ทำไมเราถึงชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

ทำไมเราถึงชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

ทำไมเราถึงชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คำแนะนำทางจิตวิทยามักจะแนะนำไม่ให้คุณเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่เอาเข้าจริงแล้วเราเข้าใจถึงวิธีคิด และทัศนคติในการเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่นกันอย่างแท้จริงหรือเปล่า เพราะจริง ๆ แล้วเราไม่สามารถที่จะหยุดความรู้สึกเปรียบเทียบได้ เนื่องจากวิธีคิดและความรู้สึกดังกล่าวนั้นส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกส่วนตัวของแต่ละคนแตกต่างกันไป ดังนั้น มาเรียนรู้กันดีกว่าทำไมเราถึงชอบเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่น

และเชื่อหรือไม่ว่าการเปรียบเทียบนั้นเป็นดาบสองคม มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้น คุณต้องไม่ติดกับดักของการเปรียบเทียบ ส่วนรายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้นติดตามกันได้เลย

ทำไมเราถึงชอบเปรียบเทียบ
การเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น หรือเปรียบเทียบสิ่งของสองสิ่งหรือหลายสิ่ง นับเป็นธรรมชาติของมนุษย์ และไม่ใช่มรดกตกทอดในดีเอ็นเอที่เลวร้าย ในความเป็นจริงเรามักจะเปรียบเทียบอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบสถานที่ที่เราอยู่ในปัจจุบันกับสถานที่ที่เราเคยอยู่ เราเปรียบเทียบตนเองในปัจจุบันกับตนเองในอดีต เราเปรียบเทียบตัวเรากับกลุ่มคนที่อายุต่างกัน หรือแม้แต่การเปรียบเทียบความรู้หรือการทำกิจกรรมกับคนอื่นที่ลงสนามเหมือนกัน ซึ่งการเปรียบเทียบเหล่านี้เป็นการเปรียบเทียบที่ก่อให้เกิดผลดีตามมา

การเปรียบเทียบทำให้เกิดการเติบโตทางความคิด
การเปรียบเทียบนั้นทำให้เรารู้ว่าเราเริ่มต้นในการสร้างรากฐานชีวิตมาอย่างไร และทำให้เรารู้ตัวเองว่าเราอยากไปไกลแค่ไหน รู้ว่าต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้ไปถึงจุดเป้าหมายที่ทำให้คนได้เปลี่ยนสภาพชีวิตและความเป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณต้องต่อสู้กับเพื่อนในรุ่นเดียวกัน ต่อสู้กับเพื่อนร่วมงาน ต่อสู้กับกลุ่มคนหรือสังคมที่เป็นกลุ่มที่เราต้องการขึ้นไปให้ถึง

ขณะเดียวกันการเปรียบเทียบที่ทำให้คุณเติบโตขึ้นนั้นจะทำให้คุณมองชีวิตได้ชัดเจนขึ้น มีพัฒนาการและความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ดังนั้น หากไม่มีการเปรียบเทียบเกิดขึ้น คุณเองก็จะไม่รู้เลยว่าเป้าหมายที่ต้องการอยู่ตรงไหน และคุณมาได้ไกลเพียงใด

การเปรียบเทียบจะสะท้อนกลับมาที่ตัวคุณ
เมื่อเกิดการเปรียบเทียบ บางครั้งคุณจะรู้ว่าคุณมีดีกว่าคนอื่นและทำให้คุณกระตุ้นตัวเองได้ตลอดเวลา และถ้าการเปรียบเทียบทำให้คุณรู้ว่าสิ่งที่คุณทำอยู่แย่กว่าคนอื่น ก็จะเป็นแรงกระตุ้นให้คุณแก้ไขและพัฒนาตนเองให้เทียบเท่ากับคนอื่น หรือถ้าการเปรียบเทียบทำให้คุณรู้ว่าสิ่งที่คุณทำอยู่ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่น คุณก็จะหันกลับมาวางแผนการใหม่ เพื่อให้สิ่งที่คุณทำอยู่นั้นมีความแตกต่างและดีกว่าคนอื่น

ด้านร้ายของการเปรียบเทียบ
ดังที่เกริ่นไว้ในข้างต้นว่าการเปรียบเทียบนั้นเปรียบเสมือนดาบสองคม หากใช้ด้วยทัศนคติที่ดี การเปรียบเทียบก็จะกระตุ้นให้คุณได้พัฒนาตนเอง แต่ถ้าเกิดการเปรียบเทียบโดยที่มีทัศนคติที่ไม่ดี ก็อาจสร้างปมในใจหรือทำให้เกิดความรู้สึกเป็นผู้แพ้ (looser) อยู่ตลอดเวลา อาทิ ถ้าคุณนำตนเองไปเปรียบเทียบกับคนที่เก่งกว่าหรือประสบความสำเร็จมากกว่าด้วยทัศนคติที่เป็นลบ คุณก็อาจบอกกับตนเองว่า “ฉันไม่มีวันทำได้อย่างเขา” หรือ “ฉันไม่สามารถดีได้เท่ากับเขา” หรือ “ฉันไม่สามารถขึ้นไปถึงขั้นนั้นได้”

ในขณะที่คนที่มีทัศนคติที่ดีและมองว่าการเปรียบเทียบเป็นตัวกระตุ้นจะมองว่า “ทำอย่างไรให้ฉันขึ้นไปสู่จุดนั้นได้” หรือ “ฉันดีกว่านี้ได้ถ้าพยายามมากกว่านี้” ซึ่งมุมมองของการเปรียบเทียบนั้นทำได้ทั้งด้านมืดและด้านสว่าง ดังนั้น ถ้าต้องการให้ตัวเองดีขึ้นเพราะการเปรียบเทียบ ควรจะหันกลับมาพิจารณาตัวเองและแก้ไขเพื่อทำให้ตัวคุณเองดีขึ้น และ มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม

สิ่งที่เราควรนำมาปรับใช้ เมื่อเกิดการเปรียบเทียบ
การเปรียบเทียบถือว่าเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ มีส่วนที่ดีคือกระตุ้นให้คนเราอยากจะทำตัวเองให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามการเปรียบเทียบก็ทำให้เกิดบาดแผลในใจได้เช่นกันหากมีการเปรียบเทียบมากจนเกินไป และทำให้คุณไม่มีความภูมิใจในตนเอง ดังนั้น หากเกิดการเปรียบเทียบขึ้นเราไม่จำเป็นต้องรู้สึกเศร้าใจหรือดูถูกตัวเอง หรือเร่งตนเองให้ประสบความสำเร็จเร็วเกินไป ขอให้เดินทางสายกลาง และมองว่าการที่เราจะดีขึ้นได้เริ่มต้นที่เราต้องเรียนรู้ในความสามารถของตนเอง และความไม่สมบูรณ์แบบที่มีอยู่ในทุกคน ทุกเพศ และทุกวัย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook