Growth Mindset กับคนทำงานในปี 2023

ไม่ว่าจะปีเก่าหรือปีใหม่ สิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของปากท้องเป็นสำคัญ คนทำงานยังต้องตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาตัวเองเพื่อให้ได้ไปต่อในสายงานที่ทำอยู่ เพราะนอกจากเทคโนโลยีจะเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญแล้ว คนด้วยกันเองก็ยังคงเป็นคู่แข่ง เพราะถ้าหากองค์กรจำเป็นต้องลดขนาดเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ คนทำงานส่วนหนึ่งต้องออกจากสายงานไป และมีบางส่วนที่ได้อยู่ต่อ คำถามคือ คนทำงานแบบไหนล่ะที่องค์กรจะยังเก็บไว้ หรือคนทำงานแบบไหนที่องค์กรต้องการ คนที่มีศักยภาพมากพอที่จะจ้างงาน

เป็นเรื่องธรรมดาที่องค์กรจะเฟ้นหาบุคลากรที่มีคุณภาพ
เรื่องปกติที่องค์กรต่าง ๆ จะเฟ้นหาบุคลากรที่มีคุณภาพเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาทีม และเพื่อการเติบโตขององค์กร ในจำนวนของผู้สมัครงานนับร้อยนับพัน องค์กรจะต้องคัดเอาบุคลากรที่มีศักยภาพที่เป็นประโยชน์ต่อทีมมากที่สุดเข้ามา ซึ่งองค์กรมักจะมองหาผู้ที่มีทักษะการทำงานทั้งในด้าน Soft Skills และ Hard Skills หรือแม้แต่ Meta Skills ซึ่งเป็นทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต เป็นความสามารถในการพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เพื่อนำมาพัฒนาการทำงาน เพราะเราต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่ถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว จึงต้องมีทักษะในการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่คนอื่น ๆ ก็พยายามดิ้นรนเหมือนเช่นกัน แต่ใครไวกว่าได้เปรียบ

ทัศนคติและความคิด คือสิ่งที่ทำให้บุคลากรแตกต่างกัน
“ทัศนคติ” มักจะถูกนำมาพิจารณาเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จทางหน้าที่การงาน มันเป็นปัจเจกเฉพาะตัวว่าใครมีแนวความคิดเห็นต่อมุมมองในการทำงานอย่างไรที่จะพาตัวเองและองค์กรไปสู่ความสำเร็จ หากมีทัศนคติที่ใช่และทัศนคติเชิงบวก ก็มีแนวโน้มว่าจะได้ไปต่อ นอกจากนี้ เรื่องของกรอบความคิดที่เป็นตัวกำหนดทัศนคติก็เช่นกัน การรับบุคลากรใหม่เข้ามาทำงานในองค์กรในยุคที่ทุกอย่างเร็วต่อการเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทำให้หลายองค์กรมองหาคนประเภทที่กล้าเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลง ต่อให้ต้องเจอความล้มเหลวก็ยังลุกขึ้นมาใหม่ได้เสมอ รวมถึงไม่กล้วความท้าทายต่าง ๆ นี่เป็นคุณสมบัติของ Growth Mindset ที่องค์กรมองหา

Growth Mindset สำคัญต่อการทำงานอย่างไร
Growth Mindset เป็นลักษณะความคิดและความเชื่อว่าฉันนี่แหละที่เป็นคนกำหนดว่าต้องรู้อะไร ดังนั้น ผู้ที่มี Mindset แบบนี้จะเปิดรับการเรียนรู้ทุกอย่างเพื่อนำมาใช้พัฒนา ปรับปรุง และเติมเต็มในส่วนที่ตนเองยังไม่มี เชื่อว่าความเก่ง ความฉลาดเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นได้ จึงกลายเป็นคุณสมบัติที่ผู้จ้างงานมองหาในตัวพนักงาน เนื่องจากเป็นแนวความคิดที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตนเองเสมอเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ของความไม่แน่นอน การปรับตัวได้เร็วและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ไวจะช่วยให้ก้าวข้ามสถานการณ์ไม่สู้ดีได้ ซึ่งจะมีผลต่อทุกสิ่งในการทำงาน ตั้งแต่วิธีตอบสนองต่อคำติชม ไปจนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาทีม

Growth Mindset กุญแจสำคัญต่อการเติบโต
เนื่องจาก Growth Mindset เป็นกรอบแนวคิดของคนที่แสวงหาการเติบโต การเติมเต็มในส่วนที่ตัวเองขาด ไม่หยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเอง คนประเภทนี้เชื่อว่าตราบใดที่โลกไม่หยุดหมุน เราก็หยุดพัฒนาตัวเองไม่ได้ ทำให้องค์กรเห็นว่าคนประเภทนี้คือคนที่จะสามารถปรับตัวได้หากความเปลี่ยนแปลงมาเยือน รู้จักพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะขวนขวายเอาตัวรอด เพื่อให้ตัวเองเก่งขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด Growth Mindset นี่เองที่เป็นกุญแจนำไปสู่ความสำเร็จไม่ว่าจะกับเรื่องใดก็ตาม เพราะมันคือชุดความคิดว่าตัวเองมีความสามารถ รู้ว่าตัวเองต้องพัฒนาอะไร ต้องทำอะไรเพื่อพาตัวเองไปข้างหน้า เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อการเติบโต

Growth Mindset ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ
คนทำงานประเภทที่มีความคิดแบบ Growth Mindset จะมองว่าอุปสรรคที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ปัญหาที่ต้องมานั่งฟูมฟาย ไม่มีประโยชน์ แต่คนเหล่านี้จะพลิกแพลงวิกฤติให้กลายเป็นโอกาส พร้อมเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเอง ค่อย ๆ เรียนรู้ ไม่ดูแคลนความพยายามและความสามารถของตนเอง เชื่อว่าตัวเองจะสามารถก้าวข้ามผ่านวิกฤติและความกลัวได้ในที่สุด ดังนั้น อุปสรรคจึงกลายเป็นโอกาสที่ทำให้คนเหล่านี้ได้พัฒนาตนเองและก้าวข้ามขีดจำกัด ทำงานหนักในช่วงเปลี่ยนผ่าน ขวนขวายเรียนรู้ หรือลองสิ่งใหม่ โดยไม่สนว่าจะสำเร็จหรือไม่ เพราะถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ พลาดก็ไม่เห็นจะเสียหาย ดีเสียอีกที่ได้ประสบการณ์