“สิ่งที่ควรทำก่อน 30 คือ…” 10 ข้อเตรียมความพร้อมให้ชีวิตมีความสุข
ในยุคปัจจุบันที่โลกหมุนเร็ว คนทั้งโลกรวมถึงคนในเมืองไทยต่างก็ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติโรคระบาดนานถึงสองปีเต็ม และยังดูทีท่าว่าจะยังไม่จบง่าย ๆ ความรู้สึกเครียดและการใช้ชีวิตที่ไม่ได้มีอิสระเหมือนเดิม ทำให้หลายคนท้อใจถึงขนาดที่คิดว่าพออายุเข้าสู่เลขสามคือช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ซึ่งในความจริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้นเลย
ความเครียดจากสถานการณ์โรคระบาดอาจทำให้หลายคนไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนในอดีต แต่เอาเข้าจริงแล้วการที่คนเราเติบโตขึ้นในแต่ละปีก็เหมือนได้เดินทางสู่ความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และในวัยที่เข้าสู่เลขสามคือการเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เริ่มมีความรับผิดชอบมากขึ้น ขณะเดียวกันคุณจะรู้จักวิธีการจัดการกับชีวิตตนเองให้เป็นระเบียบมากกว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ยุคสมัยและค่านิยมที่เปลี่ยนไปของสังคม รวมไปถึงการใช้ชีวิตอยู่กับเสียงสะท้อนในโลกของตนเอง อันเกิดจากโซเซียลมีเดีย ทำให้คำว่า “อายุน้อยร้อยล้าน” กลายเป็นเป้าหมายในชีวิตของคนยุคใหม่ที่ต้องพาตนเองไปสู่ความสำเร็จให้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น โดยไม่ต้องสนใจวิธีการหรือความเสี่ยง และไม่ได้มองถึงความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวบางคนไปถึง บางคนเกือบถึง บางคนไปไม่ถึง และอีกหลายคนนั่งโทษโอกาสและสังคมที่ทำให้ตนเองเป็นไม่ได้แบบคนอื่น
ล่าสุดมีประเด็นที่กลายเป็นไวรัลในสื่อออนไลน์ “สิ่งที่ควรทำก่อน 30 คือ…” หลายคนคงเข้าใจว่าอายุ 30 เป็นอายุแห่งการเปลี่ยนแปลง เป็นอายุที่ควรมีความมั่นคงให้กับชีวิต หรือแม้กระทั่งเป็นช่วงวัยที่ก้าวเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว ซึ่งก็ต่างความคิดกันไป ซึ่งเอาจริง ๆ แล้ว อายุ 30 เป็นช่วงวัยที่สามารถใช้ชีวิตเพื่อทำอะไรได้อีกมากมาย อาจเป็นวัยที่เริ่มต้น หรือ ประสบความสำเร็จแล้วก็ได้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมหรือโอกาสนั้น ๆ
จากกระแสไวรัลเรื่องมันเริ่มจากมีเซเลบทวิตเตอร์ท่านหนึ่งทวิตข้อความโดยเริ่มประโยคว่า “สิ่งที่ควรทำก่อน 30 คือ…” ตามด้วยการแนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ ทำหัตถการเสริมความงามต่าง ๆ อย่ารอจนสายเกินไป มีคนรีทวีตข้อความของเธอมากกว่า 6 หมื่นครั้ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีคนมองว่านี่เป็นโฆษณาแฝงของคลินิกความงาม เลยมีคนแซวเซเลบท่านนี้ด้วยการหยิบเอาประโยค “สิ่งที่ควรทำก่อน 30 คือ…” มาใช้ แล้วต่อด้วยข้อความต่าง ๆ มีทั้งที่จริงจัง และมีทั้งที่ปั่นเอาฮา จนประโยคนี้กลายเป็นไวรัลขึ้นมา
จะเห็นว่าเรามีการให้ความสำคัญเรื่องอายุมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในสัปดาห์นี้ Tonkit360 มีคำแนะนำ 10 ข้อสำหรับคนที่อยู่ในวัย 30s (ขึ้นไป) มาบอกกันว่าคุณควรเตรียมตัวอย่างไรเพื่อใช้ชีวิตในวัย 30+ ให้มีความสุขที่สุด
1. เริ่มต้นเก็บเงินสำหรับวัยเกษียณของตนเอง วัยนี้คือเหมาะที่สุดไม่เร็วไม่ช้าเกินไป
เมื่อเข้าสู่วัย 30+ หน้าที่การงานจะสูงขึ้น หรืออยู่ในตำแหน่งอาวุโสมากขึ้น เงินเดือนก็จะขึ้นตาม ดังนั้น การวางแผนออมเงิน สำหรับวัยเกษียณของตนเองจึงสำคัญมาก ควรเริ่มต้นด้วยการจ่ายหนี้สินที่มีอยู่ให้เหลือน้อยที่สุด เก็บเงินสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินไว้สักก้อนหนึ่ง
อย่าเพิ่งตัดสินใจซื้อบ้านหากคุณยังไม่พร้อม และอย่าได้ลงทุนในสิ่งที่คุณไม่เข้าใจ อย่าได้ไว้ใจโบรกเกอร์หุ้นเป็นเด็ดขาด เมื่อหลีกเลี่ยงและปลดหนี้ได้ ก็ตั้งเปอร์เซ็นต์การออมเงินจากเงินเดือนให้เท่ากันทุกเดือน เพื่อให้คุณได้มีเงินก้อน และเงินก้อนนี้จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคุณทำเป็นนิสัย และจะทำให้คุณได้อุ่นใจว่าในวัยเกษียณยังมีเงินก้อนนี้เอาไว้สำหรับใช้สอยได้
2. เริ่มต้นดูแลสุขภาพร่างกายตนเองอย่าให้ช้าไปกว่านี้
เมื่อคุณอายุ 30 ยังใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ดื่มหนักกลับเช้า เข้าทำงานต่อเป็นอย่างนี้ติดต่อกันทุกสัปดาห์ ลองนึกสภาพที่จะเกิดขึ้นในอีก 10 หรือ 15 ปีข้างหน้า คุณจะเห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยโรค ดังนั้น ในวัย 30+ จึงเหมาะสมที่สุดในการเริ่มต้นดูแลสุขภาพตนเอง หลายคนที่ช่วงวัยสามสิบใช้ร่างกายอย่างเต็มที่และเมื่อเวลาผ่านไป พวกเขามองอดีตที่ทำร้ายร่างกายตนเองที่ถูกใช้งานอย่างหนักทำให้ต้องเผชิญกับโรคร้ายในปัจจุบัน คนเหล่านั้นล้วนแล้วแต่อยากจะกลับไปแก้ไขในสิ่งที่ทำผิดพลาดเอาไว้ทั้งนั้น
3. อย่าเสียเวลาไปกับคนที่ไม่เคยให้คุณค่าคุณแม้แต่น้อย
ในวัย 30+ คุณเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะกล่าวปฏิเสธกับคนที่คอยจะเอาเปรียบคุณ และไม่จำเป็นที่คุณต้องลดค่าตนเองเพื่อที่จะทำให้คนเหล่านั้นพอใจ นี่คือช่วงวัยที่เราสามารถคัดกรองคนที่จะเข้ามาในชีวิตเราได้ ดังนั้น ไม่ต้องเสียเวลา หรือมานั่งเกรงใจคนที่ไม่เคยให้คุณค่าคุณ
4. เป็นคนที่น่ารักกับคนที่คุณรู้สึกดีด้วยและเขาก็ดีกับคุณเช่นกัน
เมื่อคุณเป็นคนน่ารักกับคนที่เขาแคร์คุณ คุณก็จะคัดสรรแต่คนที่รักมาอยู่รอบตัวคุณ ดังนั้น จงเป็นคนที่น่ารักกับคนเหล่านั้น จำเอาไว้ว่าถ้าคุณทำเงินหายคุณอาจมีโอกาสได้เงินคืนมา หากคุณต้องตกงานคุณก็ยังหางานใหม่ได้ แต่ถ้าคุณทำเวลากับคนที่มีค่าสูญหายคุณไม่สามารถเรียกคืนมาได้
5. คุณไม่สามารถเป็นทุกอย่างให้กับทุกคนได้ จงทำในสิ่งที่คุณถนัดและทำให้ดีที่สุด
เมื่อคุณอายุ 30+ จะมีโอกาสมากมายเข้ามาหาคุณ เมื่อคุณได้ลองทำอาจจะชอบในหลาย ๆ อย่าง แต่ขอให้คุณจงสนใจสิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุด เพราะคุณไม่สามารถทำหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกันให้ได้ดีได้
6. อย่างกลัวที่จะลองเสี่ยงเพื่อโอกาสที่ดีกว่า ชีวิตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
ในวัย 30+ ยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงสายอาชีพหรือเปลี่ยนแปลงตำแหน่งที่ดีกว่าได้ บางคนไม่กล้าเสี่ยงเพราะกลัวการเปลี่ยนแปลงและรู้สึกปลอดภัยที่จะอยู่ที่เดิมมากกว่า ทำให้พวกเขาได้พลาดโอกาสที่ดีไปหลายครั้ง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็อายุเข้าสู่เลขสี่ไปแล้ว สำหรับบางคนในวัย 40+ นั้นมีภาระรับผิดชอบมากมาย ดังนั้น จึงยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้เหมือนเมื่ออายุ 30+
7. ในวัย 30+ คุณยังต้องโตต่อไปและยิ่งต้องพัฒนาตนเองมากกว่าเดิม
ในชีวิตคนเรามีสมบัติสำคัญที่คุณไม่สามารถกลับไปรักษาได้ถ้าคุณต้องสูญเสียมันไป หนึ่งคือร่างกาย สองคือจิตใจ เช่นเดียวกับที่หลายคนหยุดที่จะเติบโตทางจิตใจและร่างกาย รวมไปถึงการทำงานในวัยยี่สิบปลาย เพราะคิดว่าถึงที่สุดแล้ว แต่แท้จริงแล้วในวัยสามสิบบวกนั้น เรายังสามารถปรับปรุงตัวเอง และพัฒนาร่างกายและจิตใจได้อีก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีเพื่อให้คุณเป็นผู้ใหญ่ที่มีวิสัยทัศน์และทัศนคติที่ดีมากขึ้นในวัย 40+
8. ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราจะได้ทำอะไร หรือต้องเจอกับอะไรบ้างในชีวิต
ในวัย 30+ นั้นเราจะเริ่มเรียนรู้ว่าไม่มีอะไรบนโลกใบนี้ที่เราควบคุมได้ ชีวิต ความรัก การงาน หรือแม้กระทั่งครอบครัว สามารถเกิดความเปลี่ยนแปลงโดยที่เราไม่รู้ตัว การมีชีวิต คือการพบกับความท้าทายทุกวัน ดังนั้น ในวัย 30+ คือช่วงเวลาที่เราจะทำความคุ้นเคยกับความรู้สึกในข้อนี้
9. จงให้ความสำคัญกับครอบครัว
ใช้เวลาทุกนาทีนับตั้งแต่วัยขึ้นเลขสามกับครอบครัวให้มากที่สุดทั้งกับพ่อแม่และพี่น้อง ในช่วงเวลาวัยรุ่นคือช่วงเวลาที่คุณห่างเหินจากครอบครัว เพราะมีสังคมเป็นของตนเอง ในวัย 30+ คือช่วงเวลาที่ควรกลับมาดูแลและให้ความสำคัญกับครอบครัว เพราะครอบครัวคือหลุมหลบภัยในวันที่คุณต้องเจอกับมรสุมของชีวิต
10. ใส่ใจ ดูแล และให้ความเคารพในตัวเอง
ในวัย30+ คุณเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ขอให้ปรนเปรอให้กับตนเองบ้าง ให้รางวัลกับการทำงานหนักของตนเองบ้าง อย่าใจร้ายกับตัวเองด้วยการเครียดกับสิ่งที่ไม่ควรเครียด กังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุด และ ดูแลรักษาร่างกายให้ดี ทำงานอดิเรกที่รัก หรือเล่นกีฬาที่ชอบ จะทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น