อย่าให้ความรักบังตา! สัญญาณว่าแฟนอาจรักเงินคุณมากกว่าคุณ
มิจฉาชีพ บ่อยครั้งก็มาในรูปแบบของคนใกล้ตัว คนที่รู้จักกัน หรือคนที่รักกันนี่แหละที่หลอกลวงได้กันได้ง่าย ๆ แบบที่หลายคนอาจเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการ “ลวงให้รัก” และ “หลอกให้โอนเงิน” หรือที่เรียกว่า“โรมานซ์สแกม”(Romance Scam) ของพวกมิจฉาชีพกันอยู่บ่อย ๆ แต่ลักษณะนั้นมักจะเป็นการพบรักจากทางออนไลน์ ที่อาจจะยังไม่ทันได้รู้จักกันดี หรือยังไม่ได้คบกันเป็นกิจจะลักษณะ แค่หลอกให้เหยื่อตายใจได้ ก็เริ่มออกลายเรื่องเงินแล้ว
ทว่าจะมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้เข้ามาหลอกลวงซึ่ง ๆ หน้าแบบมิจฉาชีพ และอาจจะไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกลวงตั้งแต่ทีแรก อาจเกิดขึ้นหลังจากที่คบกันไปแล้วเห็นว่าอีกฝ่ายรักตัวเองมาก บวกกับเกิดความโลภอยากได้นั่นได้นี่แต่ไม่อยากใช้เงินตัวเองซื้อ ก็เลยใช้ประโยชน์จากตรงนั้นในการปอกลอกเงินจากอีกฝ่าย หรือบางคนอาจเห็นว่าอีกฝ่ายดูเป็นสายเปย์มากตอนที่เข้ามาจีบใหม่ ๆ ก็เลยยอมคบหรือยอมแต่งงานด้วยก็เพื่อหวังเกาะอีกฝ่ายกิน เพราะคิดว่าต่อไปขออะไรก็น่าจะได้ กรณีแบบนี้มีให้เห็นไม่น้อยในสังคม หลาย ๆ คนเคยมีประสบการณ์ที่ประสบพบเจอมาด้วยตัวเองด้วยซ้ำไป
ความสัมพันธ์แบบนี้จะเรียกว่ามิจฉาชีพกับเหยื่อก็ไม่ใช่ แต่จะบอกว่ามันเป็นความรักก็ไม่เชิง เพราะจริง ๆ แล้วอาจมีแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่รักตัวคน แต่อีกฝ่ายกลับรักเงินของอีกคนมากกว่าก็เป็นไปได้ ยิ่งในยุคนี้สมัยนี้ เป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะไว้ใจใครได้ แม้กระทั่งคนรักของคุณเอง ที่สำคัญเรื่องเงินเรื่องทองก็เป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใครด้วย กลายเป็นมือที่ 4 ที่ทำความสัมพันธ์ร้าวฉานมานักต่อนัก โดยเฉพาะกับคนโลภ ที่ถ้าลองได้โลภอยากได้อยากมีแต่ไม่อยากใช้ทุนทรัพย์ของตัวเองแล้วล่ะก็ ก็จะหยุดพฤติกรรมคบเพื่อหวังเงินไม่ได้
ฉะนั้น คุณเองอาจต้องตั้งสติดี ๆ ในการพิจารณา ว่าคุณกำลังใช้เงินเพื่อความรักกับคนคนนี้อยู่หรือไม่ สิ่งที่คุณให้และสิ่งเขาหรือเธอเรียกร้องจากคุณหลังอยู่ในความสัมพันธ์ มันอยู่ในขอบเขตที่คนรักทั่วไปให้กันได้ หรือกำลังถูกขูดรีดอยู่ ในยุคสมัยที่เงินทองหายาก ค่าครองชีพพุ่งขึ้นพรวด ๆ แต่เงินเดือนหยุดแช่แน่นิ่ง คุณเองไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง และไม่ได้มีกำลังมากพอจะหาเงินตัวเป็นเกลียวเพื่อให้คนคนหนึ่งผลาญทิ้งได้ทุกวัน คุณก็อาจจะต้องระมัดระวังตัวและเงินในกระเป๋าให้มากขึ้น ยิ่งถ้าหากจุดเริ่มต้นมาจากการที่คุณเป็นสายเปย์มาก่อน นานวันเข้าจะยิ่งหนักข้อ และคุณจะแบกรับนู่นนั่นนี่ที่แฟนคุณจะเอาเงินคนเดียวไม่ไหวอีกต่อไป
ชีวิตวนเวียนอยู่แต่เรื่องเงิน
มีอยู่จริงนะ คนที่หายใจเข้าหายใจออกเป็นเงิน และมักจะพูดเรื่องต่าง ๆ ที่วนเวียนอยู่กับเงินเสมอ อันที่จริงคนประเภทนี้ก็มีหลายแบบ บางคนพูดเรื่องเงินในขณะที่ตัวเองก็ไม่เคยหยุดที่จะหาเงิน แต่บางคนก็พูดเรื่องเงินให้ดราม่าเพื่อให้หวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือมากกว่า ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าการวนเวียนอยู่แต่กับเงินของเขาหรือเธอมักจะตามมาพร้อมกับพฤติกรรมทำมาหากินเพื่อหาเงินเองก็น่าชื่นชมเลยแหละ เขาหรือเธอไม่ได้อยากยุ่งกับเงินของคุณเท่าไร แต่ถ้าไม่เคยมูฟออนจากเรื่องเงินแต่ก็เห็นว่าฟุ่มเฟือยเป็นปกติ แล้วจบด้วยการอ้อนขอความช่วยเหลือ ก็ระวังไว้นิดนึง
ใด ๆ ในชีวิตล้วนดราม่า
ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าชีวิตคนเราขับเคลื่อนด้วยเงิน จะมากน้อยก็ต้องใช้เงิน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชีวิตของคนบางคนเต็มไปด้วยเรื่องดราม่าทางการเงินอยู่บ่อย ๆ จนในหัววนเวียนอยู่แต่กับเรื่องเงิน ทว่ามันจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก หากทุกครั้งที่คุณได้ยินปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของคนรัก แล้วมันไม่จบด้วยปฏิกิริยาที่คาดหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินอยู่ร่ำไป บางทีก็พูดตรง ๆ เลยว่าขอเงิน แรก ๆ คุณก็อาจจะเต็มใจช่วยเหลือที่คนรักลำบาก ช่วยได้ก็ช่วย แต่หลัง ๆ คุณชักเริ่มสงสัยความดราม่าที่ทั้งบ่อยทั้งทั้งถี่ แถมพฤติกรรมการใช้เงินก็อู้ฟู่แม้ปากบอกว่ามีปัญหาการเงิน
ที่ยืมไปยังไม่มีกำหนดคืน
จุดเริ่มต้นแรก ๆ ของคนรักที่ดูจะรักเงินของคุณมากกว่าตัวคุณ คือ การขอยืมเงินแล้วบ่ายเบี่ยงเรื่องคืน โดยเฉพาะกับคนรักที่ยังอยู่ในช่วงคบหาดูใจ ปกติแล้วมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าลำบากใจเวลาที่จะยืมเงินคนใกล้ตัว เพราะถ้ามีปัญหาขึ้นมานี่ถึงขั้นไม่เผาผีกันเลย แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าเวลาตกที่นั่งลำบากมาก ๆ ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครมันก็จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือ อีกฝ่ายก็เต็มใจช่วยเหลืออยู่แล้วเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้ายืมไม่จบไม่สิ้น หนี้เก่ายังไม่มีกำหนดคืน ก็อยากได้หนี้ใหม่อีกแล้ว เตรียมปวดหัวได้เลย คุณจะรู้สึกผิดที่จะทวงด้วย ด้วยข้ออ้างว่านั่นคือแฟน
จากยืมกลายเป็นขอ ล้างหนี้ให้กันเถอะ
การคบหาเป็นคนรักกัน ไม่ได้หมายความว่าจะใกล้ชิดสนิทสนมกันจนปราศจากความเกรงใจให้กันได้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องปกติที่คนรักกันจะช่วยเหลือกันเท่าที่ช่วยได้ โดยเฉพาะเรื่องเงินในเวลาที่ลำบาก ในฐานะคนรักที่ดีบางคนให้ยืมได้ บางคนก็ให้เปล่าเลยด้วยความเต็มใจโดยไม่ต้องร้องขอ แต่บางทีการที่อีกฝ่ายดันใจกล้าขอให้ล้างหนี้ที่เคยยืมเงินโดยใช้สิทธิ์ว่าเป็นคนรักนั้นออกจะสร้างความสะพรึงไม่น้อย หรืออาจจะเปลี่ยนคำเพื่อให้ได้มาซึ่งเงิน จากยืม (เดี๋ยวคืน) เป็นขอ (ให้เปล่า) เจตนามันชัดเจนไปหน่อย เงินเขาเขาก็ต้องใช้ ถ้ายืมมาก็ต้องคืนไป
เรียกร้องแต่ของแพง
ในทุก ๆ เดือนจะต้องมีวันสำคัญสักวันหรือสองวัน เพื่อเป็นโอกาสที่ดีในการเรียกร้องหรือคาดหวังของขวัญราคาแพง ซึ่งคุณเองก็ไม่รู้ว่าเขาหรือเธอไปสรรหาวันสำคัญพวกนี้มาจากไหนเยอะแยะ หรือบางทีแค่นัดกินข้าวกันตามประสาคนรัก ก็ไปจบที่ภัตตาคารราคาแพงเสมอ จ่ายมื้อละหลายพันทั้งที่ไม่ได้มีเหตุการณ์สำคัญอะไร การเดตที่ร้านปิ้งย่าง ชาบู หมูกระทะ ร้านบุฟเฟต์ราคาร้อยต้น ๆ หรือแม้แต่ร้านส้มตำ ร้านอาหารตามสั่ง แบบที่คู่รักอื่น ๆ เขาทำกัน คุณไม่เคยมีโอกาสใช้ชีวิตธรรมดา ๆ แบบนั้นบ้างเลย ซึ่งถ้าไม่แพงพอ เขาหรือเธอก็จะแสดงอาการไม่พอใจอย่างชัดเจน
คุณเป็นคนเปย์ตลอด
จริง ๆ แล้วการเลี้ยงข้าวแฟนหรือซื้อของให้มันก็ไม่ใช่ภาระหนักหน่วงอะไรถึงขั้นที่ต้องมานั่งคิดเล็กคิดน้อยหรอกถูกไหม ในเมื่อเขาหรือเธอเป็นคนที่คุณรัก แค่นี้มันเรื่องเล็กแล้วคุณก็เต็มใจ แต่ถ้าเหตุการณ์ที่คุณเป็นคนควักกระเป๋าจ่ายมันบ่อยมากจนแทบจะพูดได้ว่าทุกครั้งนับตั้งแต่อยู่ในความสัมพันธ์กันมา แถมหมดเงินหลักพันไปกับการเดตถี่มากในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่เคยมีครั้งไหนจ่ายต่ำกว่านี้ รวมถึงคุณก็ไม่มีภาพในความทรงจำเลยว่าอีกฝ่ายเคยเป็นผู้ให้ ควักกระเป๋าซื้ออะไรให้คุณตอนไหนบ้าง ถ้าคุณไม่ได้ผลิตเงินได้เอง คุณก็น่าจะรู้สึกตัวได้แล้วล่ะนะว่ามันทะแม่ง ๆ
ถ้าคุณไม่มีเงิน เขาหรือเธอก็เปลี่ยนไป
ข้อนี้อาจจะชัดเจนที่สุดว่าที่ผ่านมาคนที่คุณคบอยู่นั้นน่าจะรักเงินของคุณต่างหากไม่ใช่ตัวคุณ และที่ผ่านมาเขาหรือเธอก็ทำเนียนสูบเลือดสูบเนื้อจากคุณอยู่ ในวันที่แฟนของคุณเดือดร้อนและมีปัญหาเรื่องเงิน คุณเองที่เคยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้มาโดยตลอด ทั้งแบบเต็มใจและแบบมัดมือชก แต่พอเป็นตาคุณเดือดร้อนบ้าง คุณก็สัมผัสได้ทันทีว่าการมีคนรักแบบที่ไม่เคยช่วยเหลือกันมันเป็นยังไง นอกจากจะไม่ช่วยเหลือแล้ว นิสัยยังเปลี่ยนไป แม้แต่กำลังใจก็ไม่มีให้ อย่างนี้คงต้องเลิกรากันในไม่ช้า และต้องระวังว่าเขาหรือเธอจะกลับเข้ามาในวันที่คุณกลับมามีอีกครั้งด้วย