#แฮชแท็ก อย่างไร ให้ตรงใจเหล่าโซเชียล

ถ้าอยากให้ลูกค้าหาร้านเราเจอแบบวงกว้าง ไม่มีการปิดกั้นระบบ ไม่ว่าคุณจะเล่นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม หรือค้นหาผ่านกูเกิล แฮชแท็ก คือคำตอบ และยังเป็นคนที่สนใจเรื่องเดียวกับเราแน่ ๆ

ซึ่งแฮชแท็กฮิต ๆ เช่น #ฝากร้าน #ร้องไห้หนักมาก #ความรักก็เช่นกัน #ส่งฟรีทั้งร้าน #nofilter #ชีวิตดี๊ดี #ขนม #กาแฟ #ถูก ถูกที่หรือมีจำนวนที่ถูกทางหรือไม่ อย่างไร www.searchenginejournal.com เผยถึงยุทธวิธีใช้แฮชแท็กให้ประสบความสำเร็จ ดังนี้

การติดแฮชแท็กบนทวิตเตอร์มีหลักง่าย ๆ คือ ไม่ควรติดเกิน 2 ครั้ง กลุ่มที่ติดแท็ก 2 ครั้งมีผู้เข้าร่วมในการทวีต/คลิกอ่าน/กดชื่นชม และตอบกลับสูงขึ้น 21% มีการรีทวีตจากทวีตสูงถึง 55% ส่วนทวีตที่มีแฮชแท็กมากกว่า 2 อัน พบว่ามีการทวีต/คลิกอ่าน/กดชื่นชมเพียง 17% ซึ่งคนที่ติดแฮชแท็กจะได้รับการรีทวีตข้อความสูงถึงร้อยละ 40 ขณะที่คนที่ไม่ติดแฮชแท็กได้รับการรีทวีตแค่ร้อยละ 25 เท่านั้น

แต่ในทางกลับกันเทคนิคการติดแฮชแท็กบนอินสตาแกรมกลับเน้นการติดแฮชแท็กแบบรัว ๆ พบว่าโพสต์ที่ได้รับความสนใจต้องติดแฮชแท็กไม่ต่ำกว่า 11 อัน !! (แม่เจ้าย้ำว่า 11 อัน) วัดจากผู้ที่มีคนติดตาม 1 พันคน พบว่าโพสต์ที่มีแฮชแท็กมียอดการปฏิสัมพันธ์ เช่น ไลก์ คอมเมนต์ มากกว่าโพสต์ที่ไม่มีแฮชแท็กถึง 70% ฉะนั้น แม่ค้าในไอจีติดแฮชแท็กรัว ๆ ค่ะ

ด้านเฟซบุ๊กนั้นพฤติกรรมแฮชแท็กดูจะเสื่อมถอยกว่าสังคมโซเชียลใด ๆ เพราะพบว่าการติดแฮชแท็กทำให้โพสต์นั้น ๆ เข้าถึงลูกเพจเพิ่มจากการไม่ติดเพียง 0.5% เท่านั้นเอง แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มก็มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่ติดแฮชแท็ก 1-2 อันจะมีคนเข้าถึงข้อมูลสูงสุด รองลงมาคือ ติด 3-5 อัน และ 6-10 อันตามลำดับ แต่เมื่อติดมากกว่า 10 อันพบว่าผู้อ่านก็เริ่มลดลง ซึ่งมองว่าเฟซบุ๊กนิยมเสพเนื้อหาที่ไม่เยอะมาก ไม่ซับซ้อน เก็ตได้ไว เพราะบางครั้งแฮชแท็กก็มาจากที่มาหลาย ๆ ประเด็น

ส่วนแฮชแท็กบนกูเกิลพลัส Google+ จะเป็นแบบอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับเนื้อหาที่โพสต์ แต่ผู้เขียนก็สามารถเปลี่ยนหรือแก้ให้เป็นตามที่ต้องการได้ (Edit) เทคนิคการติดก็เน้นติดทั้งในโพสต์และในคอมเมนต์ก็ได้ เพื่อเพิ่มการรับรู้แก่ผู้อื่น นอกจากนี้ ยังสามารถหาไอเดียและรู้ความสนใจของคนจากปุ่มแฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง Related Hashtags เพราะแฮชแท็กเหล่านี้มาจากการประมวลจากการโพสต์ของคนอื่น ๆ ที่ผ่านมา

โพสต์คราวหน้าก็อย่าลืม (#) ในจำนวนที่ตรงกับพฤติกรรมของแต่ละโซเชียล ส่วนคำก็ลองดูคำฮิตที่ตรงกับคอนเทนต์ หรือใครจะโหนกระแสก็เลือกเอาได้

(ที่มา:ประชาชาติธุรกิจ ฉบับ 30 เมษายน-3 พ.ค.2558)