มูฟออนจากรักข้างเดียว เมื่อรู้ว่าตอนจบเป็นไปไม่ได้!
เรื่องน่าเศร้าเกี่ยวกับความรักนั้นมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือความรักแบบที่ “รักเขาข้างเดียว” ไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ตาม แต่ในตอนจบเขาก็ไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันกับที่เรารู้สึกกับเขาอยู่ดี กลายเป็นความเจ็บปวดจากความรักที่ไม่อาจสมหวังได้ พอรู้แบบนี้แล้ว โลกทั้งโลกแทบจะพังถล่มลงมาเลยใช่ไหมล่ะ?
การที่เรารู้สึกดี ๆ กับใครสักคน จนเริ่มแน่ใจว่ามันเป็นความรัก ใคร ๆ ก็อยากที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ไปในขั้นที่สูงกว่าที่เป็นอยู่ แต่บางทีปฏิกิริยาที่อีกฝ่ายตอบสนองกลับมานั้น ความรู้สึกเราก็บอกได้ว่ารักครั้งนี้ดูทรงแล้วไม่น่าจะมีทางสมหวังเลย ติดอยู่ในเฟรนด์โซน เป็นพี่น้อง เขามีแฟนแล้ว หรือเขาปฏิเสธด้วยตัวเองเลย ถ้ารู้ว่าโอกาสไม่ใช่แค่ศูนย์แต่เป็นติดลบ! ถ้ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ถ้ารู้ตัวเองว่าควรจะอยู่ตรงไหน ก็ควรจะหอบเอาหัวใจช้ำ ๆ ออกมาจากจุดนั้น แล้วรีบมูฟออนให้ไวไม่ใช่หรือ อย่าบั่นทอนและทรมานหัวใจตัวเองอีกเลย
ตัดให้ขาดในทุกอย่าง อย่าเห็นความเคลื่อนไหวกันอีก
หลังจากที่พิจารณาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่รักเขาข้างเดียวอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจได้แล้วว่าต้องตัดใจจริง ๆ ให้ลงมือทำเลยทันที เลิกลังเลรีรอให้มากความ หันหลังเดินออกมาเลย บอกตัวเองว่าถ้าตัดก็ต้องเอาให้ขาด เลิกสนใจ เลิกส่อง เลิกติดตาม เลิกติดต่อ ทิ้งอะไรได้ก็ทิ้ง ทำอะไรได้ก็ทำเท่าที่โอกาสจะเอื้อ มันอาจจะเป็นวิธีที่หักดิบไปเสียหน่อย แต่ถ้าใจแข็งมากพอ ควบคุมตัวเองได้ วิธีนี้เห็นผลที่สุดแล้ว แรก ๆ อาจรู้สึกจะลงแดงให้ได้ มีอาการโหยหาและทรมานใจอย่างหนักหน่วง แต่ถ้าผ่านช่วงยากลำบากมาแล้ว มันก็จะเป็นแค่ความทรงจำให้ระลึกถึงเท่านั้น
เพื่อน คือบุคคลที่มีประโยชน์ในยามนี้
เพื่อนสำคัญมากที่สุดก็ในเวลานี้แหละ เวลาที่เราต้องการให้ใครสักคนมาดึงเราออกไปจากความคิดที่ลังเลหรือจุดที่ยังมูฟออนไม่พ้น จะได้ไม่ตบะแตกกลับไปจุดเดิมทั้งที่พยายามมาตั้งนาน และก็จะได้ไม่ต้องนั่งว้าวุ่นฟุ้งซ่านอยู่คนเดียวด้วย กับเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันดีอยู่แล้ว เราไม่ต้องพูดอะไรมาก พวกเพื่อนก็จะรู้ดีว่าต้องทำอย่างไรให้เรารู้สึกดีขึ้น หรือไม่ว่าเราจะพรั่งพรูระบายอะไรให้ฟัง ก็จะฟังอย่างเข้าใจและอยู่เคียงข้างเสมอ ให้คำปรึกษา แนะนำวิธี รวมถึงให้กำลังใจดี ๆ กลับมา การได้รับพลังบวกจากมิตรภาพเนี่ย แน่นอนว่าต้องดีกว่าการพยายามอยู่คนเดียวนะ
วางแผนเรื่องการพัฒนาตัวเอง
การพัฒนาในครั้งนี้เป้าหมายก็เพื่อให้เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้เขาหันมาสนใจ ไม่ใช่ทำเพื่อให้มีใครคนใหม่เข้ามา แต่จงทำเพื่อตัวเราเอง อยากทำอะไร ถ้าคิดว่าดีต่อตัวเองก็ทำเลย จะออกกำลังกาย ลดความอ้วน แต่งสวยแต่งหล่อ เปลี่ยนลุคเพื่อให้มั่นใจกว่าเดิม หางานอดิเรกทำ ลงคอร์สเรียนภาษา หรือจะมีไฟลงเรียนต่อเก็บปริญญาอีกใบไปเลยเก๋ ๆ ก็ตามสะดวก มีประโยชน์และมีความสุขก็ทำไป ทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์มากกว่านั่งหมกมุ่นอยู่กับความคิดลบ ๆ ว่าตัวเองไร้ค่า โทษตัวเองว่าดีไม่พอ ต้องรักตัวเองให้มากกว่าที่รักเขานะ
ยังไม่ลืมน่ะได้แต่อย่าปิดกั้นที่จะมีคนใหม่ ๆ
อย่ารีบร้อนตีโพยตีพายว่าทำไมยังตัดใจจากเขาไม่ได้เสียที คือเพิ่งจะเริ่มหักดิบได้วันหรือสองวันเอง ควรต้องให้เวลาตัวเองหน่อย รู้สึกกับเขามาตั้งนาน จะมาดีขึ้นหรือลืมใครภายในเวลาอันรวดเร็วนั้นเป็นไปไม่ได้ แต่ถึงแม้ว่าจะยังไม่ลืม ก็อย่าให้ความจำที่ยังยึดติดมาพรากโอกาสดี ๆ อะไรไป ลองออกไปพบปะทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ บ้าง และถ้าเจอคนที่ถูกตาต้องใจก็ไม่ต้องนึกรู้สึกผิดกับคนเก่าหรอกว่าอะไรจะเลิกรักง่ายขนาดนั้น ก็เป้าหมายเราต้องมูฟออนไง บางทีการที่เราได้หันเหความสนใจไปคลั่งรักคนใหม่ เราอาจจะเทคนเก่าได้ง่ายขึ้นก็ได้นะ
ยอมรับความจริงว่าเรายืนอยู่ตรงไหนในชีวิตของเขา
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่าเราอยู่ส่วนไหนในชีวิตของเขา ซึ่งมันเป็นจุดที่จะให้เป็นมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว เลิกหวังลม ๆ แล้ง ๆ กับสิ่งที่รู้แก่ใจว่าไม่มีวันเป็นจริง ทั้งเฟรนด์โซนที่ข้ามเส้นไม่ได้ คิดแค่พี่น้อง หรือแม้กระทั่งคนอัธยาศัยดีที่มีแฟนแล้ว การรอคอยความรักจากคนที่ไม่มีใจน่ะสุดแสนจะบั่นทอน แล้วถ้าเขาไม่มีใจให้ ก็อย่าไปตัดสินเขา ไม่ใช่ความผิดของเขาซะหน่อยนะที่ไม่รู้สึกแบบเดียวกับเรา ถ้ายอมรับได้แล้วก็ตัดสินใจจบเถอะ เสียใจก็แค่ร้องไห้ เมื่อถึงจุดหนึ่งกลไกการตอบสนองของเราก็จะทำงาน รับความเจ็บปวดได้ดีขึ้นเอง