พนักงาน 64% อาจลาออกถ้าต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน

พนักงาน 64% อาจลาออกถ้าต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน

พนักงาน 64% อาจลาออกถ้าต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

         หลายคนอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับ The Great Resignation หรือการลาออกครั้งยิ่งใหญ่ของพนักงานช่วงจากโควิดเริ่มซาและเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ตอนนั้นเป็นกระแสอย่างมาก หลายคนมองว่าคงไม่ แต่พอช่วงที่โควิดเริ่มเบาลงจริงๆ อาจจะต้องคิดใหม่เพราะมีผู้คนจำนวนมากเลือกย้ายงานและผลสำรวจหนึ่งชี้ว่า 64% อาจจะลาออก ย้ายงานหากต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน 

          ย้อนกลับไปเรื่อง The Great Resignation  สิ่งนี้เกิดขึ้นในหลายๆ ที่ทั่วโลก อย่างในสหรัฐอเมริกาเคยมีสถิติสูงสุดราวเดือนละ 4 ล้านคน สาเหตุหลักๆ คือปัจจัยในการทำงานที่เปลี่ยนไปหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น 

พนักงานได้เรียนรู้ว่าเวลาทำงานสามารถยืดหยุ่นได้ ไม่จำเป็นที่ต้องทำที่ออฟฟิศเต็มเวลาแบบเดิมอีกต่อไป 
ประหยัด ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ค่าที่ตรวจโควิด สวัสดิการด้านสุขภาพที่พนักงานมองกันมากขึ้น 
          นอกจากนี้ยังรวมไปถึงความมั่นคงทางอาชีพ ว่าบริษัทที่ทำอยู่มีโอกาสเติบโตหรือไม่ มีการช่วยสนับสนุนในการพัฒนาความรู้ ทักษะหรือไม่ 

          ส่วนผลสำรวจมาจาก ADP Research Institute เป็นสถาบันด้านตลาดแรงงาน เขาได้สำรวจความเห็นของพนักงาน 32,000 คน ในประเทศ สหรัฐอเมริกา อินเดีย เนเธอร์แลนด์และประเทศอื่นๆ รวมๆ แล้ว 17 ประเทศ 

          ที่น่าสนใจคือเกินครึ่งหรือ 64% ให้ความเห็นว่า จะหางานหรือดูงานใหม่หากบริษัทหรือนายจ้างให้กลับไปทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลา โดยมากที่สุดจะเป็น คนอายุระหว่าง 18-24 ปี ที่กว่า 71% ระบุว่าจะย้ายหรือมองหางานหากต้องกลับไปทำที่ออฟฟิศเต็มเวลา 

ผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความเห็นโดยสรุปว่า 

“การทำงานในปัจจุบันต้องมีความยืดหยุ่น แม้บางคนจะไม่ได้ทำงานจากที่บ้าน (ไปคาเฟ่ ไปนั่งตาม co-working) ผู้คนเคยชินกับการมีอิสระในการทำงานมากขึ้น บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องปรับ สร้างสภาพแวดล้อมในที่ทำงานให้ดี ให้ทุกคนมีส่วนร่วม  พนักงานต้องรู้สึกว่าตัวเองได้ประโยชน์จากการตื่นเช้าและเดินทางไปทำงาน ประโยชน์ที่มันคุ้มค่า ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็จะจากไป”

          มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะคิดว่า เอ้ย มันเห็นแก่ตัวไปรึเปล่า ก็คงต้องบอกว่าโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว ในมุมหนึ่งพนักงานก็ต้องเต็มที่กับการทำงาน เต็มที่ให้สมกับที่บริษัทให้ 

          หลายบริษัทก็มีการปรับตัว เช่น การทำงานแบบผสมมีทำงานที่บ้านผสมกับที่ออฟฟิศ ,การปรับที่ทำงานให้มีบรรยากาศที่ดี เพราะผลการศึกษาออกมาว่า พนักงานที่ได้พักผ่อน ได้ใช้ชีวิต มีเปอร์เซ็นต์ในการช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จมากกว่า 
 
          อย่างในประเทศไทยเองผู้เขียนสังเกตจากกลุ่มรับสมัครงาน คนรอบตัว ส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะทำงานแบบผสมหรือเลือกที่สวัสดิการดี เข้ากับในสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น ของศรีจันทร์ที่เป็นกระแสจากการปรับสวัสดิการพนักงาน เพิ่มวันลา ผ่าตัดแปลงเพศ-ลาคลอด-ลาดูแลภรรยา-ลาพักใจ โดยคุณรวิศ หาญอุตสาหะ ประเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ให้ความเห็นโดยสรุปว่า “พนักงานคือหัวใจหลักในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง การสร้างความสุขให้พนักงานคือเฟืองจักรที่ช่วยเพิ่มกำลังใจให้มุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่”

          หรืออย่างในอังกฤษที่บริษัทกว่า 70 แห่งเริ่มนำร่องให้พนักงานทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ หลังจากที่หลายแห่งลองทำแล้วได้ผล (อ่านเพิ่ม เทรนด์ทำงาน 4 วัน)

          หากให้สรุปสั้นๆ โลกการทำงานได้เปลี่ยนไปแล้ว มันเหมือนการพบกันครึ่งทางมากกว่า พนักงานมีความสุขก็มีโอกาสที่จะทำงานได้เต็มที่มากขึ้น บริษัทที่ดูแลพนักงานดี เข้าใจ พูดคุยกันก็มีแนวโน้มที่จะทำงานได้ราบรื่นมากกว่า ในขณะเดียวกันพนักงานก็ต้องเต็มที่ให้สมกับที่บริษัทให้ แล้วทุกคนมีความเห็นยังไงบ้างมาพูดคุยกันหน่อย 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook