ผู้ชายและผู้หญิงออกกำลังกายเวลาใดให้ผลลัพธ์ได้ดีที่สุด

     แม้การออกกำลังกายจะเป็นสิ่งดีต่อสุขภาพไม่ว่าจะทำช่วงเวลาใดของวัน แต่ก็มีคำถามว่าควรทำช่วงเวลาใดจึงได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ทำให้มีหลายการศึกษาเพื่อหาคำตอบในเรื่องนี้ โดยมีการศึกษาใหม่จากนักวิจัยที่วิทยาลัย Skidmore College ในนิวยอร์ก พบว่า หากหวังผลการลดไขมันที่ท้องแล้ว ผู้หญิงควรออกกำลังกายในช่วงเช้า ขณะที่ผู้ชายจะได้ผลดีกว่าหากทำในตอนเย็น

     มีการศึกษาที่นำโดย ดร. พอล อาร์เซียโร (Paul Arciero) จากวิทยาลัย Skidmore College ต่อผู้ชายจำนวน 20 คน และผู้หญิง 27 คน อายุระหว่าง 25-55 ปี ซึ่งทุกคนมีร่างกายแข็งแรง โดยเกือบครึ่งหนึ่งออกกำลังกายระหว่างเวลา 6-8 โมงเช้า ส่วนคนที่เหลือออกกำลังกายในช่วง 18.30-20.30 น. ซึ่งแต่ละคนถูกขอให้ออกกำลังกาย 4 ลักษณะในแต่ละสัปดาห์เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ประกอบด้วยการออกกำลังกายเพื่อฝึกความแข็งแกร่งของร่างกาย การออกกำลังกายเพื่อการยืดเหยียดอย่างโยคะหรือพิลาทิส การออกกำลังกายมีการใช้ความเร็วอย่างการว่ายน้ำหรือวิ่งบนเทรดมิลล์เป็นเวลา 35 นาที รวมทั้งการออกกำลังกายในลักษณะแอโรบิกอย่างการขี่จักรยาน

     การออกกำลังกายส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ยกเว้นการออกกำลังกายในแบบแอโรบิกที่ใช้เวลานานที่สุด เพื่อทดสอบความอึดของร่างกาย นอกจากนี้ ระหว่างช่วงการศึกษา 12 สัปดาห์ ผู้เข้าร่วมแต่ละคนจะถูกกำหนดมื้ออาหาร เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อผลลัพธ์จากการออกกำลังกาย

     ผลการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่ออกกำลังกายในช่วงเช้าจะกำจัดไขมันที่อยู่บริเวณท้องของร่างกายได้เฉลี่ย 10 เปอร์เซ็นต์ แต่หากออกกำลังกายในช่วงเย็นจะลดไขมันในส่วนเดียวกันนี้ของร่างกายได้เพียง 3 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามนักวิจัยระบุว่าผลลัพธ์นี้ไม่ได้ทำให้น้ำหนักโดยรวมลดลง แต่เป็นการลดไขมันที่ท้องซึ่งหุ้มอยู่ตามระบบต่างๆ ภายในร่างกายที่มีผลเสียต่อสุขภาพให้น้อยลง นอกจากนี้ยังพบว่าผู้หญิงที่ออกกำลังกายในช่วงเช้าของวันมีความดันโลหิตลดลงดีกว่าผู้ที่ออกกำลังกายตอนเย็น แม้ในช่วงเริ่มออกกำลังกายจะมีความดันโลหิตสูงกว่าเล็กน้อย

     อย่างไรก็ตามผู้หญิงที่ไม่สามารถออกกำลังตอนเช้าได้ โดยเลือกออกกำลังกายในช่วงเย็นแทน ถูกพบว่ามีความแข็งแกร่งและร่างกายส่วนบนมีกำลังมากขึ้นเมื่อถูกขอให้ยกเวท

     ส่วนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ชายระหว่างการออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นพบว่า ผู้ที่ออกกำลังกายในช่วงเย็นได้ประโยชน์ในเรื่องความดันโลหิตและลดระดับคลอเรสเตอรอลไม่ดีมากกว่า รวมทั้งจากการวิเคราะห์ลมหายใจยังพบว่ามีเผาผลาญไขมันได้มากกว่าการออกกำลังกายในช่วงเช้า แม้ว่าในช่วงของการศึกษาไขมันในร่างกายไม่ได้ลดลงมากกว่ากว่าผู้ที่ออกกำลังกายในตอนเช้าก็ตาม ซึ่งทางนักวิจัยได้ชี้ในเรื่องการลดไขมันร่างกายว่าจะเกิดขึ้นในระยะยาว ส่วนประโยชน์ในเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกายไม่มีความแตกต่างกันระหว่างการออกกำลังกายช่วงเช้าหรือเย็น

     นักวิจัยได้สรุปผลการศึกษานี้ในวารสาร Frontiers in Psychology ว่า การออกกำลังกายให้ประโยชน์โดยรวมต่อทุกคนที่เข้าร่วมการศึกษา แต่แนะนำว่าผู้หญิงควรออกกำลังกายในช่วงเช้าหากต้องการลดไขมัน และออกกำลังกายในช่วงเย็นหากต้องการเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ ส่วนผู้ชายที่ออกกำลังกายตอนเย็นจะได้ประโยชน์ในเรื่องความดันโลหิต การเผาผลาญไขมัน และลดคลอเรสเตอร์รอลไม่ดีจากร่างกายมากกว่าการออกกำลังกายตอนเช้า