5 พฤติกรรมการกินที่ควรหลีกเลี่ยงหลังการออกกำลังกาย
เป็นที่รู้กันว่าหากอยากเป็นคนที่มีสุขภาพดี นอกจากการออกกำลังกายแล้ว การเลือกรับประทานอาหารก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญเช่นกัน หลาย ๆ คนจึงพยายามที่จะใส่ใจทั้งการออกกำลังและการเลือกรับประทานอาหารควบคู่กันไป
หากเมื่อพูดถึงโภชนาการหลังออกกำลังกาย จริง ๆ แล้วก็มีแนวทางหลายประการที่ทำแล้วจะเป็นผลดีต่อสุขภาพ แต่ก็มีอยู่หลายข้อเหมือนกันที่ทำให้ใครหลายคนเข้าใจผิด จนนำไปสู่การปฏิบัติที่ผิด ๆ และในท้ายที่สุดก็ส่งผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ต่อร่างกาย นี่คือ 5 พฤติกรรมการกินที่ควรหลีกเลี่ยงหลังการออกกำลังกาย โดยต้องเตือนตัวเองไว้เสมอว่า “การใส่ใจกับอาหารหลังการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันคือช่วงของการปรับกู้ร่างกายคืนหลังจากเผาผลาญแคลอรี่ทิ้งไป” แนะนำโดย Erin Kenney นักโภชนาการ และ CEO ของ Nutrition Rewired
1. กินสลัดทันทีหลังออกกำลังกาย
สลัดผักล้วนเป็นมื้ออาหารที่ควรจะข้ามไปก่อนหลังออกกำลังกายเสร็จใหม่ ๆ หรือถ้าจะรับประทานจริง ๆ ก็ควรจับคู่กับอาหารชนิดอื่น แม้ว่าสลัดผักจะมีไฟเบอร์สูงก็จริง แต่หลังจากที่ร่างกายเผาผลาญพลังงานไปกับการออกกำลังกายแล้ว ร่างกายก็ต้องการพลังงานมาเติมในส่วนที่สูญเสียไปมากกว่าที่จะต้องการไฟเบอร์ เพื่อให้มีพลังงานเพียงพอต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เพราะฉะนั้น หลังออกกำลังกายควรเลือกรับประทานอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกายอย่างรวดเร็ว เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน
2. จิบเครื่องดื่มเกลือแร่หลังออกกำลังกาย
คนปกติมักจะใช้เวลาครั้งละประมาณ 60-90 นาทีในการออกกำลังกาย ซึ่งมันไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมีเครื่องดื่มเกลือแร่ติดตัวไว้เพื่อดื่มหลังออกกำลังกาย เพราะจริง ๆ แล้วการรับประทานอาหารอย่างสมดุล อาหารที่ให้พลังงาน และน้ำดื่มธรรมดาก็เพียงพอแล้วที่จะรักษาสมดุลของเกลือแร่ในของเหลวของร่างกายให้เป็นปกติและเติมเต็มไกลโคเจนในกล้ามเนื้อ อีกประการที่สำคัญก็คือเครื่องดื่มเกลือแร่ส่วนใหญ่มักจะมีน้ำตาลสูง (น้ำตาลในเครื่องดื่มเกลือแร่เป็นกลูโคส) และสารเติมแต่งอื่น ๆ สูง จึงไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพร่างกายตนเอง
3. ไม่ดื่มน้ำ
หลังจากออกกำลังกาย สิ่งที่เราจะสูญเสียนอกจากพลังงานที่เผาผลาญไปแล้ว เรายังสูญเสียของเหลวในร่างกายที่ออกมาในรูปแบบของเหงื่อด้วย ฉะนั้นแล้ว ทำไมเราถึงไม่ดื่มน้ำหลังจากที่ออกกำลังกายล่ะ? ซึ่งอันที่จริงการดื่มน้ำหลังออกกำลังกายก็สำคัญพอ ๆ กับการจิบน้ำก่อนและระหว่างที่ออกกำลังกายนั่นเอง เมื่อเราออกกำลังกายจนเหงื่อออก ร่างกายจะสูญเสียของเหลวไป เราจึงต้องดื่มน้ำเข้าไปเพื่อชดเชยของเหลวที่ร่างกายขับออกมา ยิ่งเหงื่อออกมากก็ยิ่งต้องการน้ำมาก
สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาหากคุณไม่ดื่มน้ำหลังจากออกกำลังกาย คือ ภาวะร่างกายขาดน้ำ หากปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำมาก ๆ เข้าอาจเกิดอาการปวดศีรษะ เหนื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อ มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ดังนั้น ควรตั้งเป้าที่จะดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 แก้ว หลังจากออกกำลังกาย (ค่อย ๆ จิบ อย่าดื่มพรวดเดียว) และต้องดื่มให้มากขึ้นอีกหากคุณออกกำลังกายหนักขึ้น หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนและชื้น รวมถึงหากคุณเป็นคนที่มีภาวะเหงื่อเค็ม คุณอาจจะเป็นตะคริวได้เลยทีเดียว
4. ไม่กินคาร์โบไฮเดรต
หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าโปรตีนเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการหลังจากออกกำลังกาย แต่ความจริงแล้วคาร์โบไฮเดรตก็สำคัญไม่แพ้กัน อีกทั้งยังกลัวคาร์โบไฮเดรตกันเกินเหตุด้วย ต้องไม่ลืมว่าคาร์โบไฮเดรตก็เป็นหนึ่งในอาหารหลัก 5 หมู่ที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับ ซึ่งถ้าหากพิถีพิถันในการเลือกคาร์โบไฮเดรตสักหน่อยก็จะรู้ว่ามันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น โดยคาร์โบไฮเดรตถือเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกายที่ค่อนข้างจำเป็นหลังออกกำลังกาย การรับโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตจะช่วยในกระบวนการฟื้นฟูไกลโคเจน ช่วยสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และเตรียมความพร้อมสำหรับการออกกำลังกายในครั้งต่อไปด้วย
5. ไม่กินอะไรเลย
หลายคนเลือกใช้วิธีที่หักโหมในการลดความอ้วนหรือลดน้ำหนัก อย่างการออกกำลังกายอย่างหนักและงดอาหารควบคู่กันไปเพื่อให้ผอมหรือน้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว เผาผลาญแคลอรี่ออกมาก ๆ แล้วไม่นำแคลอรี่เข้าไปเพิ่มเพราะอยากผอมเร็ว ทั้งที่รู้ดีว่าวิธีการแบบนี้มันทำลายสุขภาพในระยะยาวมากกว่า ถ้าไม่อยากตายผ่อนส่ง และอยู่กับสุขภาพพัง ๆ ไปตลอดชีวิต ต้องรู้ว่าสิ่งสำคัญคือการทำให้ตนเองมีสุขภาพที่ดีไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาจะผอมเพียงอย่างเดียว หลังออกกำลังกายเผาผลาญแคลอรี่ออก ก็ต้องกินเติมเข้าไปเพื่อรักษาระดับพลังงานให้สมดุล เพียงแต่อาจจะต้องเลือกรับประทานหน่อย เพื่อช่วยลดฮอร์โมนความเครียดและปรับระดับน้ำตาลในเลือดตลอดทั้งวัน