การให้เครดิตเพื่อนร่วมงานสำคัญแค่ไหน?
“หัวไม่แล่น คิดงานไม่ออก ไม่มีไอเดียทำงาน” เป็นอุปสรรคในการทำงานที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ทั้งนั้น ด้วยสถานการณ์บังคับหรือระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้บางทีเราก็จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะขอให้เขาช่วยนิดหน่อย ๆ ช่วยเป็นส่วนใหญ่ หรือขอให้ช่วยแค่ออกไอเดียก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่าเราไม่ได้จบงานชิ้นนี้ด้วยตนเองทั้งหมด โดยเฉพาะการออกไอเดีย ที่ตอนแรกเราเองก็คิดไม่ออกหรือคิดไปผิดทาง ก็ได้เพื่อนร่วมงานช่วยเหลือดึงกลับมาให้อยู่เข้ารูปเข้ารอย หรือถ้าไม่ได้ไอเดียเริ่มต้นจากพวกเขา ก็อาจจะไม่มีผลงานชิ้นนี้เลยก็ได้
ดังนั้น สิ่งที่เราควรทำให้เป็นปกตินิสัยหากมีเพื่อนร่วมงานยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเรื่องงานจนผ่านพ้นไปได้ด้วยดีและอาจได้รับคำชมเชย นั่นก็คือ การขอบคุณและการให้เครดิตเพื่อนร่วมงาน ต้องไม่ลืมว่าพวกเขาก็มีส่วนร่วมในงานชิ้นนั้นด้วย ต่อให้เป็นเพียงความคิดเห็นเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เราก็นำมันมาใช้ประโยชน์จนงานสำเร็จ จึงควรต้องให้เครดิตความคิดของพวกเขาเสมอจะดูเป็นมืออาชีพกว่า เพราะถ้าไม่ได้ชิ้นส่วนเล็ก ๆ นี้เข้ามาเติมเต็ม ผลงานที่สำเร็จและเรากำลังภาคภูมิใจอยู่นี้อาจไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่เห็น
นี่คือเหตุผล 5 ข้อ ว่าทำไมการให้เครดิตเพื่อนร่วมงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ และเราจำเป็นต้องให้เครดิตพวกเขาเสมอเมื่อพวกเขาให้ความช่วยเหลือและมีส่วนร่วมในงานที่สำเร็จนี้
เป็นมารยาท
การให้เครดิตกับเจ้าของไอเดียที่เรานำไอเดียของเขามาใช้นั้น ถือเป็นมารยาททางสังคมอย่างหนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม และไม่ว่าเราจะนำไอเดียที่พวกเขาเสนอมาใช้ทั้งหมด หยิบมาเฉพาะบางส่วน หรือนำมาประยุกต์ต่อยอด เราก็ควรต้องให้เครดิตพวกเขาเสมอ ในเมื่อเราไม่ได้เป็นคนคิดไอเดียนั้นขึ้นมาเอง ไม่เช่นนั้นมันอาจจะเป็นการขโมยไอเดียก็เป็นได้ แม้ว่าจะไม่มีใครรู้เห็นตอนที่เพื่อนร่วมงานช่วยเราคิดงาน แต่เราก็รู้อยู่แก่ใจว่านี่เป็นสิ่งที่พวกเขาคิด ดังนั้น ต้องรักษามารยาทที่นำเอาไอเดียพวกเขาไปใช้ ไม่ต้องเล่นใหญ่อะไร แค่ไม่ลืมกันก็พอแล้ว
คือการให้เกียรติกัน
สิ่งที่คนทำงานทุกคนรู้ก็คือ ไอเดียล้ำ ๆ เจ๋ง ๆ นั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาง่าย ๆ ต้องอาศัยการค้นคว้า ประสบการณ์ ใช้พลังงานและสมองเค้นออกมา กว่าจะได้ไอเดียที่ไม่เพ้อเจ้อเกินไปและเจ้านายซื้อ คนที่คิดก็ต้องสละเวลามาคิด แค่ไอเดียก็มีต้นทุน ถ้าไอเดียที่ได้มาจากเพื่อนร่วมงานทำให้งานที่ออกมาได้รับผลตอบรับที่ดีขนาดนี้ ต้องยอมรับว่างานนี้ได้พวกเขาช่วยเหลือ การให้เครดิตโดยบอกกับคนอื่นว่าที่งานนี้สำเร็จก็เพราะมีคนอื่น ๆ มีส่วนช่วยอยู่เบื้องหลัง ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขา ในเมื่อมันไม่ใช่ความคิดของเราตั้งแต่ต้น อย่าชุบมือเปิบภาคภูมิใจคนเดียวเลย
สร้างสัมพันธภาพที่ดี
ความไม่พอใจในตัวเพื่อนร่วมงานที่ทำงานด้วยกันทุกวัน ส่วนใหญ่เริ่มต้นมาจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ค่อยสะสมใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นความคับแค้นใจ ลองคิดเล่น ๆ ดูว่าตัวเราจะรู้สึกอย่างไรเมื่องานชิ้นนี้เป็นไอเดียของเรา แต่กลับถูกคนอื่นนำไปใช้จนได้ดิบได้ดี มันไม่ใช่ความอิจฉา แต่การถูกแย่งซีนหรือถูกปาดหน้าเค้กแบบนี้เป็นใครก็รู้สึกไม่พอใจได้ทั้งนั้น เขาได้คำชื่นชมจากเจ้านาย แต่เราที่เป็นคนคิดไม่ได้รับแม้แต่คำขอบคุณ เครดิตที่จะอ้างถึงเหรอ อย่าได้หวัง! ฉะนั้น ถ้าไม่อยากถูกเกลียดหรือโดนหมั่นไส้ ก็อย่าลืมบอกว่ามีคนอื่น ๆ ที่มีส่วนร่วมกับงานนี้ เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดี
กลายเป็นผู้ร่วมงานที่น่ารัก
การให้เครดิตกับเพื่อนร่วมงานที่มีส่วนช่วยในงานนั้น ๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่เหลือบ่ากว่าแรงเลย พวกเขาอาจไม่ได้ต้องการให้เราเลี้ยงข้าวมื้อใหญ่ตอบแทน แค่บอกที่มาที่ไปกับเจ้านายว่าไอเดียนี้มันมาจากไหน หากเราไม่ได้เป็นคนคิดเอง เราแค่รับมาทำต่อ ความดีความชอบส่วนหนึ่งมาจากคนที่ออกไอเดีย เวลาที่ได้หน้าก็ได้ด้วยกัน ได้รับคำชมก็เผื่อแผ่มาถึง มันเป็นเรื่องที่ดีต่อใจคนทำงานที่ไม่ถูกลืมหรือถูกถีบหัวส่งอย่างไร้ประโยชน์ และเราก็จะกลายเป็นเพื่อนร่วมงานที่น่ารักน่าเอ็นดู ที่ไม่ลืมความช่วยเหลือจากพวกเขา นั่นจะทำให้พวกเขาเต็มใจช่วยเหลือเราทุกครั้งที่เราต้องการ
ส่วนสำคัญในการทำงานเป็นทีม
การทำงานในบริษัทส่วนใหญ่จะต้องทำงานร่วมกันกับคนอื่น ๆ เป็นหลัก ต่อให้แต่ละคนมีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะของใครของมัน แต่งานในภาพรวมก็ยังเป็นทีมอยู่ดี จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากเพื่อนร่วมงานหลาย ๆ คน เพื่อแสดงออกว่าเราทำงานเป็นทีมเป็น ต้องสละความเห็นแก่ตัว สละประโยชน์ส่วนตัวลง ทุกอย่างคือการทำเพื่อทีม การให้เครดิตจะสำคัญก็ตรงนี้ ช่วยให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกเต็มใจที่จะอยู่ทีมเดียวกับเรา มั่นใจได้ว่างานทุกชิ้นจะไม่มีใครมารับความดีความชอบเข้าตัวแค่คนเดียว ความจริงใจเล็กน้อยช่วยซื้อใจ และการยอมรับกันและกันได้มากทีเดียว