“แรงบันดาลใจ” ในชีวิต เราหาได้จากไหนบ้าง
ยุคสมัยที่ทำให้คนเครียดกับการดำเนินชีวิต สับสนในการค้นหาตัวเอง เหน็ดเหนื่อยกับการเดินตามฝันเพื่อมุ่งหน้าไปหาความสำเร็จ อาจเปลี่ยนชีวิตของคนคนหนึ่งที่เคยมีพลังล้นเหลือ มีไฟที่ลุกโชน มีไอเดียร้อยแปด มีความหลงใหลในอะไรบางอย่างอย่าแรงกล้า ทำอะไรก็ต้องไปให้สุด กลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตเหมือนแบตหมด ฟันเฟืองต่าง ๆ เริ่มที่จะหมุนช้าลง ความตื่นเต้นท้าทาย แรงบันดาลใจที่จะใช้ชีวิตที่เคยมีถูกแทนที่ด้วยความน่าเบื่อหน่าย หมดอาลัยตายอยาก และมีชีวิตแบบซังกะตายไปวัน ๆ ไม่อยากจะทำอะไรเลยนอกจากรอให้วันนี้ผ่านไป
ถ้าอาการหนักขนาดนี้ เรากำลังขาดแรงบันดาลใจในการผลักดันตนเอง หรือขาดสิ่งจูงใจที่อยากจะใช้ชีวิตหรือเปล่า ปกติแล้วแรงบันดาลใจจะเป็นพลังอำนาจที่เราใช้ในการขับเคลื่อนความคิดและการกระทำต่าง ๆ ที่พึงประสงค์ ให้บรรลุผลสำเร็จตามที่คาดหวัง แต่พอเราขาดสิ่งนี้ไป ก็เลยไม่มีอะไรมากระตุ้นให้เกิดความคิดและการกระทำในสิ่งที่พึงประสงค์เหมือนเช่นเคย นี่อาจถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องตามหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้กับชีวิต ก่อนที่ชีวิตจะเหี่ยวเฉาไปมากกว่านี้
ออกไปพบปะผู้คนใหม่ ๆ
ถ้าได้ออกเดินทางไปพบผู้คนใหม่ ๆ จงอย่าพลาดโอกาสที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติกับพวกเขา สิ่งนี้สามารถสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้เราได้อย่างน่ามหัศจรรย์ บางทีอาจรู้สึกได้ถึงการเปิดโลก ปกติแล้วเราไม่มีทางที่จะรู้ว่าใครเป็นอย่างไรถ้าเขาไม่พูดมันออกมา ซึ่งคำพูดจากปากไม่กี่คำก็ทำให้เห็นแล้วว่าคนนี้มีทัศนคติอย่างไร คนที่เราเดินสวนไปมาทุกวันอาจมีอะไรดี ๆ ที่ช่วยจุดประกายไอเดียเราก็ได้ แค่ลองเข้าไปคุย ยิ่งเป็นคนแปลกหน้าต่างถิ่น เติบโตมาไม่เหมือนกัน การพูดคุยกับพวกเขา อาจทำให้เราได้เห็นอะไรบางอย่างที่เราไม่เคยนึกถึงมาก่อนเลยก็ได้
หนังสือที่อ่าน
บุคคลที่ประสบความสำเร็จระดับโลก ไม่เคยเว้นว่างจากการอ่านหนังสือ เพราะหนังสือทุกเล่มช่วยให้พวกเขาพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ แล้วทำไมคนธรรมดาอย่างเราถึงจะมองข้ามข้อดีของหนังสือไปล่ะ การอ่านหนังสือไม่ได้แค่ทำให้เรามีความรู้มากขึ้น แต่ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง และช่วยพัฒนาความจำ โดยเราสามารถหาแรงบันดาลใจได้จากหนังสือแนวจิตวิทยา ปรัชญา การพัฒนาตนเอง หรือพวกอัตชีวประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต มักมีข้อคิดดี ๆ ที่นำมาใช้ได้
บุคคลที่เป็นไอดอล
บางทีแรงบันดาลก็มาในรูปแบบของบุคคล คนที่เราสามารถเรียกว่าเขาว่าเป็นไอดอล ยกให้เป็นต้นแบบของการใช้ชีวิต อาจจะเป็นใครสักคนก็ได้ที่เราเห็นการใช้ชีวิตของเขาแล้วรู้สึกประทับใจ สัมผัสได้ว่าเขาทำให้ไฟในตัวเราที่มันเริ่มมอดลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง แบบว่าเมื่อเห็นเขาประสบความสำเร็จ ในใจเราจะไม่ได้มีแค่ความรู้สึกชื่นชมยินดีร่วมไปกับเขา แต่มันจุดประกายฝันว่า “ฉันอยากจะเป็นแบบนั้นบ้าง” โดยเขาคนนั้นจะเป็นใครก็ได้ อาจเป็นคนรอบตัวที่เรารู้จักในชีวิตจริง หรือเป็นบุคคลสาธารณะอย่างศิลปิน นักแสดงก็ได้ ถ้าเจอแล้วอย่ารอช้า วางแผนชีวิตตนเองได้เลย
เปลี่ยนบรรยากาศรอบตัว
บรรยากาศรอบตัวที่แสนน่าเบื่อ ลืมตาขึ้นมาก็พบเจอแต่สิ่งเดิม ๆ ทำแต่กิจวัตรเดิม ๆ ชีวิตที่ซ้ำซากจำเจแบบนี้มีผลต่อกระบวนการคิดของเรา ลองนึกถึงตอนที่เราต้อง Work From Home แบบไม่ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาเลยเป็นเดือน ๆ ดูสิ ทั้งอึดอัดทั้งอุดอู้ทั้งหดหู่ ไม่แปลกใจเลยที่ใครหลายคนจะหมดไฟ ฉะนั้น ต้องพาตัวเองออกจากกรอบเดิม ๆ นี้ ไปเจออะไรที่มันน่าตื่นเต้น ทำให้รู้สึกตื่นตัวกระปรี้กระเปร่าดูบ้าง อาจจะช่วยให้ผุดไอเดียบรรเจิดขึ้นมาแบบบังเอิญ ๆ ก็ได้ จริง ๆ แล้วแรงบันดาลใจมีอยู่ทั่วไป เพียงแต่เราต้องออกไปหาเท่านั้นเอง ค้นหาทั้งแรงบันดาลใจและตัวเอง
ความผิดพลาด เรียนรู้จากมันสิ
บ่อยครั้งที่ความผิดพลาดหรือความล้มเหลวไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เพียงแต่เรากลัวที่จะต้องรับมือกับความผิดหวังเท่านั้นเอง มันอาจทำให้เราเสียศูนย์อยู่พักหนึ่งก็จริง แต่ในวันที่เรากลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง โดยตั้งใจที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ในครั้งนั้น มันจะกลายเป็นแรงบันดาลใจและแรงผลักดันในการเริ่มต้นใหม่ที่น่าทึ่งมาก ความผิดพลาดและความล้มเหลวทำให้เราเติบโต ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ทำให้ความพยายามมีคุณค่าทางจิตใจ เพราะต้องอดทนและตั้งใจมากกว่าเดิม ความสำเร็จที่สร้างขึ้นมาใหม่บนซากปรักหักพังในอดีตจึงหอมหวานกว่าที่ผ่านมา