ล้วงลึกนาฬิกาเรือนโปรด คิม ซู ฮยอน สถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจ และแนวทางในการใช้ชีวิต
การเดินทางท่องโลกกว้างนับว่าเป็นหนึ่งวิธีที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างดีเยี่ยม เชื่อว่าตอนนี้ใครหลายคนคงคิดถึงบรรยากาศการเดินทางไปท่องเที่ยวตามประเทศต่างๆอย่างแน่นอน และในครั้งนี้ “มิโด” (MIDO) ได้เฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี แห่งแรงบันดาลใจในการออกแบบเรือนเวลาจากสถาปัตยกรรมระดับโลกในคอลเลกชั่น “ทเวนตี้ เยียร์ส อินสไปร์ บาย อาคิเทคเจอร์” (20 Years Inspired by Architecture) พร้อมจับเข่าคุยกับแบรนด์แอมบาสเดอร์หนุ่มชื่อดัง “คิม ซู ฮยอน” (Kim Soo-Hyun) ถึงนาฬิกาเรือนโปรด สถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจ และแนวทางในการใช้ชีวิตอีกด้วย ซึ่งหากพูดถึงแบรนด์ “มิโด” (MIDO) ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน และนวัตกรรมอันโดดเด่นนั้น ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนุ่ม “คิม ซู ฮยอน” (Kim Soo-Hyun) ถึงได้ชื่นชอบเป็นพิเศษ
“มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (Georges Schaeren) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.Schaeren & Co. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน
แบรนด์แอมบาสเดอร์หนุ่มชื่อดัง “คิม ซู ฮยอน” (Kim Soo-Hyun) ได้กล่าวถึงนาฬิกาเรือนโปรด และสถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจว่า “ผมได้ร่วมงานกับมิโด (MIDO) มาตั้งแต่ปี 2020 แล้ว และผมก็ได้เห็นถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นาฬิกาที่มาจากสถาปัตยกรรมชื่อดังระดับโลกมากมาย ซึ่งมันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะอยากลองไปสัมผัสความสวยงามของสถานที่นั้นๆ สักครั้ง และแน่นอนว่ามีหลายที่ ที่ผมอยากจะไปมากๆ แต่หากให้เลือกได้เพียง 2 ที่ ผมคงเลือกสะพานฮาร์เบอร์ ประเทศออสเตรเลีย และโคลอสเซียม ประเทศอิตาลี เพราะช่วงนี้ผมมักจะไปปั่นจักรยานที่แม่น้ำฮันค่อนข้างบ่อย ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ก็คงจะดี ถ้าได้ไปปั่นจักรยานที่สะพานฮาร์เบอร์ในซิดนีย์ เพราะวิวเมื่อมองลงมาจากสะพานมีความงดงามมาก และแน่นอนว่าอีกสถานที่ที่ดึงดูดผมมากที่สุด คงหนีไม่พ้นโคลอสเซียม ที่เพียงแค่มองจากภาพถ่ายก็สามารถสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่และประวัติศาสตร์อันยาวนานแล้ว และคงไม่ต้องถามนะครับ ว่านาฬิกาคู่ใจของผมคือรุ่นไหน เพราะแน่นอนว่าต้องเป็นออล ไดอัล (All Dial) ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอัฒจันทร์โคลอสเซียมนั่นเอง”
โดย "ออล ไดอัล" (All Dial) เป็นนาฬิกาที่ได้แรงบันดาลใจจากอัฒจันทร์โคลอสเซียม (Colosseum) สิ่งมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิโรมัน ได้ถูกถ่ายทอดสู่นาฬิกาที่มีความสวยงามเหนือกาลเวลา พร้อมกลไกที่ทนทานต่อการใช้งาน ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์จากการออกแบบหน้าปัดทรงกลม พร้อมตกแต่งด้วยเส้นสายวงกลมหลากหลายระดับที่ทำให้นึกถึงอัฒจันทร์เมื่อมองจากด้านบน พร้อมเทคนิคการทำสีแอนทราไซต์ (Anthracite) ให้พื้นผิวบริเวณหน้าปัดมีสัมผัสเหมือนเนื้อทรายชวนให้นึกถึงหินอายุนับพันปีของอัฒจันทร์ โดยตัวเรือนนั้นทำจากเหล็กขนาด 42 มิลลิเมตร และหน้าปัดทำจากคริสตัลแซฟไฟร์ที่มีระบบป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน พร้อมสายรัดเหล็กเคลือบซาตินที่ทำทำให้นึกถึงส่วนโค้งของอัฒจันทร์
บริเวณด้านหลังตัวเรือนยังถูกสลักด้วยภาพวาดของ โคลอสเซียม (Colosseum) และชื่อแบรนด์ ‘MIDO’ เอาไว้อีกด้วย สำหรับด้านการใช้งาน "ออล ไดอัล" (All Dial) มาพร้อมฟังก์ชั่นการอ่านค่าเวลาที่มีความเที่ยงตรงแม่นยำสูงด้วยกลไกโครโนมิเตอร์ที่รับรองโดยสถาบันทดสอบความเที่ยงตรงของนาฬิกาแห่งสวิตเซอร์แลนด์ (Official Swiss Chronometer Testing Institute หรือ COSC) และสามารถสำรองพลังงานได้ยาวนานถึง 38 ชั่วโมง โดยชิ้นโรเตอร์ขึ้นลานยังได้รับการตกแต่งด้วยลายโกตส์ เดอ เฌอแนฟ (‘Côtes de Genève’) และเพื่อให้อ่านค่าเวลาได้ง่ายในตอนกลางคืน เข็มนาฬิกาและช่องวันที่ที่ติดตั้งอยู่บริเวณ 3 นาฬิกา ได้ถูกเคลือบด้วยสารสะท้อนแสงซูเปอร์ ลูมิโนวา (Super-LumiNova) พร้อมฟังก์ชั่นการกันน้ำได้สูงสุดถึง 100 เมตร
นอกจากนี้ “คิม ซู ฮยอน” (Kim Soo-Hyun) ยังได้เล่าถึงแนวทางในการใช้ชีวิตแบบส่วนตัวว่า “ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม แรงบันดาลใจคือสิ่งสำคัญมากสำหรับผม ซึ่งทุกครั้งที่ผมต้องการแรงบันดาลใจ ผมมักจะหาแรงบันดาลใจจากการออกไปเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมและงานศิลปะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ของโซลเป็นสิ่งที่ผมกำลังอินมาก เพราะด้วยดีไซน์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และมีความโมเดิร์นของสีสัน สามารถกระตุ้นให้ผมมีพลังที่จะสร้างสรรค์ผลงานให้โดดเด่นและพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่ต่างจากแบรนด์มิโด (MIDO) ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบนาฬิกาจากสถาปัตยกรรมระดับโลกให้มีความร่วมสมัยแต่ยังคงกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์”