“เอ็ม หัตถ์เทพ” ทิ้งเงินแสน มาจับเงินล้านกับ “ธุรกิจเช่าพระเครื่อง”
Highlight
- เอ็ม หัตถ์เทพ หรือสถาพร วิจิตรสุนทร เคยทำงานเป็นตัวแทนขายยา ที่มีรายได้ต่อเดือนกว่าแสนบาท ก่อนจะตัดสินใจลาออก มาเริ่มทำธุรกิจเช่าพระเครื่อง
- แม้ช่วงแรกจะได้รายได้ไม่ดีนัก แต่เขาก็พยายามสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง จนกระทั่งรายได้เพิ่มขึ้นเป็นหลักแสน และพยายามไปให้ถึงหลักล้าน
- นอกจากนี้ เขายังทำคอนเทนต์ลงเฟสบุ๊กและยูทูบของตัวเอง ทั้งตอนออกไปเช่าพระ พูดคุยให้ความรู้เรื่องพระเครื่อง และพระเครื่องที่คนทั่วไปน่าจะให้ความสนใจ
การได้ทำอาชีพที่ตัวเองรัก ถือเป็นความฝันสูงสุดของคนในยุคปัจจุบัน เช่นเดียวกับ “เอ็ม หัตถ์เทพ” หรือสถาพร วิจิตรสุนทร เซียนพระสายหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ผู้หลงใหลและเก็บสะสมพระเครื่องตั้งแต่ตอนทำงานประจำ ก่อนจะผันตัวจาก “ตัวแทนขายยา” ที่มีรายได้หลักแสนต่อเดือน มาทำธุรกิจเช่าพระเครื่องรายได้หลักล้าน แม้เส้นทางในวงการพระเครื่องก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เขาก็ไม่เคยยอมแพ้ พยายามหาที่ทางและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองอย่างแข็งขัน และนี่คือเรื่องราวการเดินทางของเอ็ม หัตถ์เทพ เซียนพระผู้บุกเบิกช่องทางการเช่าพระบนโลกออนไลน์ จนมีผู้ติดตามมากกว่า 2 ล้านคน
จากความชอบพระเครื่อง สู่ธุรกิจเช่าพระ
เอ็ม หัตถ์เทพ เริ่มต้นเล่าให้ฟัง ว่าเขาเคยทำงานประจำเป็นตัวแทนขายยา ที่มีรายได้ต่อเดือนกว่าแสนบาท และความหลงใหลในพระเครื่องก็เกิดขึ้น ในขณะที่เขากำลังทำงานประจำนั่นเอง
“ตอนเป็นผู้แทนยา ผมก็อยากหาวัตถุมงคลที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจ ก็มีพระเครื่องนี่แหละ ที่น่าจะทำให้เรารู้สึกกล้าทำบางอย่างที่เราไม่เคยกล้า หรือว่ายังประหม่าอยู่ เป็นพระของพ่อที่พ่อมอบให้มา แต่เรามารู้ทีหลังว่าพระที่ได้มา เป็นพระไม่แท้ จุดเริ่มต้นเลยคือเราพยายามหาความรู้เพิ่มขึ้น มันไม่แท้ยังไง ตรงไหนมันคือพระเก๊ ตรงไหนคือพระแท้ เริ่มหาแล้วว่าพระแท้อยู่ตรงไหน เราก็ไปหาเช่ามาเปรียบเทียบ เริ่มดูว่าอันนี้แท้ อันนี้เก๊ พระมีแบบนี้ด้วย ก็เริ่มศึกษามากขึ้น แล้วพอมีพระแท้ ก็เริ่มใช้พุทธคุณ ขอหลวงปู่ ไปกราบไหว้ ก็ทำให้เราเจอประสบการณ์ต่าง ๆ”
“พระเครื่องก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุที่มีมูลค่าทางจิตใจมาก ๆ เราก็เลยเริ่มหลงใหล เริ่มเช่าเก็บมาเรื่อย ๆ เงินเดือนที่ได้เดือนละแสน ก็เอาไปเช่าพระเก็บอย่างเดียว เก็บจนวันหนึ่งเรามีพระเยอะมาก ก็เลยคิดว่าเราน่าจะออกมาทำอะไรบางอย่าง ที่เป็นอาชีพเราได้ ฐานที่เรามีไม่ใช่เงิน แต่เป็นพระเครื่องที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลาที่เราทำงานประจำมา ก็เลยเริ่มลองโพสต์ขายตามโซเชียล”
เมื่อเริ่มปล่อยเช่าพระให้คนอื่นทางโซเชียลมีเดีย รวมถึงให้กับเหล่าเพื่อน ๆ ตัวแทนขายยารอบตัว ก็ทำให้เอ็ม หัตถ์เทพ เริ่มรู้สึกว่า การปล่อยเช่าพระได้รายได้ดีกว่างานประจำเสียอีก และพระเครื่องก็เป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบ นั่นจึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และมาลุยธุรกิจเช่าพระเครื่องเต็มตัว
งานประจำ ยิ่งทำนาน ภาระยิ่งเยอะ
เพราะความเชื่อที่ว่า ไม่ว่าจะขยันหรือทุ่มเทให้กับงานประจำมากแค่ไหน ก็จะไม่สร้างความเปลี่ยนแปลงในด้านรายได้ให้กับตัวเอง จึงทำให้เอ็ม หัตถ์เทพ ตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะลาออกมาเริ่มทำธุรกิจเช่าพระเครื่องอย่างเต็มตัว
“งานประจำ ยิ่งเราอยู่นาน ภาระเราจะเยอะขึ้น หนึ่งรถเราต้องออกใหม่ สองบ้านต้องผ่อน สามเราต้องมีลูก ทุกอย่างคือภาระที่เราจะก้าวแต่ละที เราต้องคิดเยอะ ๆ ตอนนั้น HR ก็บอกว่า น้องเอ็มจะออกจริงเหรอ ตอนนี้ก็มีทั้งบ้านที่เป็นภาระ แฟนก็ยังท้องอยู่นะ ออกไปแล้วจะไม่เหนื่อยเหรอ แต่ผมก็ยังมีแนวคิดที่ว่า วันนี้ผมได้เงินแค่หนึ่งแสนบาทต่อเดือน ทำไมผมไม่ออกมา แล้วก็ลุยสิ่งที่ผมชอบ แรก ๆ มันอาจจะไม่เยอะมาก แต่ในอนาคต ผมมีโอกาสได้จับเงินล้านต่อเดือน ก็เลยเป็นแนวความคิดว่า เอาวะ ไปลุยเอาดาบหน้าแล้วกัน”
เส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
แน่นอนว่าการเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นเดียวกับธุรกิจเช่าพระเครื่องของเอ็ม หัตถ์เทพ จนทำให้เขาต้องกลับมาถามตัวเองว่าตัดสินใจผิดไปหรือเปล่าที่ลาออกจากงานประจำ แต่เขาไม่ยอมแพ้และกัดฟันสู้กับความยากลำบากที่เกิดขึ้น
“ได้รายได้หลักหมื่นอยู่สักพักหนึ่ง จนเริ่มแตะแสน เราก็เริ่มมีกำลังใจแล้ว เราเริ่มมาถูกทาง แล้วจะทำยังไงให้ไปถึงล้านบาท ก็คิดว่าต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว เพื่อให้เราโดดเด่นนิดนึง เพราะวงการพระเครื่องอยู่ที่ความน่าเชื่อถือ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น เอ็ม หัตถ์เทพ จึงเริ่มทำคลิปวิดีโอลงในโซเชียลมีเดีย ทั้งช่วงที่เขาออกไปเช่าพระ พูดคุยให้ความรู้เรื่องพระเครื่อง รวมถึงคอนเทนต์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระเครื่องที่คนทั่วไปน่าจะให้ความสนใจ แต่ผลตอบรับที่ได้ก็ไม่เป็นอย่างที่เขาหวัง
“มันไม่มีใครดู เราเป็นใครก็ไม่รู้ เป็นเด็กคนหนึ่งที่ถือกล้องมาเช่าพระ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ ใคร ๆ ก็ทำกัน แต่การทำของผม คือผมใช้ความถี่ในการทำคอนเทนต์ ก็คือผมไม่ยอมแพ้ ผมไม่โฟกัสที่คนดูเยอะหรือน้อย แต่ผมโฟกัสว่าวันนี้เราตั้งใจทำอันนี้ เพื่อเราหวังอีก 2 - 3 ปีข้างหน้า มันจะมีผลผลิตที่ดีขึ้น แล้วเราก็ค่อยเก็บผลผลิตกิน”
“ยิ่งไม่มีคนดู ยิ่งทำ ทำไมคนถึงไม่ดู เพราะเราทำอะไรผิดหรือเปล่า เราต้องทำอีก ทำให้คนเขารู้ว่าเราชอบพระ มันอาจจะกว้างไปใช่ไหม เราแคบลงเลย พระหลวงปู่โต๊ะ บีบให้แคบลง เพราะอะไรที่มันแคบปุ๊บ เป้าหมายมันจะเล็กลง มันจะพุ่งไปได้เร็ว ไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่น พอบีบแคบลง คนก็เริ่มเห็น อันนี้พระเครื่องหลวงปู่โต๊ะ เรามีนี่ ก็เริ่มส่งมา เราก็เริ่มมีคอนเทนต์ไปเช่าพระมากขึ้น เริ่มลงเยอะขึ้น แล้วก็พยายามหาวิธีว่า อะไรก็ตามที่คนดูไม่ชอบ เราก็จะไม่ทำ”
ผลลัพธ์มหาศาล ถ้าได้ทำสิ่งที่ชอบ
ปัจจุบันนี้ การเข้าถึงความรู้และข้อมูลไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ยากอีกต่อไป เอ็ม หัตถ์เทพจึงแนะนำคนที่อยากเข้าวงการพระเครื่อง ว่าให้เริ่มต้นศึกษาจากคลิปวิดีโอที่เซียนพระหลายคนมาลงคลิปสอนบนเฟสบุ๊กหรือยูทูบ
“ในยุคนี้ คนเราไม่จำเป็นต้องมีแค่หนึ่งอาชีพ อาชีพเสริมที่สอง ที่สามก็ได้ ถ้าเราชอบอะไรก็ลองไปทำสิ่งนั้นดู แต่เราก็ยังคงอาชีพเดิมไว้ก่อน ลองทำอาชีพเสริมดูว่า เราโอเคไหม มันดีไหม แล้ววันหนึ่งถ้ามันเวิร์ก คือเรารู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งที่เราชอบ เรารักจริง ๆ ก็ให้เราลองออกมาทำเต็มตัวดู แล้วผลลัพธ์ที่ได้ มันจะมหาศาลเลย” เอ็ม หัตถ์เทพทิ้งท้าย
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ