จะยังรักกันได้นานแค่ไหน? ที่ต้องเอ่ยขึ้นมาแบบนี้ก็เพราะว่าความรักก็เหมือนกับสิ่งอื่น ๆ ที่พอถึงจุดหนึ่งมันก็รู้สึกอิ่มตัว บางคู่ความรักอาจจะค่อย ๆ เริ่มจืดจางลง ไม่หวานกันเหมือนเก่า จนกระทั่งหมดรักไปในที่สุด บางคู่อาจจะรู้ตัวได้ไว ต่างคนต่างปรับตัว หาโอกาสเติมความหวานให้กัน ความรักมันก็ไปต่อได้ และบางคู่อาจจะมีช่วงอิ่มตัวก็จริง แต่เมื่อผ่านจุดนั้นมาได้แล้วก็รักกันมากกว่าเดิม

ถ้าอย่างนั้นลองมาหาคำตอบกันดูไหมว่าตามจังหวะของความรู้สึกรักนั้นมีกี่ขั้น เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าความรักที่ใคร ๆ ต่างก็ปรารถนาเนี่ย มันทำงานยังไง

ขั้นที่ 1 ตกหลุมรัก
สำหรับขั้นเริ่มต้นของความรัก เริ่มขึ้นเมื่อเรา “ตกหลุมรัก” คุณจะรับรู้ได้ถึงแรงดึงดูดมหาศาลที่ทำให้คุณรู้สึกว่ากำลังตกหลุมรักใครสักคนอยู่ สารแห่งความสุขที่เรียกว่าโดปามีนจะพุ่งขึ้นถึงขีดสุด ใจเต้นถี่ เต้นเร็ว เต้นแรง นำมาซึ่งความรู้สึกวูบวาบ กระฉับกระเฉง หวิว ๆ เหมือนผีเสื้อบินวนอยู่เต็มท้อง มีความปรารถนาแรงกล้า จากการศึกษาเกี่ยวกับระบบประสาทพบว่าในช่วงที่เรารู้สึกตกหลุมรักนี้ สมองจะตื่นเต้นหนักมาก โดยเฉพาะเวลาที่เห็นหน้าคนคนนั้น ขั้นนี้อาจกล่าวว่าความรักเริ่มต้นที่สมองไม่ใช่หัวใจ เพราะเมื่อมีความรัก สมองจะทำงานเหมือนโดนสึนามิถาโถมเลยทีเดียว

สำหรับความรู้สึกที่ถูกดึงดูดนั้น มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นแบบที่เราเองก็ไม่อาจอธิบายได้ ซึ่งเรามักจะดึงดูดกับคนที่รู้สึกคุ้นเคย อาจจะเป็นหน้าตา กิริยาท่าทาง นิสัย หรือลักษณะเฉพาะตัว แต่ไม่ว่าระยะของการตกหลุมรักจะสั้นแค่ไหน มันก็สามารถผลักดันให้เราทำอะไรสักอย่างเพื่อเริ่มต้นความสัมพันธ์ ให้ไปไกลได้มากกว่าการเป็นรักแรกพบ

ขั้นที่ 2 ช่วงโปรโมชันสานสัมพันธ์
หลังจากที่คน 2 คนถูกดึงดูดด้วยแรงมหาศาลที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแล้ว ในขั้นที่ 2 คือขั้นที่คุณจะค่อย ๆ ปีนขึ้นมาจากหลุมรัก เริ่มที่จะ “สานสัมพันธ์” เพราะต่างคนต่างเริ่มรู้จักกันมากขึ้น บุคลิกที่เคยสร้างเข้าหากันจะเริ่มหายไป กลายเป็นตัวตนจริง ๆ ของคนทั้งคู่ ในขั้นนี้จะมีทั้งความคาดหวังและความปรารถนาในตัวอีกฝ่าย ซึ่งในเวลานี้เรียกว่า “คนรัก” ในช่วงแรก ๆ ที่เป็นช่วงโปรโมชัน อะไร ๆ ก็เป็นสีชมพูสวยงาม พยายามที่จะปรับตัวเพื่อให้เป็นความรักโรแมนติกแบบในละคร เป็นช่วงที่ความรักทำให้คนตาบอด

ขอให้สังเกตความเปลี่ยนแปลงต่อจากนี้ให้ดี ว่าจะพัฒนาไปสู่ความรักที่ลึกซึ้งหรือจะเซย์กู๊ดบายเพราะเห็นธาตุแท้กัน เป็นเหตุให้ในขั้นนี้จะพบกับความท้อแท้อยู่บ้าง เพราะคือช่วงที่คุณจะได้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร มากกว่าที่คุณอยากจะให้พวกเขาเป็น ความรักจะกลายเป็นความท้าทายที่คุณต้องตัดสินใจมากขึ้นในการสนองความต้องการของตนเองและคนรัก คุณอาจต้องเสียสละบางอย่างเพื่อความต้องการของคนรัก ก่อให้เกิดความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกัน

หากว่าคุณยังคงรู้สึกผูกพัน ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับตัวตนของพวกเขา หรือชอบที่พวกเขาเป็นแบบนั้น หรือไม่ได้รู้สึกว่ารักเราไม่เท่ากัน สิ่งนี้จะพาคุณไปยังความรักขั้นต่อไปได้ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จในความรักมากที่สุด คือคนที่ยอมรับตัวตนของอีกฝ่ายได้โดยไม่ต้องพยายามเปลี่ยนแปลง

ขั้นที่ 3 ผูกพันแนบแน่น
เมื่อระยะเวลาผ่านไป ระดับโดปามีนจะลดลงเป็นธรรมดา ความตื่นเต้น ความกระฉับกระเฉงเมื่อแรกรักนั้นจะสงบลง ควบคู่ไปกับความสัมพันธ์ของคุณและคนรักที่ขยับขึ้นมาถึงขั้นที่มีความผูกพัน รักลึกซึ้งแนบแน่น โดยที่ในเวลานี้สมองคุณจะหันไปเพิ่มระดับของออกซิโทซินและวาโซเพรสซินแทน เพื่อช่วยเรื่องรักษาความรู้สึกผูกพันที่คุณมีให้ยาวนาน

ความรักในขั้นนี้ไม่หวือหวาฉาบฉวยอีกต่อไป ความรักแบบตัณหาและความตื่นเต้นเร้าใจจะอ่อนโยนลงกลายเป็นสายใยความผูกพัน เป็นความรู้สึกที่คุณใส่ใจอีกฝ่ายและสนใจเรื่องสร้างอนาคตร่วมกับพวกเขา อยากจะเติบโตไปด้วยกันและเป็นมีมิตรภาพที่ดี เพราะเมื่อคุณผูกพันกับใครสักคน พวกเขาจะมีบทบาทในชีวิตของคุณ

อย่างไรก็ดี ความรักในขั้นนี้ก็สามารถไปถึงจุดที่ความผูกพันเสื่อมสลายลงได้เช่นกัน ซึ่งก็ทำให้พวกคุณตกลงที่จะจบความสัมพันธ์และแยกย้ายกันไป คุณเองก็จะเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อพูดถึงคนที่เคยรักในอดีต คุณจะไม่มีวันลืมเลือนพวกเขาเลย พวกเขาจะยังคงมีบทบาทในความทรงจำของคุณ และที่สำคัญ ประสบการณ์ระหว่างคุณกับพวกเขาจะเปลี่ยนความหมายของความรักที่เคยเข้าใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook