3 อาหารที่ไม่ควรกินทุกเช้าจากคำแนะนำนักจัดอาหารชาวญี่ปุ่น
อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญสำหรับการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยสุขภาพกายใจที่แข็งแรง มีอาหารเช้าหลายชนิดที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่นิยมรับประทานเพราะความสะดวกและรวดเร็วในช่วงเวลาที่เร่งรีบ แต่อาหารที่คนทั่วไปคิดว่าเป็นอาหารเช้าคุณภาพดีกลับกลายเป็นอาหารที่นักจัดอาหารชาวญี่ปุ่นแนะนำให้หลีกเลี่ยงในการนำมารับประทานเป็นอาหารเช้าทุกวัน มารู้กันว่าอาหารเหล่านั้นมีอะไรกันบ้าง
สมูทตี้หรือน้ำผักผลไม้ปั่น
สมูทตี้หรือน้ำผักผลไม้ปั่นเป็นเครื่องดื่มที่คนญี่ปุ่นโดยเฉพาะนางแบบและดาราส่วนใหญ่เชื่อว่ามีคุณค่าสารอาหารที่ดีต่อความงามและช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย แต่ในความเป็นจริงแล้วการดื่มสมูทตี้อย่างเดียวเป็นอาหารมื้อเช้าทุกวันอาจส่งผลเสียต่อร่างกายดังนี้คือ
ทำให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลงส่งผลเสียต่อการลดน้ำหนัก
สมูทตี้ที่เย็นจัดและส่วนประกอบในเครื่องดื่มชนิดนี้ทำให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลงซึ่งอาจส่งผลในการทำลายระบบการเผาผลาญพลังงานขั้นพื้นฐาน ทำให้การลดน้ำหนักเป็นไปได้ยาก ในทางกลับกันอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มได้ง่ายขึ้น
ทำให้แก่เร็วขึ้น
ด้วยการปั่นจนละเอียดทำให้สามารถดื่มสมูทตี้ลงคออย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเคี้ยว แต่การกลืนส่วนผสมของผักและผลไม้โดยไม่เคี้ยวส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถหลั่งฮอร์โมน Parotin ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความงามออกมา ทำให้มีกระบวนที่ทำให้แก่เร็วขึ้นเกิดขึ้นในร่างกายได้ง่าย
การดื่มสมูทตี้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกาย ทำได้โดยการหลีกเลี่ยงการดื่มสมูทตี้เพียงอย่างเดียวเป็นอาหารมื้อเช้า แต่ให้ดื่มพร้อมรับประทานอาหารเช้าอุ่นๆ และเคี้ยวอย่างช้าๆ
กราโนลา (Granola) หรือซีเรียลธัญพืช
โดยปกติซีเรียลธัญพืชที่หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปจะมีส่วนผสมของข้าวโอ๊ต ถั่วต่างๆ น้ำเชื่อมไซรัป น้ำผึ้ง น้ำตาลกลูโคส ผลไม้แห้ง และน้ำมันพืช เป็นต้น มีงานวิจัยหลายชิ้นรายงานว่าซีเรียลธัญพืชมีปริมาณน้ำตาลสูงกว่าในคุ้กกี้ หากรับประทานเป็นอาหารเช้าจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและส่งผลให้อ้วนได้ง่าย ดังนั้นหากเป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยงรับประทานซีเรียลเป็นอาหารเช้า แต่หากอยากรับประทานซีเรียลธัญพืชจริงๆ ก็สามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เติมน้ำตาลหรือน้ำมันแทน
เครื่องดื่มที่มีรสหวาน
ในช่วงการนอนหลับตอนกลางคืนและตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ร่างกายคนเราจะอยู่ในสภาวะขาดแคลนอาหาร การรับประทานเครื่องดื่มหวานๆ หรือเครื่องดื่มผลไม้สำเร็จรูปเข้าไป จะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมาเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะทำให้รู้สึกเฉื่อยชาแทนความรู้สึกกระฉับกระเฉงกระปรี้กระเปร่าในระหว่างวัน การรับประทานผลไม้เป็นอาหารเช้าแทนน้ำผลไม้ 100 เปอร์เซ็นต์ จะทำให้ร่างกายได้รับเส้นใยอาหารและคุณค่าสารอาหารที่มากกว่า อีกทั้งยังได้เคี้ยวเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน Parotin ออกมาได้ดี อย่างไรก็ดี หากอยากดื่มน้ำผลไม้จริงๆ ก็ให้ดื่มเพียงแค่ 1 แก้ว แล้วดื่มน้ำตามเข้าไปเยอะๆ
เพื่อนผู้อ่านจำนวนมากอาจรับประทานอาหารเช้าดังกล่าวข้างต้นเป็นประจำทุกวัน หากรู้สึกกังวลก็อาจใช้วิธีการลดปริมาณอาหารดังกล่าวให้น้อยลง และเพิ่มอาหารที่มีคุณค่าสารอาหารต่อร่างกาย เช่น ผัก ผลไม้ เมล็ดธัญพืช และไข่ เป็นต้น เข้าไป เพื่อให้ได้เคี้ยวกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอิ่มแบบพึงใจ รวมถึงช่วยป้องกันการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของระดับน้ำตาลในเลือดได้ค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก news.yahoo