สิงห์อมควันช้าก่อน “บุหรี่ไฟฟ้า” อันตรายกว่าบุหรี่มวน!
ทุกวันนี้วัยรุ่นส่วนใหญ่ไม่ค่อยดูดบุหรี่มวนกันแล้ว แต่หันไปดูด “บุหรี่ไฟฟ้า” แทน และเมื่อไรที่เริ่มปล่อยควันออกจากปาก ทุกคนคงเคยได้เห็นควันที่มีปริมาณเยอะมาก ๆ และมีกลิ่นหอมเป็นกลิ่นผลไม้ กลิ่นขนมต่าง ๆ ด้วยความหอมและเข้าถึงง่ายนั้น จึงทำให้วัยรุ่นในยุคนี้หลายคนเลือกที่จะซื้อสิ่งเหล่านี้มาดูด ถึงแม้จะยังผิดกฎหมายก็ตาม
บางคนอาจคิดว่าดูดบุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยให้เลิกบุหรี่มวนได้และสุขภาพของปอดดีกว่า แต่หารู้ไม่ว่าบุหรี่ไฟฟ้านี่แหละที่เป็นตัวการของความเจ็บป่วยทั้งหลาย เพราะควันปริมาณมาก ๆ ที่เห็นนั้น สามารถทำลายสุขภาพได้มากมายทีเดียว การสูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เราได้สูบ “นิโคติน” เข้าไปถึง 1 แท่งสารนิโคติน และ 1 แท่งสารนั้นก็เท่ากับบุหรี่ซองถึง 20 มวน นั่นหมายความว่าบุหรี่ไฟฟ้า 1 แท่งมีสารนิโคตินเท่ากับบุหรี่ซอง 20 มวน โดยสารนิโคตินนี้มีผลทำให้หงุดหงิดง่าย ปวดหัว อารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง นับเป็นสารพิษทำลายสมอง
กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจส่งผลทำให้เกิดโรคและภัยสุขภาพได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคปอดอักเสบรุนแรง ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการไข้ หนาวสั่น ไอ หายใจลำบาก ปวดเมื่อยตามตัว รวมถึงอาการทางระบบทางเดินอาหาร
จากการเฝ้าระวังข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ในประเทศไทย พบว่าผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในท้องตลาดมีความหลากหลายในส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์และในบางยี่ห้อไม่สามารถระบุสารตั้งต้นในการผลิตได้ พร้อมทั้งมีการโฆษณาสรรพคุณเกินจริง รวมถึงบิดเบือนข้อมูลว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ จนอาจก่อให้เกิดความหลงเชื่อ เข้าใจผิด และนำไปสู่การใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
ที่ผ่านมามีการพบผู้ป่วยโรคปอดอักเสบรุนแรง (EVALI) โดยมีสาเหตุมาจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเกิดจากความเข้าใจผิดว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่เป็นอันตราย และไม่ทำให้เกิดโรคร้ายต่อสุขภาพ จนทำให้เกิดการป่วยแบบเฉียบพลันขึ้น
เช็กอาการผลกระทบจากควันบุหรี่ไฟฟ้า
ผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากควันบุหรี่ หากมีอาการไข้ หนาวสั่น ไอ หายใจลำบาก ปวดเมื่อยตามตัว รวมถึงมีอาการในระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการรองรับสถานการณ์ดังกล่าว ขอความร่วมมือไปยังโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศให้จัดระบบเฝ้าระวังและรายงานข้อมูลผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่ายโรคปอดอักเสบรุนแรงให้กรมควบคุมโรคทราบ
บุหรี่ไฟฟ้าทำลายสุขภาพ
ขอเน้นย้ำไปยังประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนว่าสูบบุหรี่ไฟฟ้าทำลายสุขภาพเป็นอย่างมาก อย่าหลงเชื่อหรือตกเป็นเหยื่อโฆษณาที่ว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าทางเลือกในการช่วยเลิกสูบบุหรี่ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค 0 2590 3850 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
การขายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยผิดกฎหมาย
การขายบุหรี่ไฟฟ้าในไทยเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายหลายฉบับ กรมควบคุมโรคจึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมการนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ความผิดที่เข้าข่ายคือ
1. ฐานนำหรือพาของที่ยังมิได้เสียค่าภาษีโดยถูกต้อง เข้ามาในราชอาณาจักร
2. ฐานช่วยซ่อนเร้น จำหน่าย หรือรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษี หรือโดยหลีกเลี่ยงอากร
3. ฐานประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง โดยไม่ได้จดทะเบียนการประกอบธุรกิจ กรณีที่เป็นการจำหน่ายทางเว็บไซต์
4. ฐานขายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลาก แต่กรมควบคุมโรคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังหาทางออกร่วมกันในการแก้ไขกฎหมายให้ครอบคลุมบุหรี่ไฟฟ้าในทุกมิติต่อไป
นอกจากนี้ บุหรี่ไฟฟ้าที่ทำรูปร่างเลียนแบบบุหรี่ ยังถือเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 มาตรา 10 คือ ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต นำเข้าเพื่อขาย หรือเพื่อจ่ายแจกเป็นการทั่วไป หรือโฆษณาสินค้าอื่นใดที่มีรูปลักษณะทำให้เข้าใจได้ว่า เป็นสิ่งเลียนแบบผลิตภัณฑ์ยาสูบ ประเภทบุหรี่ซิกาแร็ต หรือบุหรี่ซิการ์ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
แม้ยังไม่มีข้อกฎหมายที่เอาผิดโดยตรง แต่ในอนาคตกำลังมีการผลักดันกฎหมายให้ครอบคลุมตามทันผลิตภัณฑ์ยาสูบแปลงกายในทุกรูปแบบ เพื่อจะได้ควบคุมและลดโอกาสเกิดนักสูบหน้าใหม่ที่เกิดความเข้าใจผิด เพราะการโฆษณาชวนเชื่อของผู้ขายบุหรี่ไฟฟ้า ข้อน่ากังวลสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ธรรมดาอยู่แล้วและพยายามเลิกด้วยบุหรี่ไฟฟ้า อาจยังไม่น่าวิตกเท่าความเย้ายวนใจให้เยาวชนได้ลิ้มลองบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมีกลิ่นรสหอมหลากหลาย นำไปสู่การเสพติดสารนิโคตินในน้ำยาของบุหรี่ไฟฟ้า
หนทางที่ดีที่สุดคือ การหักห้ามใจ อย่าริลอง คนที่คิดเลิกบุหรี่ก็ต้องหนักแน่น คิดถึงอันตรายที่ยังไม่เกิดผลวันนี้ แต่จะสะสมแล้วสำแดงเดชในวันหน้า